Yahoo Answers is shutting down on May 4th, 2021 (Eastern Time) and beginning April 20th, 2021 (Eastern Time) the Yahoo Answers website will be in read-only mode. There will be no changes to other Yahoo properties or services, or your Yahoo account. You can find more information about the Yahoo Answers shutdown and how to download your data on this help page.
Trending News
เงื่อนไขการได้รับสัมปทานจากรัฐในทุกกิจการ ในเงื่อนไขการส่งผลตอบแทนให้รัฐกำหนดเหมือนกันทุกกิจการหรือเปล่า?
ยกตัวอย่างเช่น ทางด่วนเมื่อได้รับสัมปทานก็จะมีเงื่อนไขว่าต้องส่งเงินเข้ารัฐในอัตราเท่านั้นเท่านี้ และจะขึ้นราคาได้ก็ต่อเมื่อผ่านไปเท่านั้นปีจนกว่าจะครบสัมปทาน ผมกำลังจะเปรียบเทียบการได้รับสัมปทานการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยว่า ถ้าเขากำหนดว่าต้องส่งให้รัฐเท่านั้นเท่านั้ตายตัว แล้วบริษัทที่ได้รับสัมปทานไม่รวยอื้อหรือครับตอนนี้ เพราะนับจากนี้ย้อนหลังไป 20 ปีราคาดีเซลลิตรละ 8-10 บาทเอง ตอนนี้ถ้าปล่อยลอยตัวคงเกิน 30 บาทไปแล้ว
ฟังดูเหมือนกลุ่มษริษัท ในหลายๆสัญชาตินี้ เพิ่งได้รหัสเซฟรหัสสุดท้ายไปเมื่อต้นเดือน ก.ค. นี้เลยนะครับ สงสัยจังหากไทยอยู่ใกล้อิรัก สงสัยโดนบุกไปแล้วมั้ง
1 Answer
- AkikoLv 710 years agoFavorite Answer
สัมพันธภาพ ฮุน เซน ,ทักษิณและ เชฟรอน
ชัยชนะอย่างถล่มทลายของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ไม่เพียงจะทำให้ ฮุน เซน (เพื่อนรักของ ทักษิณ ชินวัตร) ได้แสดงความดีใจอย่างออกหน้าออกตา ด้วยการเป็นผู้ นำรัฐบาลของต่างประเทศรายแรกที่ได้ส่งสาส์นแสดงความยินดีถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เท่านั้น หากแต่ชัยชนะดังกล่าวของพรรคเพื่อไทย ยังเป็นเสมือนโอสถทิพย์ที่ช่วยชุบชีวิตทางธุรกิจให้กับยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจพลังงานของโลกอย่างกลุ่มบริษัทเชฟรอน (Chevron) แห่งสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้โดยทันทีที่ได้รับทราบผลการเลือกตั้งทั่วไปในไทยอย่างเป็นทางการแล้วนั้น Steve Glick ประธานของกลุ่ม Chevron ถึงกับได้บินตรงจากสหรัฐฯ เพื่อไปปฏิบัติภารกิจในกัมพูชาเป็นกรณีพิเศษนับจากต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นมาแล้ว และมีกำหนดที่จะปฏิบัติภารกิจพิเศษดังกล่าวในกัมพูชาเป็นเวลาถึง 3 เดือนติดต่อกันอีกด้วย
แต่ที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ Steve Glick ยังได้ให้การยืนยันต่อสื่อมวลชนเขมรและต่างชาติในกรุงพนมเปญด้วยว่ากลุ่ม Chevron จะเดินหน้าการขุดค้นน้ำมันและแก๊สธรรมชาติในทะเลอ่าวไทยต่อไป โดยในเวลานี้ยังคงรอเพียงการอนุมัติสัมปทานจากการปิโตรเลี่ยมแห่งกัมพูชาเท่านั้น ซึ่งก็หมายความว่าทันทีที่การปิโตรเลี่ยมแห่งกัมพูชาได้อนุมัติสัมปทานอย่างเป็นทางการแล้วนั้น กลุ่ม Chevron ก็จะประกาศแผนการลงทุนเพื่อสูบน้ำมันและแก๊สฯในทะเลอ่าวไทยขึ้นมาใช้ประโยชน์ในทันทีนั่นเอง
โดยการแถลงยืนยันดังกล่าวนี้ ถึงแม้ว่า Steve Glick จะมิได้เปิดเผยถึงรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการลงทุนและผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนที่จะมีขึ้นดังกล่าวก็ตาม แต่การที่เขาได้เน้นย้ำว่ากลุ่ม Chevron ที่ได้เริ่มทำการสำรวจหาแหล่งน้ำมันและแก๊สฯในเขตทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชาในอ่าวไทยนับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา และได้ใช้เงินทุนไปแล้วมากกว่า 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อดำเนินการขุดเจาะหาแหล่งน้ำมันและแก๊สฯถึง 18 หลุมแล้วนั้น ทั้งยังได้ยื่นข้อเสนอเพื่อขออนุญาตสัมปทานจากการปิโตรเลี่ยมแห่งกัมพูชาอย่างเป็นทางการนับตั้��แต่เดือนสิงหาคม 2010 เป็น ต้นมาด้วยแล้ว ย่อมถือเป็นหลักประกันได้ว่ากลุ่ม Chevron นั้นจะไม่ยอมละทิ้งผลประโยชน์อันพึงจะได้รับจากน้ำมันและแก๊สฯในส่วนนี้ไปอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้ ฮุน เซน ได้หลุดปากออกมาในระหว่างเป็นประธานในพิธีมอบปริญญาบัตรให้กับผู้จบการศึกษาจากสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญว่าเขานั้นได้กำหนดกรอบเวลาให้กลุ่ม Chevron ดำเนินการขุดค้น และนำเอาน้ำมันหรือแก๊สฯ ในเขตน่านน้ำของกัมพูชาในอ่าวไทยขึ้นมาใช้ประโยชน์ให้ได้ภายในปี 2012 หากไม่เช่นนั้นก็จะถูกถอนสัมปทานในทันที
พร้อมกันนั้น ฮุน เซน ก็ยังได้สั่งการให้การปิโตรเลียมแห่งชาติ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลกัมพูชาให้เร่งดำเนินการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาร่วมทุนกับกลุ่ม Chevron ในการขุดค้นน้ำมันและแก๊สฯ ดังกล่าวเป็น การเฉพาะ ทั้งยังได้สั่งการให้การปิโตรเลียมแห่งชาติเร่งเซ็นสัญญากับกลุ่ม TOYO Engineering จากญี่ปุ่น เพื่อดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ของการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งแรกในกัมพูชา ด้วยหวังว่าจะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้กลุ่ม TOYO ตัดสินใจลงทุนก่อสร้างโรงกลั่นฯดังกล่าวในระยะต่อไป ทั้งนี้โดย ฮุน เซน ได้ให้คำมั่นว่ารัฐบาลของเขาจะเร่งจัดทำร่างกฎหมายว่าด้วยน้ำมันและแก๊สธรรมชาติเพื่อให้สภาแห่งชาติให้การรับรองและประกาศบังคับใช้ในเร็วๆนี้อีกด้วย
ครั้นเมื่อมองเห็นเป้าหมายของ ฮุน เซน อย่างชัดเจนเช่นนี้กลุ่ม Chevron ก็ได้ร่วมกับกลุ่ม Mitsui จากญี่ปุ่น และกลุ่ม GS Caltex จากเกาหลีใต้ เพื่อดำเนินการสำรวจหาแหล่งน้ำมันและแก๊สฯ ในเขตน่านน้ำของกัมพูชาอย่างขนานใหญ่ และถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยเกี่ยวกับผลที่ได้รับจากการสำรวจในระยะที่ผ่านมาก็ตาม แต่การที่กลุ่ม Chevron ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อขออนุญาตสัมปทานการขุดค้นจาก การปิโตรเลี่ยมแห่งกัมพูชาอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2010 เป็นต้นมาแล้วนั้นก็ย่อมจะถือเป็นคำตอบ ทั้งก็ยังถือเป็นการตอบสนองต่อเป้าหมายดังกล่าวของ ฮุน เซน ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ทั้งนี้โดยกลุ่ม Chevron พร้อมด้วยกลุ่ม Mitsui และกลุ่ม GS Caltex ได้ร่วมทุนกันในสัดส่วน 55% ต่อ 30% และ 15% ตามลำดับ และได้ทำการขุดเจาะเพื่อสำรวจหาน้ำมันและแก๊สฯในเขตสัมปทาน A ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งทะเลของเขตจังหวัดสีหนุวิลล์ทางภาคใต้ของกัมพูชาประมาณ 150 กิโลเมตรนั้น พบว่า 4 ใน 15 หลุมที่ได้ดำเนินการสำรวจนั้นเป็นแหล่งที่คุ้มค่าที่จะลงทุนอย่างยิ่ง
ซึ่งด้วยผลจากการสำรวจฯดังกล่าว ก็ปรากฏว่ามีบริษัทต่างชาติอีกกว่า 10 รายที่ได้หลั่งไหลเข้าไปขออนุญาตสำรวจหาน้ำมันและแก๊สฯ ในทะเลอ่าวไทยในส่วนที่รัฐบาลกัมพูชาถือว่าเป็นเขตน่านน้ำของฝ่ายตนนั้นแล้ว โดยในที่นี้ยังรวมถึงบริษัทในเครือของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย การปิโตรเลี่ยมแห่งสิงคโปร์ และยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของจีนอย่าง China National Offshore Oil Corp ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น การที่ทั้งธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังได้แสดงการเชื่อมั่นว่าน้ำมันและแก๊สฯในกัมพูชา และในเขตทับซ้อนทางทะเลกับไทยด้วยนั้นมีปริมาณน้ำมันสำรองมากถึง 2,000 ล้านบาร์เรลและมีปริมาณแก๊สฯสำรองอีกมากกว่า 10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต หรือคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 5 ล้านล้านบาท ซึ่งทำให้ IMF ได้ประมาณการว่าหากได้มีการขุดค้นน้ำมันและแก๊สฯขึ้นมาใช้ประโยชน์ก็จะทำให้รัฐบาลของ ฮุน เซน มีรายได้มากกว่า 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีแรกของการขุดค้นและจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อได้ดำเนินการก่อสร้า���โรงกลั่นน้ำมันแล้วเสร็จนั้น ก็ยิ่งทำให้ ฮุน เซน ต้องเร่งผลักดันแผนการนี้ให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง
Source(s): อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการตัดสินใจลงทุนของกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานทั้งหลายในระยะเวลากว่า 3 ปีมานี้ ก็คือความขัดแย้งระหว่างทางการไทยกับทางการกัมพูชาที่ว่าด้วยพื้นที่พิพาทในเขตปราสาทพระวิหาร และการที่ทางการของทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการแบ่งปันผลประโยชน์จากแหล่งน้ำมันและแก๊สฯในเขตทับซ้อนทางทะเลระหว่างกัน ซึ่งกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างกว่า 27,000 ตารางกิโลเมตรในเขตอ่าวไทยนั้น ชมข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมดได้ ตาม "ลิ้งค์ " ที่แนบมาน่ะค่ะ http://www.indochinapublishing.com/content/print.p...