ตามกฎหมายของอิสลาม กฎชาเรีย หากคนมุสลิมจะออกนอกศาสนานี่โทษถึงประหารเลยหรือคะ?

ก่อนอื่น กฏชาเรียของอิสลาม คืออะไร? (ผมไม่คุ้นเคยกับคำศัพย์บัญญัติในภาษาไทยที่ใช้ในศาสนาอิสลามจึงขออภัยที่จำเป็นต้องแปลทับศัพย์จากภาษาอังกฤษโดยตรงในข้อเขียนนี้ เพื่อทุ่นเวลาการค้นคว้านะครับ) จากข้อมูลที่ผมได้จาก (ลิ๊งค์ 1) ผมขอแปลและสรุปสั้นๆว่า

กฏชาเรียคือ กฏการปฏิบัติหรือกฏทางศาสนาที่ใช้เป็นแนวปฏิบัติในชีวิตของชาวมุสลิม ซึ่งกลั่นกรองมาจากแหล่งสองแหล่งที่เป็นเอก คือ คำสอนที่ปรากฏในพระคัมภีร์โกหร่านและตัวอย่างที่ศาสดาโมฮัมมัดได้วางไว้ในหนังสือซูนนา ถ้าสิ่งใดที่แหล่งเอกมิได้มีบัญญัติหรือสอนไว้ชัดเจน ผู้เชี่ยวชาญทางระบบนิติบัญญัติของอิสลาม (Fiqh jurisprudence) ก็จะใช้แหล่งโท คือ ความเห็นส่วนใหญ่ของนักวิชาการหรือผู้รู้ เช่นอิหม่ามทั้งหลายจากนิกายหนึ่งนิกายใดในสามนิกายหลักคือ นิกายซูนนี นิกายชีไอท์ และนิกายซะลาฟิ

นิกายซูนนีจะแก้ปัญหาและตีความหมายโดยการเน้นตัวอย่างที่คล้ายกันหรือแตกต่างกันตามที่มีปรากฏในหนังสือซูนนา และความเห็นของอิหม่ามส่วนใหญ่ ก็คือแนวปฏิบัติที่ควรใช้ในทางภาคปฏิบัติ แต่นิกายชีไอท์เข้าใจว่าศาสดาโมฮัมมัดได้แต่งตั้งอิหม่ามเป็นผู้ที่รับอำนาจสืบทอดเป็นผู้นำศาสนาอิสลามไว้สิบสองคน และแต่ละยุคจะมีอิหม่ามคนหนี่งในสิบสองคนนี้ปรากฏเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดและตีความหมายอย่างถูกต้องแต่ผู้เดียว นิกายซะลาฟิจะตีความหมายจากตัวอย่างพฤติกรรมและคำสอนของมุสลิมเฉพาะในสามชั่วอายุแรกของศาสนาอิสลามเท่านั้น แหล่งความคิดเห็นและหลักการณ์ที่เป็นโทเหล่านี้ก็ผนวกเข้ากับแหล่งเอก เมื่อรวมความรู้และคำสอนต่างๆจากแหล่งเอกและแหล่งโทแล้ว นั่นก็คือ "กฏชาเรีย" ของชาวมุสลิมในแต่ละขุมชนที่ต้องปฏิบัติ

ในศตวรรษที่ 14 มีนักวิชาการเขียน กฏชาเรีย ขึ้นมาและจัดให้เป็นหมวดหมู่ 11 หมวดเป็นภาคปฏิบัติคือ 1. การชำระตัวให้บริสุทธิ (Purification) 2. การอธิษฐาน (Prayer) 3. คำอธิษฐานในงานศพ (The Funeral Prayer) 4. ภาษีคนจน (The Poor Tax) 5. การอดอาหาร (Fasting) 6. การเดินทางไปเยือนเม็กกะ (The Pilgrimage) 7. การพาณิชย์ (Trade) 8. มรดก (Inheritance) 9. การแต่งงาน (Marriage) 10. การหย่าร้าง (Divorce) 11. ความยุติธรรม (Justice)

ชาวมุสลิมทุกคนเชื่อว่า กฏชาเรีย มาจากพระเจ้า แต่กฏเหล่านี้มีรายละเอียดชัดๆอะไรบ้าง? ในแต่ละชุมชนและแต่ละนิกาย และชุมชนมุสลิมในแต่ละประเทศก็ตีความหมาย กฏชาเรีย ไม่เหมือนกันและปฏิบัติไม่เหมือนกัน มีหลายสิ่งที่คล้ายกันแต่ก็มีหลายสิ่งที่ไม่คล้ายกันด้วย เช่น บางประเทศผู้หญิงต้องปิดหน้าเกือบหมด แต่ในบางประเทศไม่ต้อง บางประเทศถ้าไปขโมยของแล้วถูกจับได้ จะถูกตัดนื้วมือให้ด้วน ไม่ใช่ทุกชุมชนจะทำเช่นนั้น บางกลุ่มถือว่าสหรัฐคือซาตานใหญ่ที่ต้องทำลาย และยิศราเอลคือซาตานตัวน้อยที่เป็นก้างขวางคอการขยายตัวของอิสลาม ต้องถล่มทิ้ง แต่มิใช่ทุกชุมชนมุสลิมจะบ้าคลั่งอย่างนั้น บางกลุ่มถือว่าทุกคนที่ไม่เชื่อถือศาสนาอิสลามต้องฆ่าทิ้งให้หมด แต่ไม่ใช่ทุกชุมชนมุสลิมจะเชื่อหรือโหดขนาดนั้น

ปัญหาของชาวมุสลิมและของประชากรโลกที่ไม่ใช่มุสลิมในอนาคตคือ จะใช้กฏหมายหรือกฏหมู่? กฏหมู่อย่าง กฏชาเรีย ชาวมุสลิมจะใช้ภายในครอบครัวหรือในชุมชนของเขาคงไม่มีใครห้าม แต่ถ้าในเวลาใด กฏของชุมชนขัดแย้งกับกฏหมายของประเทศที่ไม่ได้ปกครองด้วยชนชาวมุสลิม กฏใดเป็นใหญ่?

ในประเทศอืนโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศนำโดยชุมชนชาวมุสลิม อิหม่ามทั้งหลายประท้วงติงว่าการประกวดนางงามว่าทำไมไม่มีผ้าคลุมหรือผ้าปิดหน้ากัน? (เวลาไปประกวดนางงามโลกคงจะโป๊ยิ่งกว่านี้ ไม่รู้หรือครับ?) และถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศซาอุดิอาราเบีย นางงามเหล่านี้คงหัวขาดไปหมดแล้ว (ดูลิ๊งค์ 2) ครับผม

อย่าว่าแต่ตัดมือเลยครับ ผู้หญิงของเขา ประพฤติผิดประเวนี โดนก้อนหินขว้างจนตาย พวกรักร่วมเพศก็แขวนคอ ห้อยต่องแต่ง หรือไม่ก็รุมประชาทัณย์ กระทืบกันจนตายกลางถนน

ถ้าตอบก็อย่าโกรธนะ คนเผาท่ามกลางทะเลราย ที่กำเนิดของ ศาสนา เขาปกครองตัวเขาเอง ปกป้องผู้หญิง แพะ แกะ ลา อูฐ กันเอง อิสลามที่ดี มีมากครับ อย่างที่ไครไปเจอในคำถาม ผ่านๆมา ที่มัลดีฟ พวกนั้น เขาเรียกเศษๆของอิสลาม ไม่มีศาสนา ด้วยซ้ำไป พอออกนอกร่มเงา ของอินทพลัมก็เป็น ไซตรอน นั่นแหละ อิสลามมีหลายนิกาย อัลกุลอฮ่าน(โกหร่าน)เล่มเดียวกันยังปฏิบัติไม่คล้ายกัน

นิกาย สุนนี (sunni) แปลว่า มรรค หรือจารีต เป็นนิกายนับถือคำภีร์เล่มหนึ่งในอรรถๆของคัมภร์ โกหร่าน ที่เรียกว่า สุนนา พวกนี้ถือว่าเคร่งครัต หลัง ท่านมะฮะหมัดสิ้นชีพ มีกาลิป สืบต่อมาได้ อีกสี่คน เหล่านี้ จะใส่หมวก กอร์เปี๋ย ขาว (จำไม่ได้แล้วเคยอ่านนึกก่อนนะ...) เจ้าเซน อีกนิกายครับ ในกรุงเทพฯ ก็อยู่แถว เจริญภาศย์ ธนบุรี ดูว่า จะ กรีดศรีษะ เลือดแดงเถือก ทุกปี ครับ บ้านเราเรียกเจ้าเซน กรีดศีรษะในวัน มูฮาร์รัม เอามือตบอก แช่งด่าศัตรู ถือว่าเป็นการกตัญญู นิกาย ดรูช นิกาย อิสไมลี นีกาย ฆวาริน นิกาย ฟาร์กี นิกาย ซูฟี หลายนิกายครับ แต่ล้วนแบ่งแยกมาจาก ลูก หลาน ลูกเขย พ่อตา ของท่าน มะหะหมัด ทั้งสิ้น แต่ละกาหรีป อะคับ บางนิกาย ลึกลับเข้าไปศึกษา หาความรู้ยาก นักการศาสนา บางท่านหรือกว่าจะเปิดคัมภีร์เขาอ่านได้ ต้องเข้ารีดนับถือศาสนาของเขา กรีดศีรษะ ทำสุหนัด(ขลิบ) ซ้ำแล้วซ้ำอีก จึงไม่ค่อยมีหนังสือ แปลออกมาให้เรียนรู้

ปัจจุบันนี้กฎหมายพัฒนาขึ้นมากแล้ว แม้แต่ในมัลดิฟส์ซึ่งถูกส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้วน่าจะเป็นมรดกโลกแล้ว ทำให้ทุกคนมีอิสระเสรีภาพที่จะเลือกนับถือศาสนา แต่การที่จะไปประกาศว่าจะไม่นับถือศาสนาอิสลามขอไม่มีศาสนาจะดีกว่า นั่นมันเข้าข่ายดูถูกเหยียดหยามศาสนาเขา ต้องมีการลงโทษแต่ก็จะไม่โหดร้ายทารุณเหมือนสมัยโบราณ ปัจจุบันองค์การสหประชาชาชาติจะดูแลไม่ให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนไปทั่วโลก ถ้าเตือนแล้วประเทศใดยังละเมิดอยู่ ก็จะชักชวนให้ประเทศอื่นๆแอนตี้ประเทศนั่นด้วยการไม่ค้าขายด้วย ตัดความช่วยเหลือทุกอย่าง