Yahoo Answers is shutting down on May 4th, 2021 (Eastern Time) and beginning April 20th, 2021 (Eastern Time) the Yahoo Answers website will be in read-only mode. There will be no changes to other Yahoo properties or services, or your Yahoo account. You can find more information about the Yahoo Answers shutdown and how to download your data on this help page.

สมมุติคืออะไรแล้วอะไรบนโลกไม่ใช่สิ่งสมมุติบ้าง?

แล้วตรงข้ามกับสมมุติล่ะคืออะไร

6 Answers

Rating
  • 9 years ago
    Favorite Answer

    ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ เป็นสิ่งสมมุติทั้งสิ้น ทั้งรูปธรรม นามธรรม

    นั่นหมายถึงความรู้สึกนึกคิดต่างๆ ก็เป็นสิ่งสมมุติเช่นกัน

    หลวงปู่ หรือบุคคลที่ปฏิบัติจิตภาวนาจนบรรลุถึงขั้นอรหันต์แล้ว

    จึงจะพ้นจากสิ่งสมมุติ และจะพ้นโดยสิ้นเชิงเมื่อละสังขารจาก

    โลกนี้ไปแล้ว แต่ถ้ายังไม่ละสังขาร ความรู้สึกนึกคิดก็ยังเป็นสิ่ง

    สมมุติอยู่นั่นเอง เพียงแต่ท่านเหล่านั้น รู้ทันความรู้สึกนึกคิดนั้นๆ

    และไม่นำมาเป็นอารมณ์เท่านั้น เพราะท่านยังอยู่ในโลกสมมุติ

    ก็จำเป็นต้องใช้สิ่งสมมุติ เพื่อติดต่อสื่อสารกันในโลกสมมุติใบนี้

    Source(s): ศึกษาต่อได้ที่นี่ครับ http://www.watpabankor.com/webboard/
  • 9 years ago

    ผมจำเป็นต้องยืมวิธีคิด "แบบเต๋า" เป็นที่พึ่งอีกแล้ว

    (ไม่ใช่ชื่อนักร้องค่ายไหนนะครับ)

    "เต๋า" บอกว่าสิ่งทั้งหลายไม่มีชื่อเรียก

    ที่เราเห็น รูปนั้นรูปนี้ เช่น เห็น เท้าซ้าย เท้าขวา

    ลักษณะตรงปลายเท้ามี 5 นิ้ว มีไว้สำหรับเดินนั้น

    แท้จริงแล้วคำว่า "เท้า" เป็นการเรียกชื่อสมมุติให้ง่ายในการสื่อสารเท่านั้น

    ต่อให้ไม่มีชื่อเรียก มันยังคงเป็นอวัยะสำหรับใช้เดินอยู่ดี

    แต่ ดังที่กล่าวแล้วว่า เต๋า คือความว่างไม่มีชื่อเรียก

    ดังนั้น สิ่งที่เรียกชื่อได้ "ไม่นับว่าเป็นเต๋า"

    ป้าด.โธ่ พูดอย่างนี้ มาแถวบ้านผมแบบนี้เขาเรียกว่า "เปรี้ยวตีน" ชัดๆ

    (ขออภัยไม่สุภาพ)

    ครับ..วิธีคิดแบบเต๋า เอามาไว้ถ่วงดุล เมื่อยามที่ผม

    "หลง" ไปกับวัตถุมากๆ ถึงแม้จะเจริญสติได้ในขั้นเล็กน้อย

    ก็ยินดีพอใจกับความสำเร็จเล็กๆ นี้ ครับ..

    หวังว่าท่านผู้ถามไม่ "เปรียว" สิ่งใดกับผมนะ

    ผมแค่สิ่งสมมุติ เท่านั้น

    ..อามิตพุทธ..

  • 9 years ago

    ผมว่ามันเป็นการจำลองหรือสร้างสิ่งต่างๆในความคิดนะ

    มันจะไม่สมมุติก็เมิ่อ เราไม่ได้มีกระบวนการของความคิดเกี่ยวข้องกับมัน

    คือเลิกคิด

    หรือเลิกจำลองมันในมิติที่เราสร้างมันขึ้นมา

    แต่ เมื่อใดที่มันก้าวเข้าสู่โลกจริง ("สมมุติ"มีกระบวนการออกดอกผลเป็นความจริงได้)

    หรือ ผลของการสมมุิติได้ ก้าวข้ามพรมแดนเข้าสู่โลกจริง สถานะภาพของการ"สมมุติ" ก็จะถูกเปลี่ยนไป

    ดังนั้น การสมมุติบางอย่างก็มีผลคู่ขนาน คือมีทั้งตัวตนในโลกเสมือนและผลของมันที่ก้าวข้ามมาในโลกจริง( ในแต่ละสถานะของมันในแต่ละช่วงเวลา)

    และในสถานะนี้สมมุติอาจมีสองสถานะคือทั้งจริงและไม่จริงในเวลาเดียวกันก็ได้

    เอาเบาะๆแค่นี้ก่อนเนาะ ไม่อยากอ้างฟิสิกส์ควันตั้ม หรือแมวของชโรดิงเจอร์อีกรอบ

    ทำลิงค์หาย หาไม่เจอ(ไม่ได้เอกฟิสิกส์เดี๋ยวอาจารย์ด่าเอา)

    นอกจากนั้นชาวบ้านจะมึนส์ไปกว่านี้

    เราอย่าไปสมมุติว่าทุกอย่างต้องอยู่นิ่งครับถึงจะพอมองภาพนี้ออก (ถ้าหากว่าการสมมุติคือสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับความจริง)

  • Forza
    Lv 5
    9 years ago

    เราว่าจริงหมด จริงแท้กับจริงไม่แท้เท่านั้น อะไรที่ประสาทสัมผัสรับรู้ได้มันจริงหมด

  • How do you think about the answers? You can sign in to vote the answer.
  • 9 years ago

    สวัสดีค่ะ

    ขอคัดลอกความในพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) มาตอบนะคะ การจะเข้าใจสมมติ ต้องเข้าใจเรื่องของสัจจะก่อน มีคำอธิบายไว้ดังนี้ค่ะ

    ...............................

    สัจจะ

    1. ความจริง มี ๒ คือ

    ๑. สมมติสัจจะ จริงโดยสมมติ เช่น คน พ่อค้า ปลา แมว โต๊ะ เก้าอี้

    ๒. ปรมัตถสัจจะ จริงโดยปรมัตถ์ เช่น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

    2. ความจริง คือ

    จริงใจ ได้แก่ ซื่อสัตย์

    จริงวาจา ได้แก่ พูดจริง และ

    จริงการ ได้แก่ ทำจริง

    (ข้อ ๑ ในฆราวาสธรรม ๔, ข้อ ๒ ในอธิษฐานธรรม ๔, ข้อ ๔ ในเบญจธรรม, ข้อ ๗ ในบารมี ๑๐)

    สมมติ .............การร่วมกัน, การตกลงกัน, การมีมติร่วมกัน หรือยอมรับร่วมกัน ; การที่สงฆ์ประชุมกันตกลงมอบหมาย หรือแต่งตั้งภิกษุให้ทำกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่ในเรื่องอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น สมมติภิกษุเป็นผู้ให้โอวาทภิกษุณี สมมติภิกษุเป็นภัตตุเทศก์ เป็นต้น ; ในภาษาไทย ใช้ในความหมายว่า ตกลงกันว่า ต่างว่า

    สมมติสัจจะ ......จริงโดยสมมติ คือ โดยความตกลงหมายรู้ร่วมกันของมนุษย์ เช่น นาย ก. นาย ข. ช้าง ม้า มด โต๊ะ หนังสือ พ่อ แม่ ลูก เพื่อน เป็นต้น ซึ่งเมื่อกล่าวตามสภาวะ หรือโดยปรมัตถ์แล้ว ก็เป็นเพียงสังขาร หรือนามรูป หรือขันธ์ ๕ เท่านั้น;

    ปรมัตถสัจจะ .....จริงโดยปรมัตถ์ คือ ความจริงโดยความหมายสูงสุด เช่น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ตรงข้ามกับ สมมติสัจจะ จริงโดยสมมติ เช่น สัตว์ บุคคล ฉัน เธอ ม้า รถ นาย ก. นาย ข. เป็นต้น

    อนุโมทนาด้วยนะคะ

  • 9 years ago

    ขอแยกตอบเป็น 3 ประเด็น คือ

    1. สมมุติคืออะไร?

    ตอบ คือ สิ่งที่อาศัยสิ่งอื่นเกิดขึ้น อาศัยสิ่งอื่นดำรงอยู่ และก็อาศัยสิ่งอื่นดับไป เช่น

    1.1 สรรพสิ่งทั้งปวงที่ถูกสร้างขึ้นมาและอยู่ชั่วคราว สิ่งนั้นเป็นสิ่งสมมุติทั้งสิ้น

    1.2 อะไรก็ได้ที่มนุษย์สร้างมันขึ้นมาเพื่อใช้เรียก "สิ่งหนึ่ง" ที่มีอยู่แล้ว ชื่อนั้นจึงเป็นสิ่งสมมุติ

    2. แล้วอะไรบนโลกไม่ใช่สิ่งสมมุติบ้าง?

    ตอบ สิ่งที่ไม่ได้อาศัยสิ่งอื่นเกิดขึ้น ดำรงอยู่ได้เอง และก็เป็นอมตะตลอดไป เช่น

    2.1 อะไรที่ดำรงอยู่ได้เอง ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาและอยู่ถาวร สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งสมมุติ

    2.2 อะไรที่ "เป็นหนึ่ง สูงสุด และสมบูรณ์แบบ" สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งสมมุติ

    3. แล้วตรงข้ามกับสมมุติล่ะคืออะไร

    เปรียบเทียบความแตกต่าง

    3.1 สิ่งสมมุติ คือ สิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็แตกดับไป

    สิ่งที่ตรงข้าม คือ สิ่งที่ไม่เกิด ดำรงอยู่ได้เอง และเป็นอมตะ ไม่แตกดับ

    3.2 สิ่งสมมุติ คือ สิ่งที่ตรงข้ามกันซึ่งประกอบกันเป็นหนึ่ง

    สิ่งที่ตรงข้าม คือ สิ่งที่เป็นหนึ่ง สูงสุด และสมบูรณ์แบบ

    3.3 สิ่งสมมุติ คือ สิ่งที่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับสิ่งอื่น ๆ ได้

    สิ่งที่ตรงข้าม คือ สิ่งที่ไม่สามารถเปรียบเทียบสิ่งอื่น ๆ ได้ นอกจากเปรียบเทียบกับตัวเอง

Still have questions? Get your answers by asking now.