การตื่นตัวเรื่องทำนาปรังจนทำให้ขากแคลนน้ำไปทั่วทุกภาคเป็นความเห็นแก่ตัวหรือเพื่อการเลี้ยงชีพโดยสุจริต?

น่าสงสารชาวนา ท่านเชื่อหรือไม่ เขาต้องเสี่ยง เนื่องจากเขาไม่มีที่ไปจริง ข้าวได้ราคาก็ได้ปลดหนี้ปลดสิน

แต่ตอนนี้พ่อค้าไม่ซื้อข้าวไทย ไปซื้อเขมร ลาว เพราะมันถูก จึงทำให้ข้าวไทยราคาตก เหลือ6-8000/เกวียน โดยอ้างว่าตลาดโลกไม่ดี ขาดทุน

แต่ท่านเชื่อหรือไม่ แกลบตันละ2500บ. รำระเอียดตันละ12000บ. ปลายข้าวเลียงสัตว์9700/ต. ตัวข้าวที่บริโภคภายในที่ถูกที่สุด แพค5ก.ก.125บ.

แบบนี้ท่านว่า ชาวนาจะอยู่ได้หรือ เป็นความเห็นแก่ตัวหรือไม่ เพื่อการเลี้ยงชีพโดยถูกสภาวเศรษฐกิจบีบมากกว่า

ผมคิดว่าเพื่อการเลี้ยงชีพโดยสุจริตดีกว่าครับ อย่าไปเรียกว่า เห็นแก่ตัวเลย น่าสงสารชาวนาไทยมากครับ ที่ต้องพึ่งแต่ธรรมชาติอย่างเดียว ปีไหน ฝนน้อย หรือแล้งจัด ก็เป็นปัญหา ฝนมาก น้ำท่วม ก็เป็นปัญหา ชาวไร่ชาวนาต้องพึ่งแต่ธรรมชาติอย่างเดียว น้ำมากก็ไหลทิ้ง ยังไม่มีการบริหารจัดการเรื่องน้ำที่สมบูรณ์ ต้องยอมรับว่า ชาวนาไทยค่อนข้างเสียเปรียบชาวนาต่างประเทศมากครับ การแก้ไขเรื่องการบริหารน้ำ คงต้องขอความช่วยเหลือจากภาครัฐบาล ลำพังชาวนาอย่างเดียวคงจะทำไม่ได้ดีเท่าที่ควร

...มองได้ทั้งสองอย่างครับ

ส่วนใหญ่คนที่ทำนาไม่ได้เป็นเจ้าของที่นา แต่เช่าที่นาของคนอื่นมาทำนา ดังนั้นจึงต้องทำให้ได้จำนวนปริมาณให้มากที่สุดเอาไว้ก่อน เมื่อก่อนประมาณ20กว่าปีที่ผ่านมาชาวนาจะทำนาปรังแค่ปีละ2ครั้ง และครั้งสุดท้ายจะทำนาปีเพราะฝนจะตกพอดีก็จะได้น้ำฝนจากธรรมชาติ เฉลี่ยปีหนึ่งๆจะทำนาได้3ครั้ง ก็ถือว่าได้ข้าวดีได้ราคาขายข้าวดีกันมาทุกปีๆ

..แต่มาปัจจุบันนี้ ชาวนาที่เช่านาคนอื่นทำนาก็ต้องทำให้ได้มากครั้งที่สุด ปัจจุบันนี้ก็จะไม่มีการทำนาปีแล้ว จึงทำแต่นาปรังอย่างเดียวเพราะระยะเวลาการเก็บเกี่ยวสั้นให้ผลผลิตดีพอประมาณและในปีหนึ่งๆทำนาได้ถึง4ครั้ง จึงเป็นที่มาของการทำให้น้ำในเขื่อนไม่พอให้ชาวนาได้อาศัยทำนา

..ก็ต้องตำหนิกระทรวงเกษตรละครับที่ไม่ดูแลแก้ปัญหาให้กับชาวนาที่ถือเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ดังนั้นจะว่าชาวนาเห็นแก่ตัวก็น่าจะได้และก็มีที่บางคนก็ทำนาเลี้ยงชีพด้วยความสุจริตมาช้านานจนกระดูกสันหลังหักแล้วครับ

ต้องฝากเรื่องนี้ให้รัฐบาลและผู้ที่มีหน้าที่ได้เข้ามาดูแลช่วยเหลือชาวนาด้วยนะครับ.....!!!