ถ้าลูกสมาธิสั้นคูณ จะทำอย่างไรดี?

พาลูกไปพบแพทย์ หากแพทย์ยืนยันว่าเด็กสมาธิสั้น จะมีวิธีการดูแลอาจต้องรับยา

และการบำบัดเพื่อช่วยให้เด็กนิ่งลง พาไปเรียนดนตรี เรียนวาดภาพ ใจดีกับเด็กแต่

ต้องเน้นวินัยด้วย พาเด็กสวดมนต์ให้เป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย เติบโตในธรรมเด็กจะ

มีหลักในการคิดค่ะ

ค้นหาในสิ่งที่เขารัก และ ชอบ แล้วเค้าจะอยู่นิ่ง ๆ ได้ น๊าน นาน อย่างประหลาดใจ ลองดู

และถ้าค้นหาไม่เจอ เค้าก็จะเป็นของเค้าอย่างที่เห็นแหละ อยู่นิ่งไม่ได้นาน

ความจริงคนที่เป็นโรคนี้ เขาเป็นคนที่น่าสงสารนะ เคยคุยกับคนสมาธิสั้นอายุประมาณจะ

50 ปีแล้ว เขาเคยตั้งคำถามให้กับตัวเองว่าทำไม? คนอื่นๆ ถึงนั่งอยู่นิ่งๆ ได้ แต่ทำไม?

ตัวของเขาถึงอยู่นิ่งไม่ได้เลย แค่คำถาม..ฟังดูก็น่าสงสารแล้วนะ เขาไม่อยากเป็นโรคนี้

แต่เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

ในทางธรรม มักจะกล่าวถึงการโดนรบกวน จากเจ้ากรรมนายเวรจำนวนมากมาก ที่หวังจะทวงคืน

บางอย่างกับคนสมาธิสั้นคนนั้น แต่เนื่องจากไม่สามารถทำอะไรกับคนๆ นี้ได้ จึงใช่วิธีส่งคลื่น

กระแสจิตเป็นพลังรบกวน ทำให้ผู้นั้นอยู่อย่างไม่เป็นสุข มีความกระวนกระวายใจตลอดเวลา

การทำบุญ..ให้กับเจ้ากรรมนายเวรเหล่านั้น อาจช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่พอหยุดให้บุญเมื่อไหร่

ก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม

จากตัวอย่างที่พี่สาวของเพื่อน เคยฆ่าไก่ในเทศกาลตรุษครั้งละหลายตัว น้องสาวห้ามไม่ให้ทำ

มันเป็นบาป พี่สาวเขาก็ไม่เชื่อ แถมยังโดนด่าอีก จนกระทั่งสุดท้าย..ร่างการชราลงตัวเขาเอง

ต้องมานอนป่วยอยู่นิ่งๆ บนเตียง ทุกๆ วัน เขาจะมีอาการโวยวาย เหมือนกำลังทะเลาะกับใครอยู่

รอบตัว ทุกคนที่เห็นต่างสรุปเป็นว่าเขาเสียสติ

พอดีน้องสาวเขาได้รับคำแนะนำจากผู้รู้ จึงลองอุทิศบุญกุศลเป็นอาหารน้ำดื่มขนมผลไม้

พร้อมผ้าไตรให้กับเจ้ากรรมนายเวรของพี่สาวในรุ่งเช้า สายวันนั้นจึงโทรไปถามอาการของพี่สาว

ทุกคนต่างแปลกใจ เขานิ่งได้อย่างสงบเหมือนไม่เป็นอะไรเลย ดูสภาพแล้วแค่คนป่วยนอนพักผ่อน

ธรรมดาเท่านั้น

หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำบุญให้เขาอีก พี่สาวก็กลับไปมีอาการเหมือนเดิมคือ กระวนกระวายใจ

อยู่อย่างไม่เป็นสุข หลับตาไม่ได้ สะดุ้งตลอดทั้งคืน จนคนเฝ้าไข้เหนื่อยหน่ายไปตามๆ กัน

บางสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา อาจอยู่ใกล้ตัวเรา จนสัมผัสได้จากความร้อนระอุ รู้สึกได้ถึงความ

ไม่ปรอดโปร่ง เพราะสมองของคนที่มีสมาธิสั้น จะมีความคิดพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา

นี่แหละ..ถึงเขียนไว้ตั้งแต่ต้นว่า คนสมาธิสั้นเป็นโรคที่น่าสงสาร เพราะเชื่อว่าเจ้าตัวเขาเอง

ก็คงไม่อยากเป็นหรอก เพียงแต่เขาไม่รู้ และ เราผู้ที่เป็นพ่อแม่ก็ไม่รู้ จึงกลายเป็นความทุกข์

แบบถาวรตลอดชั่วชีวิต เพราะถ้ากรรมส่งผลชาตินี้ไม่เสร็จ ไปเกิดใหม่อาการยังติดตามผลอยู่

ไม่จบอย่างง่ายๆ หรอก.. ต้องใช้บุญแลกอย่างเดียว

เคยเห็นรับทราบข้อมูลว่า เล่นดนตรี ร้องเพลง ปลูกต้นไม้ หรือระบายสี ช่วยได้บ้างครับ

ลูกหลานมีอาการเข้าข่ายเด็กสมาธิสั้น ให้รีบพาไปพบแพทย์เพื่อทำการวิจัยอย่างละเอียด และสามารถรักษาได้ โดยการปรับสภาพแวดล้อมการเลี้ยงดู พยายามให้เด็กอยู่ในบรรยากาศที่สงบและมีระเบียบวินัย โรงเรียนก็มีส่วนสำคัญในการช่วยแก้ปัญหา ครูต้องแสดงการยอมรับในความบกพร่องของเด็ก เอาใจใส่ดูแลเด็กมากขึ้น แยกจากกลุ่มเด็กซน รวมถึงให้เด็กได้มีการเคลื่อนไหวร่างกายในโรงเรียนบ้าง เช่น ช่วยครูลบกระดาน ทำความสะอาดห้องเรียน และดูแลเรื่องการเรียนเป็นพิเศษ จึงจะทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้นได้อีกทางหนึ่ง"

http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/8_%E0%B8...

ไงก็คงต้องดูแลเขาเป็นอย่างดี เพราะอย่างไรเสียก็เป็นลูกของเรา

ก็จะพยายามให้เขาช่วยเหลือเองให้ดีที่สุด เผื่อว่าเวลาไม่มีเราแล้ว

เขาพึ่งตัวเองได้ไม่ต้องเป็นภาระของสังคม

ที่สำคัญคุณแน่ใจได้อย่างไร ว่าลูกมีสมาธิสั้น? เอาจริงๆเลยนะคนสมัยนี้ ชอบอ่าน ชอบฟังคนอื่นพูด มากกว่าที่จะมานั่งศึกษาเรียนรู้และเข้าใจพฤติกรรมความต้องการของเด็กในวัยนั้นๆ และมักจะอ้างกันไปว่าเด็กมีสมาธิสั้น แม้แต่ตัวคุณหมอเอง ก็ยังมัวได้เหมือนกัน แนะนำอะไรก็ไม่รู้ แถมยังจะใช้ศัพท์แพทย์สูงๆ มาคุยให้เราเกิดความงง ตามไปอีก จริงๆแล้วเด็กอาจจะไม่ได้เป็นอะไรเลยก็ได้ การที่เด็กนั่งไม่นิ่ง เล่นซน ทำโน่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา ขึ้ลืม ทำอะไรก็ไม่เสร็จให้เป็นชิ้นเป็นอัน นั่นมันก็เป็นธรรมชาติของเด็กเขาอยู่แล้ว และมันก็เป็��¸™à¸«à¸™à¹‰à¸²à¸—ี่โดยตรงของพ่อกะแม่ที่จะต้อง

เทรนลูกตัวเองให้มีความรับผิดชอบ มีพัฒนาการทางสมองและร่างกายมากขึ้น การสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน หรือนั่งสมาธิ แบบไม่บังคับจิตใจกัน ดิฉันเห็นด้วยค่ะ