Yahoo Answers is shutting down on May 4th, 2021 (Eastern Time) and beginning April 20th, 2021 (Eastern Time) the Yahoo Answers website will be in read-only mode. There will be no changes to other Yahoo properties or services, or your Yahoo account. You can find more information about the Yahoo Answers shutdown and how to download your data on this help page.

ใครเคยมีประสบการณ์นอนไม่หลับบ้างครับ?

เนื่องจากผมต้องทำรายงานจิตวิทยาเกี่ยวกับ mental disorder หัวข้อที่ sleep disorders ผมจึงเลือกที่จะทำเกี่ยวกับอาการนอนไม่หลับหรือที่เรียกกันว่า insomnia ครับ และตัวผมเองเป็นคนที่หลับยากและนอนน้อยมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วจึงเอาเรื่องของตัวเองมาเขียนเป็น case study ไม่ได้ และตอนนี้ผมต้องการ case ที่จะใช้ศึกษาประมาณ 4-5 case ครับ เลยต้องการที่จะนำเสนออาการนอนไม่หลับในคนไทยด้วย

รบกวนช่วยเล่าประสบการณ์ให้ผมฟังทีครับว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง คิดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณนอนไม่หลับ เป็นแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วและเป็นบ่อยหรือไม่ ที่สำคัญช่วยระบุเพศและอายุให้ผมทราบด้วยนะครับ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกๆคนที่ให้ความร่วมมือครับ :)

13 Answers

Rating
  • ?
    Lv 6
    1 decade ago
    Favorite Answer

    เป็นความเชื่อที่บอกต่อกันมาแสนนานว่าคนทั่วไปที่มีสุขภาพร่างกายปรกติควรจะนอนหลับสนิทให้ได้อย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงต่อคืน แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวและจากการค้นคว้าของตัวเอง ดิฉันพบว่าคนเราต้องการพักผ่อนจากการนอนหลับไม่เท่ากันหรอกค่ะ

    ตอนที่ยังเป็นเด็กหญิงอยู่ หลังจากกลับจากโรงเรียนพอเปลี่ยนชุด อาบน้ำ ทานอาหารเย็น และทำการบ้านเสร็จแล้ว คุณยายจะไล่ให้ทุกคนเข้าห้องนอน คุณยายเชื่อว่าเด็กๆจะต้องกินให้อิ่มและนอนหลับเยอะๆร่างกายถึงจะแข็งแรงสมองแจ่มใส และก็ไม่เคยมีใครกล้าโต้แย้งหรือขัดคำสั่งคุณยาย ดิฉันต้องเข้านอนแต่หัวค่ำทุกคืนด้วยความทรมานเพราะมันยังไม่ง่วงอ่ะ ยิ่งข่มตาพยายามจะให้หลับ ประสาทยิ่งตื่นตัวตางี้สว่างเชียว นอนนับแกะหมดไปหลายพันตัวแล้วก็ยังไม่ง่วงสักที จนค่อนดึกนั่นแหล่ะค่ะ ถึงผล็อยหลับได้และก็จะรู้สึกตัวทันทีที่ได้ยินเสียงไก่ตัวแรกโก่งคอขันเมื่อประมาณตี่สี่ครึ่ง

    ยิ่งอายุมากขึ้น..ดิฉันยิ่งนอนยากและตื่นง่ายขึ้นกว่าเดิม เคยกังวลใจเหมือนกันว่าทำไมเราถึงได้แปลกกว่าคนอื่น เคยสงสัยว่าทำไมคนอื่นเค้าถึงได้หลับง่ายดายกันจัง แต่ตัวเองยิ่งถ้าพยายามจะนอนให้หลับเมื่อไหร่กลับรู้สึกฝืนตัวเองมากกว่าจะรู้สึกว่าได้พักผ่อนจริงๆ

    เลยไปหาหนังสือที่เกี่ยวกับคนหลับยากมาอ่าน และได้รู้ว่ามีนักวิทยาศาสตร์บางท่าน(จำชื่อไม่ได้แล้วค่ะ)เคยศึกษาเรื่องความต้องการพักผ่อนจากการนอนหลับของมนุษย์มาแล้ว การวิจัยสรุปความได้ว่า บางคนต้องการหลับให้สนิทเพียงแค่ 4-5 ชั่วโมง ร่างกายของเค้าก็จะรู้สึกว่าได้พักผ่อนเพียงพอแล้ว ในขณะที่หลายคนต้องการหลับยาวถึง 12 ชั่วโมงติดกันถึงจะรู้สึกว่าได้นอนอิ่มแล้ว

    ดิฉันก้อไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการหลับยากหรอกค่ะ เคยเห็นหลายคนที่มีเรื่องเครียดแค่ไหนก็ไม่มีปัญหาเรื่องหลับยากก็มี แต่สำหรับดิฉัน..จะมีหรือไม่มีปัญหาก็ไม่ชอบนอนหลับนานหลายชั่วโมงติดต่อกัน และเลิกกังวลใจกับมันมานานมากแล้ว ถึงค่ำ..ตกดึก..หากไม่ง่วงก็จะหาหนังสืออ่าน ทำนู้นทำนี่ไปเรื่อยๆ จนรู้สึกง่วงเมื่อไหร่ถึงจะเข้าไปนอน และเมื่อรู้สึกตัวตื่น ไม่ว่าจะเช้าตรู่แค่ไหนก็จะไม่เป็นทุกข์ ลุกเก็บบ้านทำความสะอาด เตรียมอาหารเช้าไว้ให้ลูกให้สามี ถือโอกาสออกกำลังกายเล็กๆ ได้นั่งจิบกาแฟร้อนๆ นั่งชื่นชมความเงียบสงบของเช้าวันใหม่และเฝ้ารอรับแสงแรกของวันก่อนที่คนอื่นจะตื่น..มีความสุขออกค่ะ

    อาการหลับยากและต้องการนอนน้อย เป็นมาตั้งแต่จำความได้ ชีวิตนี้ดิฉันไม่เคยพึ่งนาฬิกาปลุกและไม่เคยนอนตื่นสายเลย ปัจจจุบันอายุ 42 ค่ะ

    หวังว่าข้อมูลคงเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ^^)

  • ตามปรกติดิฉันจะเป้นคนนอนหลับได้ดี ไม่มีอาการนอนไม่หลับ เพียงแต่ว่าเป็นคนนอนค่อนข้างน้อยจนชิน วันละประมาณ ๓ - ๔ ชม.ก็พอแล้ว (และไม่หลับกลางวันด้วย) เพราะติดนิสัยจากการที่ทำงานหลายที่และรับงานเขียนหนังสือมาทำกลางคืน ตั้งแต่ตีสอง - เช้า ดังนั้นพอถึงเวลาตีสองจะตื่นได้เองโดยไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุก หลัง ๆ นี่แม้จะไม่ค่อยได้รับจ๊อบแล้ว แต่พอตีสองก็จะนอนไม่หลับแล้ว มันจะตื่นขึ้นมาเองแล้วทำอย่างไร ๆ ก็หลับไม่ลงอีกแล้ว แม้จะง่วงก็ไม่หลับแล้ว

    หลังจากที่เลิกรับงานแบบทรมานสังขาร เพราะรู้ตัวว่าร่างกายรับไม่ไหวแล้ว ก็จะนอนได้มากขึ้นเป็นวันละ ๔ - ๕ ชม. มาตื่นตี๓ - ตี ๔ แทน แต่ก็ยังคงเหลือนิสัยอีกอย่างหนึ่งคือเป็นคนนอนสั่งได้ คือก่อนนอนดิฉันจะบอกกับตัวเองว่าจะตื่นกี่โมง(ขึ้นอยู่กับว่าจะตื่นขึ้นมาทำอะไร) เช่น ตื่นตีสองนะ ตื่นตีสามนะ ตื่นตีห้านะ ก็จะตื่นได้ตามนั้นโดยไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุก ถ้าตั้งนาฬิกา ก็จะกลัวว่านาฬิกาจะไม่ปลุก เลยจะตื่นก่อนนาฬิกา แล้วมานอนรอให้มันปลุกค่ะ และเพราะในใจมีกังวลกับงานหรือสิ่งที่ตื่นขึ้นมาทำ หรือกังวลกับกิจกรรมที่จะทำในวันรุ่งขึ้นเลยนอนไม่หลับ

    ในกรณีของการนอนไม่หลับของดิฉันนั้น จะมีสาเหตุหลายอย่างคือ

    ๑. กังวลเรื่องงาน ว่าจะเสร็จไม่ทัน (เคยไม่นอนเลยติดต่อกันได้ ๗๐ -๘๐ ชม.เพื่อทำงาน มันไม่หลับด้วยถ้างานไม่เสร็จ แต่ทันทีที่งานเสร็จหมดห่วง ดิฉันหลับรวดเดียวไม่ตื่นเลย ๒๔ ชม.ค่ะ)

    ๒.ตัวเองมีนัดกลัวจะตื่นสาย เลยพาลนอนไม่หลับ อันนี้เป็นตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้วเดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอยู่ค่ะ คือในคืนก่อนวันที่มีสอบหรือจะเดินทางไปปไหนจะนอนไม่หลับ เพราะกลัวตื่นสาย ไปไม่ทัน ถึงขนาดเก็บไปฝ้นว่า ไปไม่ทันสอบ ตกรถ แล้วเลยตกใจตื่น จากนั้นก็ประสาทค้างนอนต่อไม่ได้แล้ว

    ๓.คนในครอบครัว เช่น ลูก ๆ หรือสามีมีนัด แล้วเราต้องเป็นคนปลุกหรือทำอย่างอื่นให้ ก็กังวลว่าจะปลุกเค้าไม่ทันเลยนอนไม่หลับ เพื่อรอปลุก

    ๔.เครียดเรื่องอื่น เช่น เรื่องเงิน เรื่องงาน ฯลฯ หรือมีเรื่องให้เก็บมาคิด ก็จะคิด ๆ ๆ จนไม่หลับไม่นอน เมื่อก่อนบางครั้งก็เป็นเรื่องของความทุกข์ก็มี แต่เดี่ยวนี้ปล่อยวางได้แล้ว ไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไร

    ๕.ข้อนี้คุณจะว่าไร้สาระก็ได้นะคะ บางครั้งดิฉันจะสะดุ้งตื่นเหมือนมีคนมาเรียกว่าตื่นเถอะ ๆ พอตื่นขึ้นมาก็จะเจอเรื่องต่าง ๆ เช่นโจรเข้าบ้าน งูเหลือมเข้าบ้าน คุณแม่หอบหนักต้องพาไปรพ.(แต่เรียกเราไม่ไหวแล้ว) หรือคนใกล้ตัวเกิดอุบัติเหตุ หลังจากจัดการแก้ปัญหาต่าง ๆ แล้ว ก็จะประสาทค้างนอนไม่หลับอีกแล้ว

    ๖.นอนไม่หลับเพราะห่วงใยคนอื่น เช่นลูกยังกลับไม่ครบ สามียังไม่กลับ คิดถึงเพื่อนที่หายไป ต่อให้คนบอกให้ไปนอนได้แล้ว นอนก็นอนไปอย่างนั้นจะข่มตาไม่ลงค่ะ

    ๗.หิว

    ๘.นอนไม่หลับเพราะเจ็บป่วย เช่น อิ่มอึดอัดท้องอืด ไอมากจนนอนไม่ได้ หอบมากจนนอนไม่ได้(หายหอบมาสามสิบกว่าปีแล้ว) ปวดศีรษะมาก(หมอ รพ.เดียวกัน แผนกเดียวกันวินิจฉัยโรคต่างกันมาก และให้ยาต่างกัน และบลัฟกันด้วย แต่ตอนนี้รักษาอยูกับหมอคนที่บอกว่าเราเป็นความดันอยู่)

    อ้อ เพศกับอายุคุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ

  • Anonymous
    1 decade ago

    เล่าประสบการณ์จากการได้พูดคุยและติดตามอาการของพี่สาวมานานนะคะ

    พี่สาวอายุ 46ค่ะ รักษานอนไม่หลับมาประมาณ 8 ปี มองรวมๆแล้ว ดูสุขภาพดี อารมณ์ดี ยิ้มง่าย

    น้ำหนักตัวมาตรฐานตามดรรชนีมวลกาย

    แต่งงานอายุ22 ไม่ต้องไปทำงาน สามีทำงานคนเดียว เธออยู่บ้านมีเด็กรับใช้หนึ่งคน เมื่อมีลูก

    เธอไม่สามารถคลอดเองได้เนื่องจากอาการหอบจนต้องผ่าตัด

    (ตามประวัติเธอป่วยเป็นโรคหอบตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเริ่มเล่นกีฬาในช่วงประถมปีที่6 จากนั้น

    สุขภาพดีขึ้นเรื่อยๆจนคุณหมอคาดว่าเธอน่าจะคลอดเองได้) หลังการคลอดเธอเลี้ยงลูกเอง

    นอนน้อยการพักผ่อนไม่พอ มีอาการหนาวในกระดูกเมื่ออากาศเย็น ทำให้นอนไม่หลับ

    ชีวิตที่สะดวกสบายยุติลงเมื่อสามีต้องออกจากงาน เธอกับสามีเปิดกิจการส่วนตัวซึ่งคนไม่มี

    ความสามารถทางธุรกิจขาดทักษะไม่นานกิจการก็ขาดทุน

    แรงกดดัน ทำให้นอนไม่หลับมาเรื่อยๆ จนกระทั่งลูกของเธอเข้ามหาวิทยาลัย โชคดีที่เธอมีลูก

    ที่ดีไม่เคยสร้างปัญหานอกจากความห่วงตามปกติของคนเป็นแม่ เธอหางานทำเพื่อใช้จ่าย

    เนื่องจากสามีไม่ทำงานและเริ่มขอเงินจากเธอ ระหว่างเวลาที่ผ่านมาเธอซื้อยาสมุนไพร เช่น

    บรเพ็ด มะแว้งฯลฯ และยาช่วยให้หลับจากบริษัทต่างๆที่จำหน่ายยาสมุนไพร รวมถึงไปพบ

    แพทย์แผนจีนแผนไทยแผนปัจจุบัน แต่ก็ไม่ทำให้เธอหลับได้และอาการหนักขึ้นจนอ่อนเพลีย

    เมื่อไม่สามารถพึ่งยาได้ เธอจึงไปอยู่วัด ปฏิบัติธรรมหวังว่า จิตใจที่สงบจะช่วยได้ เกือบครึ่งปี

    ทุกอย่างในบ้านดีขึ้นลูกเรียนจบได้ทำงานเธอปล่อยวางเรื่องของสามีได้แล้ว สามีได้งานทำพอ

    จ่ายเพื่อตัวเขาเอง แต่อาการนอนไม่หลับก็ยังเป็นอยู่ทำให้หงุดหงิดง่าย เวลาหลังเลิกงานเธอ

    จะเก็บตัวดูทีวีไม่รับโทรศัพท์ไม่อยากพูดกับใคร เนื่องจากเธอไม่เคยนอนกลางวันมาก่อนเวลา

    ในวันหยุดเธอจะทำงานบ้านและไม่หลับฉันได้พบเธอครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนเมษายน เธอควบคุม

    อารมณ์ได้ดีแต่จากการพูดคุยทางโทรศัพท์เพื่อนำมาเป็นเคสสตัดดี้นี้ เธอบอกเล่าว่าเธอ

    หงุดหงิดง่ายขึ้นแต่ไม่เครียดเรื่องตัวเองนอนไม่หลับเพียงแต่อ่อนเพลีย เข้าใจสถานการณ์ที่

    เกิดขึ้นกับตัวเอง รับได้แล้วกับสิ่งที่เกิดขึ้นและผ่านไปแล้ว หมอคนสุดท้ายก็แปลกใจที่ยาของ

    เขาช่วยเธอไม่ได้ มีคนแนะนำให้เธอไปฝังเข็ม แต่เธอคิดว่าเธอไปโรงพยาบาลประสาทเพือ

    ตรวจอย่างละเอียด ถ้าคุณหมอจะเก็บเคสปลายปีจะส่งเรื่องมาต่อค่ะ

  • 1 decade ago

    การนอนหลับแบบเต็มอิ่มสำหรับครูแล้วเป็นสิ่งที่วิเศษมากค่ะ แต่หลายๆ ครั้งมันก็ช่างยากเย็นเหลือเกิน ซึ่งครูคิดว่าการหลับแบบสมบูรณ์ คือหลับลึก หลับแบบมีคุณภาพนี่แหละที่มันยาก บางคนเข้านอนแต่หัวค่ำ เพื่อจะได้นอนเต็มที่ แต่อาจจะข่มตาไม่หลับ หรือหลับๆ ตื่นๆ ต่างจากบางคนนอนดึก หลับไม่กี่ ช.ม.แต่แบบหัวถึงหมอนก็หลับปุ๋ย ก็น่าจะหลับแบบมีคุณภาพมากกว่า

    เคยบอกคุณหมอท่านนึงว่า รู้สึกตัวเองนอนได้แค่ 6 ช.ม. คุณหมอบอกว่านั่นก็พอแล้วสำหรับผู้ใหญ่ค่ะ

    อาการนอนหลับยากนี่เป็นได้หลายกรณีสำหรับครูค่ะ

    อาทิเช่น มีเรื่องที่กังวลใจ เรื่องที่ต้องใช้ความคิดและเรายังไม่สามารถตัดมันออกไปจากสมองได้ โดยเฉพาะตัวเองเแล้วยอมรับว่าเป็นคนคิดมาก จินตนาการบรรเจิด คิดปุปะไปได้ตลอด ก็จะทำให้ไม่สามารถข่มตาลงได้

    หรือบางคืน เข้านอนแต่หัวค่ำ ก็มักจะตื่นขึ้นมาตอนดึก ทีนี้แหละ บรรยากาศมาคุจะเริ่มมาเยือน ดูนาฬิกา เอ๊า...ตีสองเอง ทีนี้จะนอนต่อก็ไม่หลับซะแล้ว เหมือนร่างกายมันนอนพอแล้วน่ะค่ะ แต่มันจะเริ่มง่วงสุดๆ เวลาที่เราจะต้องตื่นไปทำงานนี่แหละ ทรมานมากค่ะ ตอนหลังเลยไม่ค่อยนอนหัวค่ำเท่าไหร่ จะได้นอนรวดเดียวให้เต็มแม็คไปเลยค่ะ

    อีกอย่าง...ไม่รู้ใครจะเป็นแบบครูมั่ง คือตัวเองใส่คอนแทคเลนส์ค่ะ บางคืนที่นอนอ่านหนังสือ จนรู้สึกง่วง จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ ก็จะต้องถอดคอนแทค ทีนี้ไอ้ช่วงที่ถอดคอนแทค มันเหมือนเราได้ปลุกสติตัวเองขึ้นมา มันต้องลุกขึ้นมาเคลื่อนไหว พอถอดเสร็จ.....หายง่วงซะและ....เวรกรรม

    อีกอย่างนึง ตัวเองเป็นคนที่จะต้องตื่นเช้าประมาณตี 5 นิดๆ เพื่อเตรียมตัวไปทำงาน ซึ่งมันทำให้คืนวันอาทิตย์ถึงวันพฤหัส มันดูอึมครึม ยังไม่ทันจะนอน ก็ขี้เกียจจะตื่นซะและ มันจะกังวลว่า เอ๊...คืนนี้จะหลับได้กี่ ช.ม. ตื่นมากลางดึกไหม ก็พลอยจะนอนไม่หลับเข้าไปอีกค่ะ ส่วนคืนศุกร์ เสาร์จะหลับอย่างเป็นสุขค่ะ หลับง่าย สบายใจ

  • How do you think about the answers? You can sign in to vote the answer.
  • Anonymous
    1 decade ago

    อาการนอนไม่หลับ

    จะเป็นอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ เป็นมาตลอดเกือบหกเดือนที่ผ่านมา

    ก่อนหน้านี้ ยอมรับว่าเครียดกับปัญหาของตัวเอง แต่ปัจจุบันนี้ทำใจให้ยอมรับได้แล้ว

    แต่ก็ยังมีอาการนอนไม่หลับเหมือนเดิม

    ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ >______<

    สำหรับตัวเรา จะง่วงนอนประมาณสามทุ่มครึ่ง

    (ปกติจะนอนเวลานี้ทุกวันและเป็นแบบนี้มาโดยตลอด)

    และกว่าจะตื่นก็จะประมาณหกโมงครึ่งถึงเจ็ดโมง

    แต่ช่วงที่เกิดภาวะนอนไม่หลับคื่อ จะง่วงนอนเวลาเดิม แต่จะนอนไปได้แค่สองชั่วโมง

    หรือสามชั่วโมง แล้วก็จะตื่น พอตื่นปุ้บจะควานหาโทร.เป็นสิ่งแรก

    จะดูว่ามีใครโทร.มาหาหรือปล่าวน่ะค่ะ หุหุ

    แล้วก็ไม่หลับอีกเลย จนกระทั่งเกือบเช้าของอีกวัน

    ช่วงหลัง ๆ มานี้ จะหลับและตื่นทุกชั่วโมงค่ะ

    แต่ไม่เป็นทุกวันในหนึ่งสัปดาห์จะเป็นแค่หนึ่งวันหรือสองวันเท่านั้น

    ถ้าจะสันนิษฐานว่าเครียด ตัวเราก็บอกได้เลยค่ะ

    ว่าไม่ได้เครียดอะไรกับชีวิตประจำวันเลยยยยยยยยย คอนเฟิร์มได้ อิอิ

    สำหรับอายุ 24 ปีค่ะ ส่วนเพศไม่ต้องบอกมั้งคะ เนอะ 555++

  • 1 decade ago

    อาการนอนไม่หลับเป็นบ่อยพอๆกับอาก���รนอนบ่อยๆในระหว่างวันสลับกันไป...หหุ

    เคยมีอาการนอนไม่หลับ ปวดท้องและเจ็บหน้าอกร่วมด้วย เคยไปตรวจที่ รพ.แห่งหนึ่ง หมอ(สันนิษฐานของหมอ)บอกว่าอาการอาจเกี่ยวกับหัวใจ ลองขยายผลการตรวจไปอีกระดับหนึ่ง....โหหๆๆๆ อะไรกันเนี่ย เราเองก็แข็งแรงไม่เคยเจ็บป่วย อายุก็ไม่มากตอนนั้นก็ประมาณยี่สิบปลายๆ(หลอกถามอายุป่าวหว่า)...ไม่เชื่อคะไม่เชื่อ และก็ไม่ตรวจคัดกรองขยายผลอะไรต่อด้วย....กลับบ้านเลย!

    ไม่จบเท่านี้ นอนไม่หลับกว่าเดิมอีก กังวลและเจ็บหน้าอกมากขึ้น ก็เลย second option หมอคนต่อไป เพราะชีวิตเราเลือกได้ ไม่จำเป็นต้องเชื่อหมอแค่คนเดียว เรามีสิทธิที่จะปรึกษาหมอได้อีกแล้วแต่จะพอใจ .......

    จนได้มาเจอแพทย์ทางเลือกจากพี่ที่ทำงานแนะนำมา และไปปรึกษา ได้ความว่า อาการนอนไม่หลับเกิดจากภาวะจิตใจ หรือสภาวะการณ์ที่ตึงเครียดในชีวิตประจำวัน มีผลทำให้เกิดโรคกระเพาะและอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วยได้อาหารที่เรากินเข้าไปก็เป็นสาเหตุหนึ่งด้วยเช่นกัน เช่น กาแฟ เหล้า ....จากคนเคยดื่มกาแฟวันละ 3-4 แก้ว ตอนนี้ลดลงมาเหลือ1แก้ว ทั้งที่ควรงดไปเลย หาเวลาพักผ่อน ปลดปล่อยความตึงเครียด ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ กินเนื้อสัตว์ให้น้อยลง เพิ่มกากใยอาหารให้มากขึ้น งดของหวาน(หินโคตรๆเลยอันนี้) อยู่กับธรรมชาติให้มากขี้น

    สาเหตุที่ตัวเองเป็นโรคนอนไม่หลับ เกิดจากความกังวล เครียดและการใช้ชีวิตที่มีการแข่งขันสูง ด้วยภาระหน้าที่การงานที่มากเกินไป การดื่มกาแฟมากเกินไป และอาการอกหัก..อิอิ(อันนี้คิดไปเอง) เป้นมานานหลายปี และทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่บ้างแต่ไม่เท่าเมื่อก่อนคะ..ก็เพราะพยายามลดความตึงเครียด พยายามฟังเสียงร่างกายตัวเองให้บ่อยขึ้น ว่าไหวไหม ไม่ไหวก็...พักเถอะ ..........................

    สาเหตุทั่วไปของคนที่นอนไม่หลับส่วนใหญ่มาจาก ปัญหาครอบครัว เศรษฐกิจในครอบครัว และการงานเป็นส่วนใหญ่ ความกังวลเรื่องทั่วๆไป เช่นโรคประจำตัว หนี้สิน บุตรหลาน และสิ่งแวดล้อม(พวกเสียงดังรบกวนชาวบ้าน และส่งกลิ่นเหม็น) คิดว่าคงอีกหลายคนหลาย case ก็จะรออ่านคำตอบของท่านอื่นๆบ้างคะ .....

    การดื่มกาแฟ สตาร์บัคมากเกินไป อาจเป็นสาเหตุของการนอนไม่หลับด้วยนะคะ พอจะเป็นกรณีศึกษาได้ด้วยป่าว...หหุ

  • Kimmim
    Lv 7
    1 decade ago

    เราเป็น Panic Disorder ... ช่วงนั้นบางที3วัน3คืนไม่หลับเลยก็มี หรือบางทีหลับแค่ 2-3ชั่วโมงก็จะตื่นแล้ว ทั้งๆที่ร่างกายอ่อนเพลียมากๆ(รู้ตัว) แถมยังเป็นไฮเปอร์เมตาบอลิซึ่มอีก ทีนี้เลยนับวันยิ่งผอมลงๆเรื่อยๆจนจะกลายเป็นซอมบี้ หนักๆเข้าก็เลยช็อคเข้าร.พ. ช่วงนั้นช็อคเข้าร.พ.เดือนละ 2 หน...เป็นอยู่ 4-5เดือน แพทย์หาสาเหตุการป่วยไม่เจอไม่ว่าจะตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจหรือMRI ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จนพี่สาวซึ่งเป็นพยาบาลบอกให้ consult จิตแพทย์น่ะแหละถึงได้รู้

    แพทย์เลยต้องให้ยาหลับกับยาตื่น คือหลับได้เพราะยา(โด๊ซยาขณะนั้นกินขนาดที่ล้มฝรั่งตัวโตๆได้เลย) แล้วตื่นมาก็ต้องกินยาอีก(ให้ตื่นทั้งวัน) ในขณะที่รักษาอาการทางจิตไปพร้อมๆกันโดยการ

    1.ช่วยให้ข้อคิดในการแก้ไขปัญหาที่เกิดในชีวิตประจำวัน ซึ่งตอนนั้นมีเข้ามาทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเอง(สามี,ลูก), ทางบ้านตัวเอง, ทางบ้านสามี, เรื่องธุรกิจส่วนตัวที่ต้องดูแลรับผิดชอบ, ความสัมพันธ์กับทุกคนที่ต้องเกี่ยวข้อง

    2.ใช้ธรรมะเข้าช่วย คือความเครียด-ความวิตกกังวลของแต่ละบุคคล ไม่มีใครช่วยใครได้ นอกจาก "ตัวเองต้องรู้จักคิดเองให้ได้เท่านั้น" ยาก็เป็นตัวช่วยที่ปลายเหตุ แต่ถ้าไม่อยากกินยา(กินมากแล้วจะติด-ต้องใช้เวลาถอนอีก)ก็ต้องรักษาที่ต้นเหตุ...ค่อนข้างใช้เวลา แต่เป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อจะไม่เป็นผู้ป่วยอีกต่อไป

    ตอนที่consult แพทย์นั้นตัวเราเองก็กังวลเหมือนกันว่าเราผิดปกติขนาดนี้เลยหรือ? กลัวว่าจะกลายเป็นคนบ้ารึเปล่า? แต่แพทย์ก็บอกว่า"ปัจจุบันมีผู้ป่วยทางด้านนี้เยอะมาก"อาจจะเพราะปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนเร็วมากจนคนปรับตัวตามไม่ทัน แต่ที่แย่กว่านั้นคือผู้ป่วยไม่ยอมรับอาการที่ตัวเองเป็น ต้องรอจนเกิดอาการทางร่างกายแล้วถึงจะมาพบแพทย์ซึ่งรักษายากกว่ามากๆ(แต่ในกรณีเราคือไม่รู้ตัวว่าป่วย)

    กินยาอยู่ประมาณ 5 ปี(ช่วงอายุ30-35...ตั้งแต่พบแพทย์ถูกทางก็ไม่ช็อคเข้าร.พ.อีก) ตอนนั้นมีข่าวผู้หญิงที่ชื่อ จิตรลดา วางแผนฆ่าคนด้วย..พี่สาวก็วิตกกังวลว่าเราจะเป็นเหมือนเขาไหม? จนต้องหอบหิ้วไปหาจิตแพทย์ชื่อก้องของเมืองไทยตรวจสอบที่พญาไท2 หมอก็หัวเราะว่าพี่สาวเราวิตกเกินเหตุ เพราะ Panic Disorder ไม่ได้เป็นโรคจิตลักษณะนั้น(ฮากันกลิ้ง)

    จากนั้นอาการต่างๆก็ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับพร้อมๆกับปัญหาทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดี...จนตอนนี้สามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว 98% อาจจะมีบ้างเป็นบางครั้งถ้า Panic ขึ้นมาอีกแต่ก็คุมไม่ยากแล้ว รู้วิธีรับมือ-จัดการแล้ว...เรียกง่ายๆว่า หนักแค่ไหนก็ไม่ทุกข์ อีก

    ตอนนี้แพทย์เลยให้ยาเพื่อเน้นบำรุงสภาพร่างกายซะมากกว่าค่ะ ให้มีเนื้อมีหนัง อารมณ์ดีแจ่มใส หลับง่าย-กินเก่ง เป็นปกติเหมือนคนอื่นๆทั่วๆไปในสังคม แต่ที่ประทับใจและมีความสุขที่สุดก็คือ ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เป็นไฮเปอร์เมตาบอลิซึ่มจะอ้วนได้..จากที่น้ำหนักไม่เคยเกิน 45Kg. ตอนนี้ขึ้นมาstable อยู่ที่ 60Kg.โดยไม่มีคลอเลสเตอรอล-ไตรกลีเซอร์ไรด์สูงพ่วงมาด้วย มีความสุขมากๆ ยาที่กินก็น้อยนิดจากที่เคยกินทีละ5-6���นิด เดี๋ยวนี้กินหลังอาหารเที่ยงแค่เม็ดเดียว(คุมPanicแถมเป็นโดซต่ำสุดด้วย) ส่วนอีกชนิด(ยาอ้วน)กินก่อนนอนแค่1/4เม็ด Happy สุดๆค่ะ

    อาจจะไม่ตรงกับ insomnia นักแต่ก็อยู่ในกลุ่ม disorder เหมือนกัน

    ส่วนเพศกับอายุ คงไม่ต้องบอกนะคะ ^^o

  • ?
    Lv 6
    1 decade ago

    เป็นบางช่วงค่ะ..ส่วนใหญ่เวลาเกิดอาการนอนไม่หลับก็เพราะเครียด วิตกกังวลเรื่องต่างๆ หมกหมุ่นครุ่นคิดถึงเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นแล้ว ก็เฝ้าคิดคำนึง จนนอนไม่หลับ...

    ถ้าวันไหนนอนไม่หลับ รุ่งเช้าก็จะเพลีย ปวดหัว ขี้เกรียจทำงาน..แต่พอตกเย็น หรือค่ำๆ ก็ล่วง หลับแต่หัวค่ำ แล้วก็ตื่นขึ้นมาดึกๆ แล้วก็นอนไม่หลับไหม่ คิดถึงปัญาหาต่อ ถ้าปัญหาหนักก็เป็นนาน จนกว่าจะปลงได้ หรือรับกับมันได้ บางเรื่องก็แค่คืนเดียว บางเรื่องก็ยาวนาน เช่นตกงานเครียดนาน จนกว่าจะมีทางออกหรือมีงานทำจึงหาย

    ตอนนี้หลับสนิททุกคืน เพราะเหนื่อยไม่เครียด ถึงเครียดก็ทำใจยอมรับ และปล่อยวาง ช่างมัน เดี๋ยวมันก็ผ่านไป พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว เพศหญิงค่ะ..อายุมาวัดรอบเอวเอาก็แล้วกันนะ

  • Anonymous
    1 decade ago

    รู้สึกอ่อนเพลีย และหงุดหงิด

    เป็นในช่วงที่มีความเครียดสูง และจิตใจไม่สงบ

    เคยเป็นติดต่อกัน ประมาณ 2 เดือน ปัจจุบันเป็นบ้างแต่ไม่บ่อย

    เพศชาย...อายุน้องหมอ ก็ทราบดีนี่นา ว่าผมอายุเท่าไร

    *** หวังว่าข้อมูลของผม คงจะพอเป็นประโยชน์กับน้องหมอนะ ***

  • Anonymous
    1 decade ago

    ปวดเบ้าตาครับ ปวดจริง ๆ

Still have questions? Get your answers by asking now.