วันนี้จะยกเลิกมาตรการตรึงราคาน้ำมันปาล์มกันแล้ว ท่านเชื่อว่าราคาจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นในระยะยาวกันแน่?

ปาล์มต้องนำราคาเทียบกับของมาเลย์ด้วย หากต่างกันมากโดยเราแพงกว่ามันจะทำให้กลายเป็นต้นทุนการผลิตของสินค้าเกี่ยวเนื่อง นั่นหมายความว่ามาเลย์มีโอกาสขายสินค้าได้ราคาถูกกว่าไทย

ปรกติมาเลย์ราคาน้ำมันปาล์มก็ต่ำกว่าไทยจนมีการลักลอบเข้ามาบ่อย

ไม่นับว่าตอนนี้ปาล์มราคาขึ้นกับโรงงานที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือ���ทางใต้ ตอนผลปาล์มขาดตลาดน้ำมันแพงเราเข้าใจได้ แต่พอผลปาล์มทะลักเข้าโรงงานในวันนี้ราคากับยืนแพงใกล้เคียงเดิม

...

แล้วเงินส่วนต่างย้ายเข้ากระเป๋าใคร

ไม่นับกับเป็นการหาเสียงในกลุ่มผู้ปลูกปาล์มที่เป็นฐานเสียงใหญ่ของปชป

...

ผมคิดว่ายังไงหลังเลือกตั้งไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลน้ำมันปาล์มก็ลดอยู่ดีโดยเฉพาะหากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเราอาจได้เห็นการออกมาแฉเรื่องนี้อีกก็ได้

...

หากจะลดราคาปาล์มต้นทุนหลักเจ้าของสวนคือปุ๋ย (ปลูกปาล์มต้องใช้ปุ๋ยมาก)ก็ต้องถามว่ารัฐจะลดราคาปุ๋ยได้รึเปล่า

..เจอข่าวเพิ่ม

“พาณิชย์” สั่งลดราคาปาล์มขวดลง 5 บาทเหลือ 42 บาท ดีเดย์ 1 ก.ค.นี้ ยันไม่ต้องขออนุมัติบอร์ดปาล์มใหญ่ พร้อมสั่งห้ามส่งออกหมู เริ่มทันที 30 มิ.ย.นี้ หลังปริมาณไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ ต้นเหตุหมูราคาแพง เผยตรวจพบส่งออกไปเขมรสูงถึง 1.8 แสนตัว

...ยังได้สั่งการให้นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เรียกประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาแนะนำน้ำมันพืชในวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 นี้ เพื่อปรับลดราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด (1 ลิตร) ลงอีก 5 บาท หรือจากขวดละ 47 บาท เหลือ 42 บาท เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบผลปาล์มสดมีแนวโน้มราคาลดลงเหลือกิโลกรัมละ 4-5 บาท ดังนั้น จึงต้องปรับลดราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดให้สอดคล้องกับต้นทุน

ทั้งนี้ การปรับลดราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดของกระทรวงพาณิชย์ครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพราะมาตรการที่ให้ตรึงราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดไว้ที่ 47 บาท จะหมดอายุลงในวันที่ 30 มิถุนายน 2554 นี้ เท่ากับว่า เป็นการยกเลิกมติคงราคาดังกล่าวไปโดยปริยาย

คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ แต่ทางปฏิบัติจริงนั้นยากยิ่ง ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว บ้านเรามีเยอะมาก ร้านค้าปากซอย ในซอย ในตลาดทั่วๆไป ก็คงยืนพื้นราคาปรับขึ้นเหมือนเดิม ไม่ค่อยมีลด ถ้าจะปรับลดลงก็คงไม่กี่บาทหรือไม่ถึง 5บาท ตามที่กำหนด นอกจากจะออกเป็นกฏหมายน่าจะพอควบคุมได้บางส่วน นี่จึงเป็นเหตุผลที่คนส่วนใหญ่นิยมเป็นลูกค้าที่เหนี่ยวแน่นให้กับห้างค้าปลีกส่ง อย่าง โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์ แมคโครและอื่นๆ เพราะราคาสินค้าควบคุมทุกชนิดอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด แต่ก็ต้องมาพ่วงมากับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ค่ารถ ค่ากิน แถมเวลาไปทีก็ไม่เคยจะได้น้ำมันมาอย่างเดียวซะด้วยสิ หมดกว่าที่ควรเป็น ...คนไทยค่าครองชีพต่อหัวยังถือว่าต่ำแต่กินอาหารแพง จริงคะ...ไก่แพง ไข่แพง บางทีมะนาวแพง ผู้ผลิตมักให้เหตุผลไปทางเดียวกันหมด ว่าเพราะราคาน้ำมันแพง ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาที่จุดเดิม ที่อยากรู้ว่า ทำไมไม่มีใครคิดจะทำให้น้ำมันบ้านเรามันถูกเหมือนประเทศอื่นๆเขาบ้าง หรือเพราะปตท.ได้ถูกเทขายในตลาดหลักทรัพย์ หวังผลแต่ผลกำไรของผู้ถือหุ้น จึงทำให้น้ำมันมีราคาแพง เห็นไหมคะ..ไม่ว่าเรื่องใด แม้แต่ปากท้องประชาชน ก็วนกลับมาที่การเมืองอีกจนได้.....

วิถีพอเพียง อยู่อย่างเพียงพอ ตามพระราชดำริของในหลวง จะช่วยเราให้อยู่ในยุคข้าวยากหมากแพงได้คะ...

อะไรๆที่ฟุ่มเฟือย คงต้องลดๆบ้าง สำหรับดิฉันนะคะ....

สักตอนหัวค่ำเข้าไปที่สาขาเครือข่ายร้านค้าใหญ่ใกล้บ้าน

น้ำมันปาล์มยี่ห้อไม่ดังอยู่ทีขวดลิตร 44 บาท ยี่ห้อดังจะอยู่ที่46-47

ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกตลาด หรือดีมาน-ซัพพลาย

ถ้าต้องการให้ราคาลด ก็ต้องให้ภาคการผลิตขยายตัว(จนเต็มล้นตลาด)

หรือคนไม่นิยม ความต้องการน้อย(44)

แต่นั่นก็ขึ้นกับความต้องการในตลาดโลกด้วย นะ

และสิ่งที่เราพูดไม่ได้ ก็คือมูลค่าส่วนเกิน ที่นอกเหนือจากกำไรหรือค่าการตลาด

เพราะประเทศเราขับเคลื่อนโดยระบบทุน100%

ที่พูดนี้ไม่ใช่จะปฎิเสธว่าเป็นไปไม่ได้ที่ราคาสินค้าจะลดลง

ลดลงได้ครับ แม้ขณะนั้นความต้องการจะสูง หรือผลผลิตน้อยก็เถอะ

เราถึงต้องมีการบริหารไง เรียกว่าไม่ปล่อยกันไปตามยถากรรม

ถึงต้องมีรัฐมนตรีบางคนโดนผมด่าอยู่จนบัดนี้ (ตอนนั้นขายเนื้อ-หมูทอดแดดเดียวจ้า)

แต่ยังไงมันก็ยังยืนอยู่บนหลักการอุปสงค์ อุปทาน หรือกลไกตลาด ดีมาน ซัพพลายอยู่ดี

ก็ลองเลือกพรรคผมสิครับ เนื้หมูโลละ30 ไข่ฟองละบาท และค่าแรงขั้นต่ำ500

และรับรองข้าวขั้นต่ำเกวียนละสองหมื่นห้าด้วย

ส่วนนำ้มันปาล์มฟรี แถมเนื้อแดดเดียวอีก2มัด

เพิ่มขึ้นครับ...ไม่มีลดแน่นอน ^^

พรุ่งนี้จะตื่นนอนกี่โมงครับ