อยากรู้เรื่องเข้าทรงองค์เทพ บอกหน่อยสิ

ขอแนะนำว่า การปฏิบัติหลังจาก การรับเป็นร่างของท่านแล้วอยากมาก โดยเฉพาะการทำตน ปฏิบัติตน และปฏิบัติใจนั้นเป็นหนทางที่ไม่ได้เดินกันไปง่าย เพราะการเป็นร่าง ง่ายกว่าการที่จะรักษาความเป็นสื่อที่ดีต่อเทพ และผู้ที่เป็นลูกศิษย์ สิ่งที่ต้องรักษาไม่ให้ผิด คือโมหะหรือความหลงในทั้งมวล และต้องลดทิฐิ ให้มาก ถ้าคุณปฏิบัติดี ครบคุณก็ไม่ได้รวยมหาศาล ถึงคุณรวยคุณก็มิสามารถใช้เงินได้ดังใจไปทุกอย่างการจะสละตนเองเพื่อ สิ่งใดต้องไตร่ตรองให้มาก คุณจงดูตัวอย่าง ทำไมบางคนที่ว่าเป็นร่าง แล้วถึงโดนอย่างนู้น อย่างนี้ รวยได้ในพริบตา ตกต่ำเพียงข้ามคืน นี่ คือผู้ที่ไม่ผ่านการปฏิบัติ ไม่ใช่เทวดาฟ้าดินทำแต่ มนุษย์เดินดินทำตนเองเพราะไม่ผ่านกิเลส และความลุ่มหลงของตนเองได้ ไม่สามารถสละทิฐิที่ไม่ดีออกไปจากใจได้ ของฟรีไม่มีในโลก

การที่จะได้เป็นร่างหรือไม่ คือ คนที่ถูกเลือก เมื่อท่านมาประทับไม่ต้อง ท่องคาถาใดๆเลย ทำสมาธิให้แน่วแน่เป็นพอ แต่จะได้หรือไม่ ขอแนะนำว่าไม่ควรไปขอเอง

เพราะ ขนาดผู้ที่ถูกเลือกยังมีหลายคนที่ไม่ผ่านแล้วบุคคลที่ไม่ได้รับเลือกจะต้องปฏิบัตมากกว่าเท่าใด การที่จะถูกเลือกหรือ ไม่คือ วาสนา ที่มีมาแต่พบที่แล้ว การปฏิบัติตน สั่งสมความดี บุญบารมี ของตนเองที่มีมาจากสัญญาเดิมเป็นการชักนำ

การเชิญนั้น ร่างไม่ต้องสวด เพราะการปฏิบัติต้องสวดทุกวันอยู่แล้ว คาถาก็ต้องท่องทุกวัน จะเกิดอะไรขึ้นนั้น แล้วแต่ตัวคุณ ซึ่งเป็นทีวี หรือเครื่องรับวิทยุได้ดีแค่ไหน นี่คือสื่อระหว่างผู้เดือดร้อนกับผู้ที่มาโปรดสัตว์โลก

การที่คิดว่าจะออกมาเต้นเหมือนที่บวงสรวงวัดแขกไม่หรอกค่ะ เพราะท่านไม่ได้มาแสดงการร่ายรำอย่างนั้นทุกครั้ง และแล้วแต่องค์ที่มา ปางค์ที่มาด้วย ส่วนคุณจะรู้ตัวหรือไม่ หรือเหมือนแค่นอนหลับ ขึ้นกับการปฏิบัติต่อร่างกายหยาบของคุณ เช่นถือพรมจรรย์ รักษาศีลได้กี่ข้อ ไม่ทานมังสากี่น ที่สำคัญคือจิตใจ สมาธิขิงคุณที่สั่งสมมาทุกวันสะอาดเพียงใด

เท่าที่รู้มา จากประสพการณ์ คนที่เป็นร่างทรง มักจะต้องเป็นคนที่ ต้องรักษาศีล เป็นประจำ ไม่ขาดตกบกพร่อง นั่นหมายถึงต้องเป็นคนที่สวดมนต์เก่งด้วย ก่อนที่องค์เทพ จะลงประทับทรง

..เขา....คนที่เป็นร่างทรงต้องสวดมนต์ ในหนังสือสวดมนต์ เห็นมีหลายเล่ม ใช้เวลา ประมาณ 3 ชั่วโมง และเมื่อประทับทรง ถ้าเป็น เจ้าจริงๆ แม้ขณะทรง จะเสวยเหล้า หรือ เบียร์ หลังถอยทรงแล้ว แม้แต่กลิ่นเหล้า ก็ไม��เหลือไว้ที่ตัวร่างทรง และก็ไม่เห็นเขาจะเป็นอะไร เพราะทรงเจ้า ไม่ใช่ ผีเข้า ไม่เหมือนกัน

ร่างทรงองค์เทพ

เมื่อได้คุยกันถึงเรื่องความเข้าใจผิดหรือความหลงผิดของมนุษย์มาแต่ครั้งพุทธกาลแล้ว ความคิดเหล่านี้ก็ยังมีอยู่ในทุกยุคทุกสมัย จนบางครั้งดูเป็นความหลงผิดอย่างมหันต์ เช่น ความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ต่าง ๆ โดยขาดการพิจารณาไตร่ตรอง หลงยึดติดในเรื่องอิทธิฤทธิ์จนเกินไป ทำให้หลงเป็นเหยื่อของเหล่า 18 มงกุฎ ที่ชอบอวดอ้างตนเอง ตั้งตัวเองเป็นเกจิอาจารย์ ใช้เล่ห์กลมายาและหน้าม้าขบวนการหลอกล่อ กระทำเรื่องราวต่าง ๆ อวดอ้างเป็นผู้วิเศษในเรื่องราวต่าง ๆ จนผู้คนหลงเชื่อ ในที่สุดก็ต้องสูญเสียเงินทองไปกับกลุ่มคนเหล่านี้อย่างช่วยไม่ได้

การเจ็บป่วยของมนุษย์นั้น จัดได้ว่าเป็นความทุกข์อย่างหนึ่งที่พบเห็นกันอยู่ทุกวัน ดังได้กล่าวมาแล้ว หากเกิดจากดินฟ้าอากาศแปรปรวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ก็อาจเจ็บป่วยเป็นไข้หวัด ไอหรือจาม เพียงกินยาหรือหาหมอก็หาย บางคนอาจมีวิตกจริตมากชอบคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ อย่างมากมายจนเกิดความเครียด นำไปสู่โรคหัวใจ โรคประสาท ก็เป็นไปได้ แต่บางโรคเพียรพยายามจะรักษาอย่างไรก็ไม่หาย กินยากันเป็นปี ผ่าตัดกันเป็นประจำ ก็ไม่หาย

ดังนั้นหนทางแห่งการแก้ไข ก็เลยหนีจากทางวิทยาศาสตร์การแพทย์มาเป็นไสยศาสตร์ หาร่างทรงองค์เทพกันไป หายก็มี ไม่หายก็มี เพราะถ้าโชคดี พบกับผู้มีภูมิความรู้จริง ๆ ก็คงจะหาย แต่ถ้าพบผู้แอบอ้างแฝงมาหากิน ก็คงจะเสียเงินมากกว่าจะหาย

สิ่งหนึ่งที่มักจะพบเห็นมักได้แก่ ถูกทักทายว่ามีองค์ และจะต้องครอบขันธ์ครู รับองค์เทพไปบูชามิฉะนั้นจะไม่หายป่วย บางทีอาจถึงตาย คนเรามาถึงขั้นนี้มีหรือจะไม่ยอม ส่วนใหญ่จะยอมรับขันธ์กัน เพราะอยากหายและอยากรวย ดังนั้นเมื่อถูกทักว่ามีองค์ก็อย่าเพิ่งหลงดีใจ เพราะอาจจะเป็นก้าวแรกที่ท่านจะต้องเสียเงินให้แก่ตำหนักนี้อีก เรื่อย ๆ เช่น การครอบขันธ์ งานไหว้ครู เป็นต้น ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า ท่านมีองค์จริงหรือ ? ….หรือว่า ถูกหลอก !

คนทรงเจ้าหรือเจ้าเข้าทรง

ก่อนที่เราจะเข้าสู่เนื้อหาสาระในเรื่อง เกี่ยวกับความเชื่อถือในเรื่องการเข้าทรง ก็อยากจะให้ท่านผู้อ่านได้พิจารณาในเรื่องดังกล่าว 2 ประเด็นด้วยกันคือ

1. คนทรงเจ้า หมายถึงคนธรรมดาที่ไม่มีเทพมาประทับ แต่จะแสดงตนแอบอ้างชื่อองค์เทพใหญ่ ๆ ที่มีคนนับถือมาก ๆ โดยอาศัยความรู้ในเรื่องไสยศาสตร์ เวทย์มนต์คาถาอาคม วิทยากล สมุนไพร ดูดวง เข้ามาประกอบ ทำให้คนหลงเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือมาจริง ๆ โดยหารู้ไม่ว่าเป็นการแสดงมายาเพื่อจะแอบอ้างกอบโกยเอาเงินทองจากผู้หลงไหลในเรื่องเหล่านี้ ร่างทรงพวกนี้จึงเป็นพวกมิจฉาทิฎฐิ ที่อาศัยคำพูดและการแสดงที่จะทำให้คนเชื่อถือ หลอกให้เชื่อว่าเป็นมหาเทพลงมาประทับ เช่น ศิวะ นารายณ์ เป็นต้น

2. เจ้าเข้าทรง หมายถึงผู้ที่มีองค์เทพลงมาประทับจริง ๆ เพื่อสร้างบารมี บางทีร่างทรงจะไม่รู้อะไรเลยในระหว่างที่องค์เทพผ่านมาประทับร่าง ดังนั้นร่างทรงประเภทนี้จะมีน้อยมากเพราะองค์เทพมีความประสงค์ที่จะมาช่วยบำบัดทุกข์ให้มนุษย์เพื่อสร้างบารมี ไม่โกงกินไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ คอยช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก เพื่อสั่งสมบารมีร่วมกับร่าง จึงทำให้พอมีกินมีใช้ ไม่ร่ำรวยมากนัก องค์เทพท่านจึงต้องเลือกร่างที่มีบุญบารมีมาก ๆ เท่านั้น คนชั่วช้าขาดศีลขาดศีลขาดธรรมท่านจะไม่เอาด้วย เว้นแต่เทพในระดับต่ำ ๆ ที่มีนิสัยเกเรเป็นสัมภเวสี เป็นเทพกึ่งเปรตที่ไม่มีวิมานอยู่ เพราะตอนกลางวันเป็นเทพแต่พอตกกลางคืนก็กลายเป็นเปรตหรือปีศาจเที่ยวหลอกหลอนชาวบ้าน จึงจับร่างที่ชั่วช้าสามานต์มาเป็นบริวารแห่งตน เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเครื่องเซ่นสังเวยและอื่น ๆ มีนิสัยอันธพาล อิจฉาตาร้อนชอบกลั่นแกล้งผู้อื่น อาศัยวิชาเดรัจฉานเลี้ยงชีพ จึงต้องรู้จักใช้วิจารณญาณในการพิจารณาเรื่อง การทรงเจ้าเข้าผี ดังที่ว่า

เหตุที่ทำให้มีองค์เทพฯ

ปฐมเหตุของการเกิดร่างทรงองค์เทพมากมายในยุคนี้ กล่าวกันว่าเมื่อครั้งพุทธกาล ก่อนที่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนชีพอยู่ พระพุทธองค์ได้ตรัสกับพุทธบริษัททั้งหลายว่า พระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนมีอายุ 5,000 ปี แต่ของพระองค์นั้นต้องการจะให้พระศาสนามี

เรื่องร่างทรง ดิฉันไม่ค่อยมีความรู้ แต่ว่าเมื่อก่อนเคยไปหา

ก็แปลกใจที่ร่างทรง ทำไมถึงล่วงรู้เรืองรูปภาพที่ติดอยู่ที่บ้าน

พระที่เราบูชา ระยะทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง

ไม่เหมือนหมอดู หมอดูจะไม่รู้เรืองพวกนี้ ถ้าเราไม่ได้บอก

ก่อนที่ร่างทรงจะเชิญเทพ จุดธุป แล้วก็สวดมนต์

สักพักเทพ ก็มา ที่รู้ว่ามาคือ จะหาวอ้าวปากกว้างมาก

เคยถามอาจารย์ว่า ร่างทรง กับคนมีองค์เหมือนกันหรือไม่

อาจารย์บอกว่าต่างกันมาก ไม่เหมือนกันเลย

....เรืองคนมีองค์ พอจะเล่าได้บ้าง

คนปกติจะเชิญเทพเข้าร่างไม่ได้ถ้าไม่ได้เปิดพระโอษฐ์ก่อน

ความพร้อมเรื่องเปิดพระโอษฐ์ ก็ต้องมีการสั่งสมบารมีพอสมควร

บางคน ก็พูดเทพได้เอง แต่น้อยมาก ดิฉันเจอมาหลายคนแล้ว

แต่จะไม่มีทิศทางในการดำเนินชีวิต ตามวิถีที่เทพอยากมา

คือจะมีความสงสัยว่าจะสื่อกับเทพอย่างไร

บางคนก็สื่อได้มาก น้อย แล้วแต่บุญเก่าและบุญใหม่ทั้งสิ้น

อาจารย์ที่เปิดพระโอษฐ์ จะสวดมนต์หลายบท

ให้ท่านนั่งสมาธิ และพูดตามเมื่อบอก

จากนั้น ก็พูดคำว่าพุทโธ ๆๆ จนเสียงที่พูดไม่ใช่พุทโธ

ก็เปลี่ยนเปนภาษาอื่น ที่เรียกว่าภาษาเทพ

ระหว่างที่พูดภาษเทพอยู่นั้น ก็สามารถสอบถามได้ว่าเปนเทพองค์ไหน

ส่วนใหญ่ อาจารย์ที่มีองค์บารมีของเทพต่ำกว่า

จะเชิญองค์ที่มีองค์เทพสูงกว่าไม่ได้

แต่บางคน ก็ไม่ใช่เทพ

กลับเปนวิญญาณ เจ้าพ่อ เจ้าแม่ หรือ...

เมื่อเปิดพระโอษฐ์เรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ต้องเชิญเลย

เพราะเทพจะอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่น่ากลัวหรอกนะ

เมื่อใดที่สงสัยเรืองต่าง ๆ ต้องการท่านให้ตอบ

ท่านจะมาตอบ แต่ตอบเปนภาษาเทพนะ

อยากหาล่ามแปลให้เหมือนกัน นี่แซวเทพเลยนะ

แล้วจะรู้เรืองหรือ ไม่รู้เรืองหรอก

ต้องขอให้ท่านตอบเปนภาษามนุษย์อีกที

ล่ามอยู่ในตัวคนที่เปิดพระโอษฐ์เองนั่นแหละ

แล้วดียังไง ที่มีองค์ ก็คือ เรือ่งแรก สัมผัส ได้ ว่า

ตรงนั้น ตรงนี้ มีองค์หรือไม่

บางที่ เราไหว้ ๆ ไป เช่น พระพรหม หมู่บ้าน บางบ้าน ไม่มีองค์

บางคนจะสัมผัสได้ถึงพระที่ศักดิ์สิทธิ์ ว่าศักดิ์สิทธิ์ จริงหรือเปล่า

จะมีลางสังหรณ์แม่น คนไหนไม่ชอบขี้หน้า ก็ไม่ต้องพยายามฝืน

คนไหนใช่ จะพูดคุยเหมือนคนเคยสนิทสนมกันมาก่อน

ไม่ต้องไปหาหมอดูอีก ดีไหมล่ะ เพราะถามองค์บารมีได้

ขอให้ท่านมาช่วยกิจการให้เจริญได้

รู้เรืองบางเรืองได้ เรืองคดีความ จะชนะหรือแพ้

...ทักษิณจะได้กลับประเทศไหม อันนี้ไม่ตอบนะ

เรืองบางเรือง ท่านก็ไม่ตอบ เพราะเปนวิบากกรรมของตัวเอง

ท่านตอบให้ไม่ได้

ช่วยเพื่อนมนุษย์ได้ ยามที่เขา/เธอเข้าตาอับ

ก็สามารถสื่อให้ได้

เช่นว่า เพื่อนคนหนึ่งที่คุยกันทางเน็ท ฝันแทบทุกวันว่า

เห็นบ้านเก่า ที่รื้อทิ้ง ฝันจนหงุดหงิด ว่าทำไมนะต้องฝันทุกวัน ๆ

คุยกันก็บอกเธอว่า เจ้าที่ บ้านเก่า บอกเขาไหมว่าย้ายบ้าน

เชิญเจ้าที่ มาอยู่บ้านใหม่ไหม เธอบอกว่า ไม่ได้เชิญ

บ้านเก่าก็เหลือแต่ที่ดิน โล่ง ๆ ไม่มีใครนึกถึงเจ้าที่อีกเลย

จนมาคุยกับดิฉัน ก็สื่อให้ เธอบอกว่า ไม่ได้ฝันถึงบ้านเก่���อีก

เล่ามาเยอะแล้ว ฟังคนอื่นบ้าง

ตอนเด็กๆที่บ้านยากจนมาก ทางบ้านมีปัญหามากมายสับสนวุ่นวายไม่รู้จักคำว่าเข้าวัดปฎิบัติธรรม มีคนแนะนำว่าองค์เทพสามารถปัดเป่าความยุ่งยากในชีวิตให้เบาบางลงได้ พี่ดิฉันหมดสิ้นหนทางท่านก็สอนให้รู้จักสวดมนตร์ แนะนำพิธีกรรมต่างๆ ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรมากมาย ไปหาท่านทีก็สวดมนตร์อิติปิโส ตั้ง 108 จบ ดิฉันไปด้วยยังเด็กก็สวดจนหลับเลยค่ะ มีวันหนึ่งท่านบอกพี่ว่าระวังอุบัติเหตุจะต้องผ่าตัด มาวันหนึ่งพี่เขานั่งรถเบาะหลังรถมันเบรคอย่างแรงร่มตกลงมากระเเทกหลัง วันต่อมาปวดหลังมากหมอบอกกระตูกซ้นต้องผ่าตัด ไม่มีตังค์นะคะ ก็เลยไปหาองค์เทพท่านบอกไม่ต้องผ่าท่านเป่าให้ เเปลกค่ะหายหลายสิบปีผ่านมาก็ไม่เป็นอะไร นับถือท่านอยู่ประมาณสักสองปีได้มั้งจำไม่ค่อยได้ ท่านก็บอกว่าไม่ให้มาหาท่านแล้ว เพราะต่อแต่นี้ไปท่านจะไปแล้วไม่อยู่กับร่างทรงเพราะร่างทรงเริ่มโลภ ไม่ปฎิธรรม ท่านบอกแล้ววันหนึ่งจะมีคนแนะนำให้เจ้าได้พบกับพระสงฆ์รูปหนึ่งซึ่งเป็นพระปฎิบัติ นับแต่นั้นมาพี่ดิฉันก็เลิกไปหาร่างทรงและมีคนแนะนำให้เจอพระสงฆ์องค์ที่ท่านเทพบอกจริงๆ นับแต่นั้นมาบ้านเราก็เอาคำสั่งสอนพระธรรมมาใช้จนถึงปัจจุบัน อมิตพุทธ ..

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

ทำชั่วได้ดี มีถมไป แต่ทำดี ดีกว่าสบายใจเฉิบๆๆๆ

ปล. การเป็นร่างทรงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเฉพาะตัว แต่ถ้าเลี่ยงได้อย่าเป็นดีกว่���เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นการรู้เรื่องราวของคนอื่นบางครั้งช่วยได้บางครั้งช่วยไม่ได้มันคือทุกข์สำหรับคนที่เป็นร่างทรงด้วยจิตที่บริสุทธิ์ อย่าเป็นดีกว่าค่ะปฎิบัติยึดมั่นในความดี ทำจิตให้เป็นบุญเป็นกุศลสิ่งเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยตัวของเราเอง พระสงฆ์ที่บ้านดิฉันเคารพคือ หลวงพ่อมหาถาวร กุฎิสุวรรณเนตร ศาลาพระราชศรัทธา วัดปทุมวนาราม วัดหลวงที่อยู่ท่ามกลางห้างสรรพสินค้า สี่แยกปทุมวันและสยามสแควร์ ท่านเป็นพระสายพระอาจารย์มั่นเป็นพระนักพัฒนาประพฤติดีประพฤติชอบ สังฆทานดอกไม้ไม่มีเวียนค่ะ

สามารถเห็นภาพอนาคตได้โดยไม่ตั้งใจเหมือนท่านเทพKanesณ ยาฮู

คนของหนูที่พี่เคยบอกไว้ จะคอยดูว่าจริงหรือไม่จ้า...

ใครจะกล้าลบลู่ อยากให้เป็นจริงต่างหาก55