คุณคิดยังไงกับการย้ายที่ทำงานใหม่แต่ยังอยู่ในสายเดิม?

มันต้องพิจารณารายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายครับ ทั้งลักษณะที่ทำงาน ทั้งเพื่อนร่วมงาน-หัวหน้างาน ทั้งระยะทางจากที่พัก ทั้งความก้าวหน้า ทั้งเหตุผลความจำเป็น ฯลฯ ฯลฯ

แต่โดยทั่วไปผมเป็นคนไม่ค่อยมีหัวก้าวหน้า ไม่มีความกล้า ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ชอบอยู่ในที่เคยชินแล้ว ย้ายแต่ละทีวุ่นวายกว่าจะเข้าที่เข้าทางก็ 3-4 เดือน ผมจึงไม่อยากย้ายที่ทำงานใหม่โดยไม่จำเป็นครับ

ถ้าเป็นสายงานที่ดิฉันพอใจ ทำได้ดี ยังมีโอกาสได้พัฒนาตัวเองอีก ดิฉันก็พอใจ

แต่ถ้าย้ายแล้วยังอยู่ในสายเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก เงินเดือนเท่าเดิม

ก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นแค่ระบบงาน

และถ้าย้าย คือ การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ที่ไม่มีผลดีเพราะเหนื่อยมากแต่ได้

เงินเท่าเดิม ก็ต้องมองระยะยาวว่า นี่เป็นการเติบโตไปทางใด แล้วคิดอีกทีว่าจะมี

อะไรที่ต้องทำค่ะ

ไม่ว่าอย่างไรต้องมองระยะสั้น คือ มีงาน และระยะยาวคือ ทำไปทำไม

ก็ไม่แปลกอะไรนี่ครับ ผมสมมุติว่าคุณจบนิติศาสตร์มา แล้วคุณเองทำงานด้านนิติศาสตร์

มาจนช่ำชอง วันนึงคุณย้ายไปทำงาน ความสามารถในงานของคุณที่จะวอรันทีคุณได้ก็คือ

ศาสตร์ทางด้านนิติศาสตร์มิใช่หรือ

การย้ายงานก็เหมือนกับการท่องไปในโลกกว้าง แรกๆก็เปลี่ยนคน เปลี่ยนระบบงาน ซึ่ง

การขัดๆเขินๆมันก็มีบ้างถ้าหากไม่ใช่เป็นนักย้ายงานแบบมืออาชีพ ที่ย้ายมันไปทุกสามเดือน

ไงก็เมื่อเราเองย้ายงานเราจะได้พบกับความท้าทายในแต่ละรูปแบบที่มีความแตกต่างกัน

ที่มันจะมำให้เราได้อรรถรสในการเรà¸��ยนรู้รูปแบบงานที่ต่างกรรมต่างวาระกัน

จอมยุทธ์ที่เก่งกาจไงต้องท่องยุทธจักร ท่องยุทธภพกันทั้งนั้น มันก็เปรียบกับการได้ท่อง

ไปมนอีกสถานที่ในอีกมิตินึง ดีกว่าจะมาอยู่ในกะลาแล้วบอกว่าตนเก่งกาจ มันก็หมดสมัย

ไปแล้วหละครับ

คิดในทางบวกที่ใหม่นั้นอาจยังไม่มีบุคลากรมือฉะมั๋งเช่นคุณไงเลยได้ไปนะจงภูมิใจไว้และอย่าคิดไปในทางลบเดี๋ยวหงุดหงิดเปล่าๆเต็มที่ไปเลย

ดูที่เหตุผลของการถูกโยกย้ายค่ะ ..ประกอบกับความรู้สึกของเราต่อการโยกย้าย

เราพอใจไหม !!??..

โดยทั่วไป....

ย้ายที่ทำงานใหม่ย่อมต้องปรับตัวใหม่ให้เข้ากับระบบ เพื่อนร่วมงาน และบอส

ย้ายที่ทำงานใหม่ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นแก่เพื่อนร่วมงานใหม่ เริ่มนับหนึ่งใหม่

ต่อเมื่อจำต้องย้าย...ไม่ควรเครียด ถือว่าได้เปลี่ยนบรรยากาศ ไม่จำเจ

บางทีอาจเป็นพรหมลิขิต ขีดเขี่ย ให้เดิน...ได้พบเจอสิ่งดีรับปีใหม่

...สุขสวัสดิ์รับปีใหม่ค่ะ..^^

ควรคิดถึงตนเองก่อน ถ้าตนเองมีความสามารถพอ และเชื่อมั่นกับตนเอง ก็ควรจะไปหาที่ใหม่ เพื่องเจริญก้าวหน้าของตนเอง

แต่ถ้ายังไม่มั่นใจพอ ก็อยู่ต่อที่เดิม และทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อพิสูจน์ตนเองให้บริษัทฯเห็น

เห็นใจครับ การทำงานในสังคมนี้ก็เป็นอย่างนี้ละผมเจอมานักต่อนักผ่านมาร้อนหนาวมาแล้ว แต่ไม่สนครับ จากประสบการณ์ ผมลาออกเพราะถ้าเรามีความรู้ความสามารถและประสบการณ์กลัวอะไร ไปสู้เอาข้างหน้าชีวิตอิสระเป็นตัวของตัวเอง มุ่งมั่นตั้งใจไปรอด มีสิทธิ์ประสบความสำเร็จวันหนึ่งเราเดินกลับมาเยี่ยมที่ทำงานเก่าคุณอาจจะเห็นเขาย่ำอยู๋กับที่ และเขานะจะอายเรา ที่เห็นเราก้าวหน้ากว่า ส��¸¹à¹‰à¹†à¹† มีความรู้อยู่กับตัวกลัวอะไร ชีวิตไม่ปลดปลงคงได้ดี สุภาษิตนี้ยังใช้ได้ ทุกวันนี้ผมทำงานส่วนตัวครับ ทำงานน้อยได้เงินเยอะ มีเวลาเหลือไปทำอะไรที่เราชอบได้อีกเยอะ อย่าไปสร้างอะไรให้คนอื่นได้ดีเลยโดยที่เราไม่ได้อะไร ไร้คุณค่า ผมชียร์ให้เดินออกมาดีที่สุด เพราะคับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก ครับ ให้กำลังใจคุณ

ผมเปลี่ยนงานมาหลายครั้ง ทำงานมา ๗ บริษัทแล้ว จึงมองว่า การลาออกจากงานเดิม

ไปทำงานที่ใหม่ ในสายงานเดิมที่เรารัก ถือเป็นเรื่องปกติ และ เป็นสิทธิ์ของเรา ถ้าเรา

เปลี่ยนบริษัท แล้วคนในบริษัทเดิมเลิกคบกับเรา นั่นก็แสดงว่า เขาคบเราที่ผลประโยชน์

เท่านั้น มิตรภาพที่แท้จริง ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ก็ยังคงเป็นมิตรภาพอยู่เสมอครับ ผมเองก็ยัง

ติดต่อกับเพื่อนในบริษัทเก่าๆ อยู่จนถึงทุกวันนี้ ยังคงสนิทก��¸±à¸™à¹€à¸«à¸¡à¸·à¸­à¸™à¹€à¸”ิมครับ

มันอยู่ที่ความสามารถของคุณ ว่าคุณทำงานสายเดิมดีหรือทำสายอื่นดีกว่า

ถึงเวลาต้องไปสักที....ดีมากค่ะ นั่นแหละประสบการณ์เพียบพร้อมเลยละคะ แต่ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนใหม่

+ต้องมั่นใจว่า ไปดีกว่าอยู่ และ ดีกว่าเดิมแน่นอน แล้วค่อยตัดสินใจไปค่ะ คิดให้รอบคอบก่อนทำนะคะ