Yahoo Answers is shutting down on May 4th, 2021 (Eastern Time) and beginning April 20th, 2021 (Eastern Time) the Yahoo Answers website will be in read-only mode. There will be no changes to other Yahoo properties or services, or your Yahoo account. You can find more information about the Yahoo Answers shutdown and how to download your data on this help page.
Trending News
การขายที่ดิน ตามกฏหมาย ค่าธรรมเนียมการโอนที่ดิน ใครจะเป็นคนจ่าย?
โดยส่วนใหญ่แล้วใครจะเป็นคนจ่ายค่าธรรมเนียมการโอนที่ดิน ถ้าตกลงจะซื้อขายกัน ระหว่างผู้ซื้อ กับ ผู้ขาย
3 Answers
- 1 decade agoFavorite Answer
ค่าธรรมเนียมการโอนที่เสียให้รัฐ ตามอัตราค่าธรรมเนียมท้ายประมวลกฎหมายที่ดินกำหนดให้ เรียกเก็บร้อยละ 2 ของราคาประเมินของทางราชการ เมื่อมีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินจาก
ผู้ขายไปผู้ซื้อ ทั้งนี้ เป็นการตกลงกันเองระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายว่าใครจะเป็นคนจ่ายให้รัฐ หรืออาจแบ่งกัน จ่ายคนละครึ่ง รวมถึงการโอนที่ดินที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ในการจัดสรรที่ดินตามกฎหมายว่า ด้วยการควบคุมการจัดสรรที่ดิน และ
การโอนอาคารหรืออาคารพร้อมที่ดิน รวมทั้งที่ดินที่ไม่ มีส่งปลูกสร้าง โดยการเคหะแห่งชาติหรือหน่วยงานของทางราชการ ซึ่งมีอำนาจทำการจัด สรรที่ดินตามกฎหมาย
- Anonymous1 decade ago
...ถ้าเอาข้อกำหนดของ"กฏหมายที่ดิน"มาดูกันจะเห็นว่า...!!
**ตามประมวลกฏหมายที่ดิน ปีพ.ศ. 2497
......ที่ดินเป็นทรัพย์สินที่มีค่าและประโยชน์แก่มนุษย์มาก เช่น ใช้เป็น ที่อยู่อาศัย ใช้เพื่อเป็นหลักประกัน นอกจากนี้ที่ดินยังเป็นเครื่องแสดงออกถึง ฐานะ ความเป็นอยู่ของแต่ละคนด้วย ผู้คนจึงพยายามใฝ่หาให้ได้มาซึ่งสิทธิในที่ดินเป็นของตนเอง แม้จะต้องทำงานด้วยความยากลำบากสักเพียงใด ก็ตามที่ดินนั้นนอกจากจะหมายถึง.....
.....ที่ดินบนบกอันได้แก่ พื้นที่ดินทั่วไป แล้ว ยังหมายถึงพื้นดินที่เป็นภูเขา และ ห้วย หนอง คลอง บึง ลำน้ำ ทะเลสาบ เกาะ และที่ชายทะเลด้วย เนื่องจากที่ดินมีค่าและมีประโยชน์มาก นี่เอง
รัฐจึงออกกฎหมายวางระเบียบแบบแผนเกี่ยวกับการได้มาซึ่งที่ดินของ บุคคลคือ ประมวลกฎหมายที่ดิน ปี พ.ศ. ๒๔๙๗
.....เริ่มจาก...ข้อที่7 ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมถึงค่าธรรมเนียมการโอนด้วย
๗. ค่าธรรมเนียมในการติดต่อเกี่ยวกับที่ดิน
ในการติดต่อกับกรมที่ดินหรือที่ว่าการอำเภอ ไม่ว่าจะเป็น
การขอจด ทะเบียนสิทธิและการทำนิติกรรมหรือการขอออกโฉนดที่ดิน น.ส. ๓ หรือ ใบแทน ผู้ขอจะต้องเสียค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตามอัตราที่ได้กำหนดไว้ นอกจากนี้ในบางกรณี เช่น การขอรังวัดที่ดิน ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วย
.....ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในเรื่องที่ดิน
(๗) ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
(ก) ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมมีทุนทรัพย์เรียกตาม
ราคาประเมินทุนทรัพย์ตามที่คณะกรรมการกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์กำหนด ร้อยละ ๒
(ข) ค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ เฉพาะในกรณีที่องค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ หรือบริษัทจำกัดที่สถาบันการเงินตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.๒๕๔๐จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์โดยความเห็นชอบของธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับโอนหรือโอนคืนหรือกรณีที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต.เป็นผู้รับโอนให้เรียกตามราคาประเมินทุนทรัพย์ตามที่คณะกรรมการกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์กำหนด ร้อยละ ๐.๐๑ แต่อย่างสูงไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
(ง) ค่าจดทะเบียนโอนมรดกหรือให้ ทั้งนี้ เฉพาะในระหว่างผู้บุพการีกับผู้สืบสันดาน หรือระหว่างคู่สมรสเรียกตามราคาประเมินทุนทรัพย์ตามที่คณะกรรมการกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์กำหนด ร้อยละ ๐.๕ กรณีที่สถาบันการเงินรับโอนสิทธิเรียกร้องจากการขายทรัพย์ สินเพื่อชำระบัญชีของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินกิจการตามมาตรา๓๐แห่งพระราชกำหนดการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นผู้ขอจดทะเบียน ร้อยละ ๐.๐๑ แต่อย่างสูงไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
**สรุป...จะเห็นได้ว่าตามที่กฏหมายกำหนด.."ผู้ที่ขอยื่นจดทะเบียนโอนหรือให้หรือขาย" ก็ตามต้องเป็นผู้ที่เสียค่าธรรมเนียมต่างๆเหล่านี้...
...แต่ในข้อเท็จจริงนั้น เป็นการตกลงกันระหว่าง.."ผู้จะซื้อและผู้จะขาย" ว่าใครจะเป็นผู้ที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมนี้ แบ่งได้เป็น3กรณี...
1.ตกลงกันว่า.."ผู้จะขาย" เป็นผู้ออกค่าโอนค่าธรรมเนียมต่างๆทั้งหมด
2.ตกลงกันว่า.."ผู้จะซื้อ" เป็นผู้ออกค่าโอนค่าธรรมเนียมต่างๆทั้งหมด
3.ตกลงกันว่า.."ทั้ง2ฝ่าย" จ่ายค่าโอนค่าธรรมเนียมต่างๆคนล���ครึ่ง
...อยู่ที่การ..ตกลงกันระหว่าง.."ผู้จะซื้อและผู้จะขาย" ว่าจะเลือกเอาข้อหนึ่งข้อไดก็ได้ใน3ข้อนี้ ได้เลยครับ...!!!