กฏหมายเกี่ยวกับการซื้อขายรถยนต์?

การจดทะเบียนปืน ทะเบียนรถยนต์ เป็นการจดทะเบียนเพื่อความประสงค์อย่างอื่น ซึ่งมิใช่แบบอันเป็นความสมบูรณ์แห่งนิติกรรม แต่เพื่อประสงค์ที่จะรู้ตัวผู้มีอาวุธหรือเป็นเจ้าของรถยนต์ เพื่อที่จะควบคุมดูแลได้ง่ายขึ้น

ดังนั้นในการซื้อรถยนต์กันเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้จะไม่มีการโอนกันทางทะเบียนก็ตาม ก็ถือว่าสัญญาซื้อขายนั้นสมบูรณ์แล้ว( คำพิพากษาฎีกาที่ 305/2494 )

.

ทะเบียนรถ เป็นเพียงแสดงว่าใครจะเป็นผู้จ่ายภาษีเท่านั้น ไม่ได้แสดงความเป็นเจ้าของรถยนต์

เพราะรถยนต์ เป็นสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่ต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

การแสดงความเป็นเจ้าของรถ คือ สัญญาซื้อขาย ใบเสร็จรับเงิน และการครอบครอง ครับ

หมายความว่า รถอยู่ที่ใคร คนนั้นเป็นเจ้าของครับ จ่ายเงินเสร็จ ก็เป็นเจ้าของทันที การโอนทะเบียนไม่ใช่เรื่องสำคัญ ( รถของผมไม่เคยโอนทะเบียนให้เสียเงินเลยสักคัน )

ก็ควรเอารถมาไว้ที่บ้านของเรา ให้คนข้างบ้าน และคนทั่วไปเห็นว่าเราเป็นผู้ครอบครองครับ

.

ส่วนในเรื่องการทำสัญญาเช่าซื้อช่วงแบบนี้ เป็นปัญหากฎหมาย ซึ่งจะมีผลต่อคุณโดยตรง จึงอยากให้สอบถามจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง น่าจะเหมาะสมกว่าครับ

คุณสามารถปรึกษาได้ที่สภาทนายความครับ-ปรึกษาฟรี( อยู่ใกล้ๆกับอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ) ถ้าอยู่ต่างจังหวัดอาจใช้การโทร.ไปปรึกษา หรือถ้าไม่รีบร้อน จะสอบถามเข้าไปในเวป.ของสภาทนายความก็ได้ ครับ

ผมมีความเห็นว่า ถ้าคุณไม่เปลี่ยนชื่อผู้เช่าซื้อมาเป็นชื่อของคุณ แต่ใช้วิธีโอนทะเบียนมาเป็นชื่อญาติของคุณก่อน แล้วจึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นชื่อของคุณอีกครั้งหนึ่งนั้น น่าจะต้องเสียค่าโอนทะเบียน และเสียภาษี 2 ครั้งนะครับ

ปัญหานี้ควรใช้วิธีโอนสิทธิสัญญาเช่าซื้อ แต่ติดที่ใบรับรองเงินเดือนอย่างที่คุณกล่าว

บริษัทผู้ให้เช่าซื้ออาจไม่ยอมให้โอนสิทธิไปยังคุณตามที่คุณเข้าใจครับ

ปัญหานี้แก้ไม่ยากเลย หากคุณมั่นใจว่าคุณสามารถรับภาระต่อจากญาติ

ปัญหาว่าว่าบริษัทผู้ให้เช่าซื้อ จะมาดำเนินคดีทางอาญากับคุณก็คงหมดไป

เพราะบริษัทได้เงินแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องไปดำเนินคดีกับคุณให้เสียเวลาครับ

ดังนั้นให้ทำสัญญาเช่าซื้อต่อจากญาติคุณ หรือสัญญาจะซื้อจะขายก็ได้โดยขอผ่อนชำระ

เป็นรายเดือน และการชำระเงินนั้น ขอผ่อนชำระเป็นงวด ๆ โดยนำส่งบริษัทผู้ให้เช่าซื้อโดยตรง

เมื่อชำระครบกำหนดตามระยะเวลาผ่อนส่งบริษัทแล้ว ก็จะไปทำการโอนกรรมสิทธิ์กันต่อไป

หากญาติคุณเบี้ยว คุณก็สามารถฟ้องร้องบังคับญาติคุณ โดยให้ศาลมีคำสั้งให้ขนส่งจดทะเบียนรถ

ให้แก่คุณได้ครับ เพราะเมื่อคุณผ่อนชำระให้แก่บริษัทผู้เช่าซื้อหมดแล้ว กรรมสิทธิ์จะตกแก่ญาติคุณ

ญาติคุณก็ต้องโอนให้แก่คุณตามสัญญาเช่าซื้อ หรือสัญญาจะซื้อจะขาย

เรื่องนี้กฎหมายรับรองและคุ้มครองให้คุณครับ

รายละเอียดเอกสารเป็นไปตามคำตอบ คุณสา "กุหลาบแดงครับ"

คณก็ให้ญาติคุณทำใบโอนลอยไว้ให้คุณซิคะ

โดยมีใบโอน 2ใบ

ใบมอบอำนาจ 2ใบ

สำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชนของญาติคุณ2ชุดค่ะ

โดยญาติคุณเซ็นต์ผู้โอน1ชื่อในใบโอนใบที่1

และเซ็นต์ผู้รับโอน2ชื่อในใบใอนใบที่2

แล้วถือไว้พร้อมทั้งทำสัญญาซื้อขายต่อกันระหว่างคุณและญาติคุณค่ะ

และเมื่อส่งค่างวดทุกครั้งให้คุณเก็บใบเสร็จไว้ทุกงวดนะคะ

สามารถใช้เป็นหลักฐานได้

เมื่อส่งหมดและจะโอนเปลี่ยนชื่อ

ให้ทำสัญญาซื้อขายไว้ระหว่างคุณกับญาติและต้องให้เขาเซ็นชื่อลอยไว้พร้อมสำเนาหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชนสำเนาทะเบียนบ้านและใบโอน ใบมอบฉัณฑะการโอน อีกประเด็นควรไปเปลี่ยนชื่อผู้ซื้อรถกับเจ้าของที่เราผ่อนทำสัญญาใหม่และต้องหาคนค้ำประกันหรือมีบ้านหรือโฉนดที่ดินใช้ค้ำแทนได้ครับ

ในกรณีของคุณ....กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ เป็นของ ผู้ให้เช่าซื้อ (บริษัทที่ขายรถฯ) ญาติของคุณเป็นแต่เพียง ผู้เช่าซื้อ มีเพียงสิทธิ์ครอบครองรถในระหว่างที่ชำระค่าเช่าซื้อ (ค่างวด) อยู่เท่านั้น ในสัญญาเช่าซื้อส่วนมากผู้ขายหรือผู้ให้เช่าซื้อจะไม่ยินยอมให้ ญาติ ของคุณ ขายรถให้แก่บุคคลอื่นได้ หากทำการขายจะเข้ากรณี "ยักยอกทรัพย์" เป้นความผิดทางอาญา มีสิทธิติดคุกได้ คุณก็จะมีความผิดฐาน "รับของโจร" ทางออกก็คือ คุณต้องไปติดต่อกับ ผู้ให้เช่าซื้อ (บริษัทฯ) ขอเปลี่ยนมาเป็นชื่อของคุณเป็นผู้เช่าซื้อฯ หากบริษัทฯตกลง (อาจจะมีค่าธรรมเนียมฯ ของเขานิดหน่อย) ปัญหาก็จะหมดไป อย่าด่วนท้อ ลองไปติดต่อขอเปลี่ยนสัญญาดูนะ หากเริ่มส่งใหม่ ๆ ก็อาจจะง่าย เพราะบริษัทฯ อยากขายอยู่แล้ว หากเราส่งมาจนคุ้มทุนของเขาแล้ว ก็อาจจุกจิกนิดหน่อยเพราะเขาเอารถไปขายจะได้กำไรดีกว่า หากทำไม่ได้จริง ๆ และคุณก็ไว้ใจและเชื่อใจได้ว่าญาติไม่โกง ก็ผ่อนในนามญาติต่อไป เมื่อเสร็จค่างวดแล้วก็ให้บริษัทฯโอนให้ญาติ ญาติโอนให้เรา ก็จบ แต่...ค่างวดที่ส่งบริษัทฯนั้นคุณต้องไปจ่ายเองและเก็บหลักฐานต่าง ๆ ไว้เองน่ะ หากให้คนอื่นจ่ายแล้วเขาไม่นำไปจ่ายบริษัทฯ แล้วละก็ ตกที่นั่งลำบากมาก ๆ เลยเชียว

ผม่วาให้ไปติดต่อกับไฟแนนรถที่ผ่อนอยุ่เลยให้เขาทำบันทืกไว้ว่าคุณได้ส่งต่อแทนโดยใช้สัญญาเดิม(ครอบครองรถ)เมื่อส่งหมดแล้วเขาจะโอนลอยมาให้ในชื่อญาติของคุณ(คู่สัญญา)คุณต้องให้ญาติทำเรื่องโอนลอยไว้พร้อมเอกสารในการโอนรถอย่างละ2ชุดไว้(หาจากร้านขายรถได้ทั่วไป)เมื่อได้เอกสารการโอนจากไฟแนนมาให้ไปยื่นที่ขนส่งเลยโดยเสียค่าโอน2ต่อครับ(ไม่แพงมาก)เพียงเท่านี้ก็สบายใจแล้วครับ..