Yahoo Answers is shutting down on May 4th, 2021 (Eastern Time) and beginning April 20th, 2021 (Eastern Time) the Yahoo Answers website will be in read-only mode. There will be no changes to other Yahoo properties or services, or your Yahoo account. You can find more information about the Yahoo Answers shutdown and how to download your data on this help page.

หากเป็นคุณจะทำอย่างไร?

เรื่องมีอยู่ว่ามีชาวบ้านครอบครัวนึงครอบครองที่ดินและปลูกสร้างบ้านมานานกว่า40ปี

วันนึงไปรู้เข้าว่ามีคนออกเอกสารครอบครองทั้งบ้านและที่ดินที่ตัวเองครอบครองอยู่

แม้ครอบครัวนี้จะไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ

แต่ทั้งตัวบ้านและหมากไม้ที่ปลูกไว้ก็ยังอยู่ครบ

แถมเจ้าคนที่ออกเอกสารครอบไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆในที่ดังกล่าวเลย

เว้นเพียงอย่างเดียวว่าคนกลุ่มนี้พัวพันอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่ดินและการซื้อขายที่ดิน

ครอบครัวนี้เลือกที่จะฟ้องศาล

อาจเป็นโชคร้ายได้ทนายไม่ดีไม่ยอมส่งเอกสารสำคัญนำเสนอต่อศาลจึงแพ้ในศาลชั้นต้น

พอเข้าชั้นอุทรณ์เปลี่ยนทนายแล้วก็ยังแพ้อีก

คำตัดสินของศาลเพียงบอกว่าเอกสารที่ดินที่อีกฝ่ายอ้างนั้นถูกต้อง

แน่นอนว่าในขั้นศาลฎีกาก็คงออกไปในรูปแบบคล้ายกัน

จึงเป็นคำถามมายังท่านผู้รู้รอบและรอบรู้ทั้งมวล

ทั้งมีสาระและไร้สาระ

ช่วยแสดงความเห็นในเรื่องนี้กันสักหน่อย

ว่ามีอะไรที่เราควรรับรู้ในเรื่องแบบนี้บ้าง

Update:

ได้ข้อมูลสมใจเลยครับ..ขอขอบคุณทุกๆท่านจริงๆ หากมีอะไรเพิ่มเติมขอรบกวนเพิ่มด้วยนะครับ

ครอบครัวนี้ไม่มีหลักฐานที่ดินเพราะเป็นที่ดินโบราณและถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไม่ไม่ได้มีที่ดินข้างเคียง

เอกสารที่มีคงเพียงสัมปทานป่าไม้เพื่อเผาถ่านซึ่งยังไม่หมดอายุ(แต่รัฐระงับไม่ให้ตัดทั่วประเทศซะก่อน)

คนที่เข้ามาครอบเคยเป็นลูกจ้างที่มาปลูกบ้านพักเช่นเดียวกับคนงานอื่นๆ

ปัจจุบันในนั้นเหลือเพียงครอบครัวนั้นและญาคิอีกหลังเป็น2หลังในแถบนั้นเท่านั้น

ซากบ้านคนงานก็พังหายไปกว่า20ปีแล้ว

หากนับการแย่งครอบครองคนที่อยู่มาก่อนคนอื่นและยังคงอยู่ในปัจจุบันควรจะมีสิทธิ์ใช่ไหม

บ้านที่เหลืออยู่เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้อายุกว่า40ปีจึงไม่เข้าใจว่าทำไมศาลจึงไม่เห็นว่ามันเป็นประเด็นในการตัดสิน

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ทำให้ทราบว่าทนายในศาลชั้นต้นสำคัญมาก

เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องตัวเองโดยตรงจึงไม่เข้าไปยุ่งแต่ต้นแต่พอเห็นผลศาลอุทรณ์รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องจึงต้องรบกวนผู้รู้รอบทุกท่าน

เอกสารที่ฝ่ายโน้นมียังเป็นที่น่าสงสัยว่าจะเป็นเอกสารบินได้(อาจรบกวนวิชาทุกท่านอีกรอบเรื่องนี้)แล้วมาแปลงเป็นนส3ที่เจ้าหน้าที่อำเภอสามารถจัดการได้เอง

15 Answers

Rating
  • Singha
    Lv 6
    1 decade ago
    Favorite Answer

    ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

    มาตรา 249 ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างในการยื่น ฎีกานั้นคู่ความจะต้องกล่าวไว้โดยชัดแจ้งในฎีกา และต้องเป็นข้อที่ ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ทั้ง จะต้องเป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยด้วย......

    .....อธิบาย ได้ว่า การยื่น หรือนำเสนอพยานหลักฐานต่าง ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องยื่นและนำเสนอในศาลชั้นต้น ขณะสืบพยานโจทก์ พยานจำเลย ศาลจะจดบันทึกเข้าสู่กระบวนพิจารณา หากเรื่องที่เกี่ยวของยังไม่สามารถหาพยานหลักฐานมาแสดงต่อศาลได้ ทนายความจะต้องถามพยานในเรื่องนั้นเพื่อให้มีประเด็นที่เกี่ยวข้องที่ศาลจะได้จดบันทึกไว้เข้าสุ่กระบวนพิจารณาของศาล หากไม่ยื่นเอกสารหรือซักถามไว้ให้อยู่ในกระบวนพิจารณาของสาลชั้นต้น ก็จะไม่สามารถยื่นหลักฐานหรือนำพยานยื่นหรืออุทธรณ์หรือฎีกาได้

    ......คดีนี้มองว่าพยานบุคคลเก่าแก่ที่รู้เห็นมีอยุ่มากมายเอกสารต่าง ๆ ที่ข้องเกี่ยวของราชการที่มีมาก่อนการจดกรรมสิทธิ์ในที่ดินก็ควรจะมีบ้างไม่มากก็น้อย แต่ในศาลชั้นต้นไม่ได้นำมาเข้ากระบวนพิจารณา ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา ก็จะวินิจฉัยไปในแนวเดียวกัน ตามกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น ขึ้นอยุ่พยานหลักฐานใหม่ที่จะนำเสนอเกี่ยวข้องกับกระบวนพิจารราเดิมหรือไม่ เป็นไปตามข้อกฎหมาย มาตรา 249

    ....งานนี้ต้องศึกษากระบวนพิจารณาให้ดีแล้วฎีกาไปตามความที่เกี่ยวข้อง แต่ยากมากที่จะกลับเป็นชนะได้

    .....กระบวนการยุติธรรมพิจารณาจากพยานหลักฐาน ๆ ฝ่ายไหนพยานหลักฐานดี ฝ่ายนั้นชนะ เพราะศาลก็ไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะยั่งรู้ได้ว่าใครถูกผิดโดยการนั่งทางใน ก็ทำไปตามกฎหมายและพยานหลักฐานที่ปรากฏเท่านั้น

    .....ทนายความเป็นผู้สำคัญในการนำเสนอพยานหลักฐาน เมื่อมีคดีความ ควรคุยกับทนายในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีและอย่าอำพรางหรือปิดบังใด ๆ เพราะนั่นอาจทำให้แพ้คดีได้โดยไม่ตั้งใจ

  • CC..
    Lv 4
    1 decade ago

    ทำอะไรไม่ได้เลยค่ะ

    จาก เรื่องราว.. เป็นเหมือนครอบครัวเราเลย

    จากประสบการณ์ ก็แพ้คดี หมดเนื้อหมดตัวไป

    ครั้งแรก ของตา-ยาย อีก ต่อมา ครั้งหลัง ของพ่อเราเอง

    ก็ฝ่ายเราไม่ฉลาดมันก็ เป็น เหยื่อของเขา เป็นแบบนี้ เหมือนกันเปี๊ยบเลย

    ตกมารุ่นเราๆ ต้องทำอะไร ให้มันรอบคอบนะคะ เอกสารสิทธิ์ต้องทำ ต้องมี ให้เป็นปัจจุบันกาล

    ขอแสดงความเสียใจ ในเหตุการณ์นี้ ด้วยนะคะ

  • Akiko
    Lv 7
    1 decade ago

    ในการพิจารณา" ศาลชั้นต้น " ทนายหน้าจะใช้เอกสารอื่น ๆ ประกอบ

    ไม่ว่าจะเป็น จดหมาย ใบเสร็จค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

    ที่ส่งถึงบ้าน และจ่าหน้าระบุชื่อ ผู้อยู่อาศัยที่อยู่ในขณะนั้นค่ะ

    เพราะจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ว่าเราเป็นเจ้าของ และครอบครองมาก่อน

    เพียงแต่เราไม่ได้ไป ขอ " เอกสารครอบครองสิทธิ์ " เท่านั้นค่ะ

    พอเมื่อผ่านไปถึง " ศาลอุธรณ์ " ศาลจึงตัดสินไปตามหลักฐาน และเอกสารตามสารชั้นต้นค่ะ

    ถ้าถึงชั้น " ศาลฏีกา " จะว่าเรื่องข้อกฏหมายมากกว่าค่ะ

    พยาน หลักฐาน และเอกสารทุกอย่าง จบไปตั้งแต่ " ศาลชั้นต้น " แล้วค่ะ

    ...ต้องขอแสดงความเสียใจ แทนครอบครัวท่านเหล่านั้นด้วยน่ะค่ะ

    ...อยากให้ทราบอย่างนึง ค่ะ

    อยากให้ชาวบ้าน ที่ครอบครองที่ดินมานาน ให้ลองไปที่กรมที่ดินเพื่อ " ขอออกเอกสารสิทธิ์ " ค่ะ

    ...และอีกอย่างนึง

    ถ้าคราวหน้ามีปัญหาที่ต้องฟ้องร้อง กับพวกผู้มีอิทธิพล ทั้งหลาย หรือจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ

    ...ขอแนะนำให้ไปปรึกษาที่ " สภาทนายความ " เท่านั้นค่ะ

    เป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกันค่ะ หรือที่เรียกว่า" เป็นมวยถูกคู่ " ค่ะ

  • 1 decade ago

    ใครมีเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ก็จะได้ครอบครองที่ดินไปค่ะ

    ไม่งั้นถ้ามีคนไปสร้างบ้านอยู่ที่คนอื่นนานๆแล้วก็ถือครองเป็นของตนสิคะ

    ถ้าไม่มีใครเป็นเจ้าของแต่แรกก็ว่าไปอย่าง

    ถ้าหากอยู่ในที่ดินผืนนั้นมาตั้งนาน ทำไมไม่มีการไปออกเอกสารให้ถูกต้อง

    หรือว่าเป็นที่คนอื่นอยู่แล้วจึงออกเอกสารไม่ได้ ต้องสืบหาสาเหตุเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อนค่ะ

  • How do you think about the answers? You can sign in to vote the answer.
  • Anonymous
    1 decade ago

    เพราะเราไม่รู้กฎหมาย เราถึงได้เป็นเหยื่อของคนที่ฉลาด สมัยนี้เราต้องมีหลักฐานเท่านั้นถึงเป็นฝ่ายชนะ พ่อ แม่ สามีก็เคยโดนแบบคุณ เพราะท่านไม่กฎหมายนี่ล่ะ เชื่อใจญาติพี่น้องเกินไปเลยต้องเสียให้เขาไปเหมื่อนกัน

  • 1 decade ago

    แวะมาอ่านคะ ทำให้ได้รับความรู้มากขึ้นค่ะ ไม่มีความรู้ด้านนี้ค่ะ

  • T้OY
    Lv 6
    1 decade ago

    บ้านที่เหลืออยู่เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้อายุกว่า40ปีจึงไม่เข้าใจว่าทำไมศาลจึงไม่เห็นว่ามันเป็นประเด็นในการตัดสิน

    ก็เพราะว่า ไม่มีใคร หรือ อะไร ยืนยันได้ว่า บ้านนี้อายุกว่า 40 ปี ครับ

    แบบนี้ ควรใช้ภาพถ่ายทางอากาศ ครับ สามารถใช้เป็นหลักฐานได้ เพราะจะมีวันที่ + เวลาในการถ่ายภาพปรากฎอยู่ด้วย ภาพถ่ายทางอากาศนี้ มีอยู่ที่ กรมที่ดิน และกรมแผนที่ทหาร ครับ

    เอกสาร ถ้าเป็น นส.3 ก็จะถือว่าการครอบครอง เป็นสำคัญ เอกสารเป็นรองครับ

    ทีนี้ถ้าไปเจอ ฅนที่เขี้ยวๆ ประกอบกับ จนท.เป็นใจ . . ขอแนะนำให้ ถวายฎีกา ครับ เขียนรายละเอียดให้ละเอียดที่สุด ทั้งนี้จะต้อง ถูกต้องและเป็นจริงด้วยนะครับ . . แล้วอะไร อะไร จะเปลี่ยนไป

  • 1 decade ago

    เดินหน้าไปเลย หาเอกสารตัวเองลำบากก็หาหลักฐานพิสูจน์เจตนาของคนมาใหม่ไปเลย บ่นไปที่ 1111 ก็น่าจะได้บ้างแหละน่า แต่ที่เจอๆบางทีก็มาอยู่ในที่คนอื่นจนนานพอที่จะได้สิทธิ์ครอบครงอะไรจำไม่ได้แล้ว เจ้าของที่ต้องหารูปแบบป้องกันเป็นระยะระยะ

  • Anonymous
    1 decade ago

    ทุกอย่างต้องมีเอกสารจ้ะ เป็นอุทธาหรณ์

  • เดียวนี้ไม่ว่าทำอะไรก็ต้องเป็นไปตามเอกสารค่ะ

    เพราะคำพูดคนไม่มีน้ำหนัก

    แม้ต่ศาลก็ต้องวิเคราะห์ตามเอกสาร

    คนที่รู้มากกว่าจึงได้เปรียบเสมอค่ะ

Still have questions? Get your answers by asking now.