Yahoo Answers is shutting down on May 4th, 2021 (Eastern Time) and beginning April 20th, 2021 (Eastern Time) the Yahoo Answers website will be in read-only mode. There will be no changes to other Yahoo properties or services, or your Yahoo account. You can find more information about the Yahoo Answers shutdown and how to download your data on this help page.

เป็นคนหงุดหงิดง่าย ขี้โมโห ทำอย่างไรดี

ดิฉันอายุ 40+ มีครอบครัวแล้ว แต่เป็นคนขี้หงุดหงิด โมโหง่ายหายเร็ว รู้ว่าไม่ดี อยากแก้ไข อาการแบบนี้เป็นอะไรใครเคยเป็นบ้าง

13 Answers

Rating
  • 1 decade ago
    Favorite Answer

    ส่วนหนึ่งเพราะระบบฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง

    ซึ่งเป็นผลจากการเริ่มเข้าสู่วัยทองแหละค่ะ

    อีกส่วนหนึ่งอาจเป็นเนื่องจากลักษณะนิสัยของเราเอง

    แต่เป็นธรรมชาติของคนเรานะคะ

    ที่จะมี ทั้ง โลภะ โทสะ และโมหะ

    สิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้ คือ คุณรู้และยอมรับแล้วว่า

    คุณมีโทสะ และต้องการแก้ไข

    เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง

    อาจต้องปรับเรื่อง อาหาร เน้นทานผัก ผลไม้ และถั่ว

    หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยปรับ

    สมดุลย์ฮอร์โมนในร่างกาย

    เคยอ่านเจอในวารสารเพื่อสุขภาพนะคะ

    อาหารที่ช่วยแก้ความหงุดหงิด โมโห ก็คือ โยเกิร์ต ค่ะ

    แนะนำให้ทาน ชนิดครีมข้น และไขมันต่ำนะคะ

    ควรออกกำลังกายเป็นประจำด้วยค่ะ

    แต่ถ้าอาการมาก และมีร้อนวูบวาบ เหงื่อออกมาก

    ใจสั่น ช่องคลอดแห้ง ร่วมด้วย ควรพบแพทย์ค่ะ

    อาจจำเป็นต้องทานฮอร์โมนก็ได้นะคะ

    แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด (ถ้าทำได้จะดีมากค่ะ

    สาลินเคยเป็นคนโกรธง่าย หงุดหงิดง่าย

    ลองทำแล้วดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ)

    คือ การฝึกวิปัสสนา ซึ่งเป็นการฝึกสติ

    ให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ ความรู้สึกของเรา

    และจัดการกับอารมณ์โมหะได้ด้วยดี

    แต่ต้องฝึกกับอาจารย์ด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน

    นะคะ ขอให้ลองสอบถามดู หาสถานที่ที่ใกล้ๆบ้าน

    จะได้สะดวกในการฝึกปฏิบัติ

    ในช่วงแรกให้ท่านสอน เมื่อได้แนวทางแล้ว

    ขอให้ฝึกต่อเนื่องที่บ้าน

    แล้วความโกรธ ความหงุดหงิด จะเบาบางลงไปค่ะ

  • Anonymous
    1 decade ago

    ความหงุดหงิด แน่นอนต้องขี้โมโห อันนี้เป็นโรคทางกาย และจิต

    ๑. ทางกาย เกี่ยวกับธาตุขันธ์ และสรีระร่างกายของเพศหญิง ที่ต้องมีรอบเดือน อันนี้หนึ่ง

    ๒. ทางจิต จิตที่มีแต่ความเห็นผิด คือมิจฉาทิฎฐิ ย่อมเห็นอะไรไม่ถูกตาถูกใจไปเสียทั้งหมด ร่วมทั้งการกระทำของตัวเองด้วย อันนี้หนึ่ง

    ๓. จิตเช่นนี้ เป็นจิตที่ไม่สามารถตั้งมั่นในอารมณ์ได้ มีแต่ฝุ้งกระจาย เหมือนนุ้นที่ฝุ้งกระจายไปกับสายลม โดยไม่มีหลักมีเกณฑ์แห่งใจ อันนี้หนึ่ง

    ๔. เมื่อจิตของเรามีความเห็นผิดเช่นนี้ ขอโทษที่จะกล่าวว่า จิตเรา ใจของเรามันเหน่า เหมือนแก้วน้ำนั้นมันสกปรก เอาน้ำดีสะอาดเติมเข้าไปก็ไม่สามารถทำให้น้ำนั้นสะอาดขึ้นมาได้ มีทางเดียวก็คือเทน้ำเหน่านั้นทิ้งเสียให้หมด แล้วค่อยเติมน้ำดีน้ำสะอาดเข้าไปแทน คือทำให้ใจของเราสะอาดขึ้นมาแน่นอนที่ละนิดๆๆ จนปรากฎเห็นเต็มจิตใจของเจ้าของ อันนี้ก็หนึ่ง ถ้าสงสัยอยากถามอะไรเพิ่มเติม ค่อยถามมาใหม่นะครับ

  • Anonymous
    1 decade ago

    คนที่อายุ40ปีมักจะเป็นแบบนี้แหละ เขาเรียกว่าวัยทองก็เลยทำให้หงุดหงิดง่าย ลองหาอะไรทำอย่างเช่น ปลูกต้นไม้ ปลูกผักสวนครัว อะไรประมาณนี้เพราะจะได้เป็นการคลายเคีรยจ และจะได้ใจเย็นด้วย หรือไม่ก็ลองนั่งสมาธิดูค่ะ

    Source(s): เคยอ่านเจอในหนังเสือค่ะ
  • 1 decade ago

    คุณอาจจะเป็นคนที่คิดอะไรเพียงด้านเดียวแล้วมองว่าไช่ลองคิดแบบเป็นกลางปล่อยวางในสิ่งที่คิดว่าหนักเกินไปบ้างและที่สำคัญเวลาที่จะโมโหลองคิดว่าอีกสัก5-10นาทีเราค่อยโมโหก็ได้เพราะเวลาที่ผ่านไปจะช่วยให้คุณเย็นลง

  • How do you think about the answers? You can sign in to vote the answer.
  • 1 decade ago

    พื้นอารมณ์ของคุณอาจเป็นคนหงุดหงิดง่ายก็ได้ คือเป็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็พยายามหางานอดิเรกทำ หาอะไรทำที่ฝึกให้ใจเย็นลง อาจลองปรับลดความคาดหวังลง เพราะส่วนใหญ่คนเราหงุดหงิดเพราะอะไร ๆ ไม่เป็นอย่างใจเราต้องการ ต้องยอมรับว่าในชีวิตจริงที่เราพบมันก็จะเป็นอย่างนั้น เรื่องส่วนใหญ่ของชีวิตเราควบคุมมันไม่ได้ คอยบอกกับตัวเราเองว่า มันก็เป็นอย่างนี้แหละ เขาก็เป็นอย่างนี้แหละ ไม่ใช่บอกในทำนองโกรธหรือประชดนะ แต่บอกด้วยความเข้าใจ เหมือนกับเราที่เอาน้ำเย็นใส่กาต้ม แล้วหงุดหงิดว่าทำไมมันเดือดช้าจัง ถ้าเราเข้าใจเราก็จะเห็นว่า อ๋อ มันก็เป็นอย่างนี้แหละ ถ้าคิดจะแก้ไขหรือปรับปรุงอะไร ค่อยเก็บไว้คิดหรือทำตอนใจเย็นลง หายหงุดหงิดแล้ว ช่วงที่หงุดหงิดให้เน้นที่การปรับอารมณ์ก่อน หาอะไรด้à��²à¸™à¸šà¸§à¸à¹ƒà¸ªà¹ˆà¸•à¸±à¸§à¹€à¸­à¸‡à¹ƒà¸«à¹‰à¹€à¸¢à¸­à¸° ๆ ด้วยนะ

  • 1 decade ago

    เป็นช่วงของใกล้หมดประจำเดือนคะ ไม่ต้องกังวล เพราะความกังววลจะไปเพิ่ม ความเครียดและหงุดหงิด ลองเลิกทานกาแฟ มาดื่มชาแทนตอนเช้า

    อย่าทานอาหารมันๆ ดื่มนมไม่มีไขมันเสริมแคลเซียม ดื่มชาใบชะพลู 5 ใบตอนเช้าเอาใบมาล้างแล้วซอยใส่น้ำร้อน ดื่มหลังอาหารเช้า ตอนเย็นดื่มชากระเจี๊ยบ ดื่มน้ำมะตูมด้วยก็ลดเครียดได้ ทานวิตามิน บีรวมและซีเสริม ทานผลไม้พวกแอปเปิ้ลวันละผลหรือดื่มเป็นน้ำก็ได้ ออกกำลังกายเบาบ่อยๆก็ช่วยได้ ที่สำคัญนั่งสมาธิช่วยได้เยอะ เช่นเวลานั่งรถไปกลับจากที่ทำงาน เราไม่ต้องนั่งในห้องพระเป็นพิธีรีตรองมากมาย

  • 1 decade ago

    รู้ว่าไม่ดีนะดีแล้ว แสดงว่ายังมีสติ เพราะฉะนั้นไม่ต้องทำอะไร หาเพื่อนคุย เพราะผู้หญิงวันนึงไม่ได้พูด พูด พูด มันอึดอัด อกจะแตก พูดระบายกับคนที่เข้าใจเรา นั่งฟังเรา พยักหน้า หงึก หงีก หงีกให้เรา ขออย่างเดียว อย่าปากไว ด่าคนนั้น ว่าคนนี้ ตูดีอยู่คนเดียว วีนก็แตกพอดี เลยต้องมานั่งบ่นอยู่คนเดียว เหงาแย่ไม่มีใครฟัง

  • Anonymous
    1 decade ago

    ฝึกจิตทำสมาธิบ้างเพื่อให้จิตใจสงบไม่ฟุ้งซ่าน ความเครียดก็มีส่วน

    พักผ่อนให้เพียงพอหากิจกรรมที่ทำร่วมกันในครอบครัวแบบร่วมใจกัน

    หาโอกาสไปเที่ยวกับครอบครัวบ้างเพื่อให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นผูกพัน

    ครอบครัวจะช่วยคุณให้สงบขึ้นได้ด้วยความรักความอบอุ่นที่มีให้กันครับ

  • 1 decade ago

    วิธีทำให้ไม่หงุดหงิด ลองฝึกทำนะ เราต้องรู้สึกตั้งจิตใจให้สงบ คล้ายการนั่งสมาธิ และนึกทบทวนสิ่งที่ผ่านมาในอดีต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี แล้วจงขอบคุณในทุกเรื่องที่ประสบการณ์ชีวิตผ่านมา ในเรื่องไม่ดีจงขอบคุณที่เรามีประสบการณ์ รู้จักแก้ไขจนผ่านพ้นมาได้จนถึงทุกวันนี้ เพื่อจะไม่เกิดขึ้นอีก หากเกิดอีกเราก็สามารถแก้ไขได้ หรือเห็นอะไรที่ไม่ถูกใจเราก็ขอบคุณอย่าให้เราทำแบบนั้นกับคนอื่นเลย ทำให้เราควบคุมจิตใจเราได้ไม่โมโหไม่หงุดหงิด ถ้าเป็นเรื่องที่ดีขอบคุณที่เราพบแต่สิ่งที่ดีในชีวิตเรา และสามารถแบ่งปันประสบการณ์นั้นให้กับผู้อื่นได้ เราก็มีแต่ความชื่นชมยินดี ลองคิดดูดีดีว่าชีวิตเราผ่านมาตั้ง 40 ปีแล้ว ต้องมีเรื่องที่ดีมากกว่าเรื่องไม่ดี จงขอบคุณทุกสถานะการณ์ อย่าทุกข์ร้อนหรือกังวลในสิ่งใดใดเลย ท่องคำว่าขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ ไปเรื่อย ๆ

  • Anonymous
    1 decade ago

    คงเป็นเพราะมีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบเยอะ ทั้งงาน ทั้งครอบครัวลูกๆอีก ถ้าเจอเรื่องไม่ถูกใจก็จะหงุดหงิด ทำไมต้องมาทำบ้านรก ให้เราต้องเก็บเหนื่อยขึ้นไปอีก ก็ต้องเปลี่ยนความคิด แล้วก็ไม่ยึดติดค่ะ อะไรที่ไม่ชอบไม่ถูกใจ อะไรที่ทำให้เราโกรธ ก็ให้พิจารณา หยุดคิดก่อนให้โกรธช้าลง เรื่องแค่นี้เราจะต้องโมโห โวยวายใหญ่โตเลยหรือ ก็ให้เรามีสติตลอดเวลา ใจเย็นๆ มีเมตตา สำคัญที่สุด ลองพยายามฝึกดูนะค่ะ เป็นความคิดตามหลักพุทธศาสนา ก็คือ มีพรหมวิหาร 4 นะค่ะ

    การนึกถึงและมองดูคนอื่นด้วยโทสะ ในขณะนั้นย่อมมีแต่ความเกลียดชัง จิตใจไม่ชื่นบาน ส่วนการนึกถึงและมองดูบุคคลอื่นด้วยเมตตานั้น จิตใจก็จะ มีแต่ความรักใคร่เบิกบาน …

Still have questions? Get your answers by asking now.