เชื่อใครระหว่างตำรวจกับแม่ลูกที่ถูกจับผิดตัว?

เห็นด้วยกับคุณเอกที่ว่าไม่เชื่อทั้งสองฝั่ง

มันมีเงื่อนงำ และพิรุธทั้งสองฝ่ายครับ

เรื่องจริง มันมีอยู่ ในเขตจำกัด สำหรับผม แล้ว ไม่ฟังข่าวจาก สรยุทย์ (จัดประเภท ได้ที่ กูซ้ำ ไอ้พวกนี้ เด็ก หน้าห้อง ) ถ้าการรับฟัง อย่ามองตรง แรงปฎิภาคตรง หรือแรง ปฎิภาคกลับจากเรา ต้องมองลงไป หาสันดาน แต่ละฝ่าย พื้นที่ที่ตั้งที่อาศัย ของ แฝด ทั้งสอง คดีมันตั้งต้นที่จับผิดตัว หน้าตาอาจเหมือนกัน เหมือนอย่าคดี เชอรี่ แอนด์ ที่เกิดขึ้น หาหมาตัวไหนรับผิด คนของหลวงทำ เอาสินไหมทดแทนไปแล้วกัน ถ้าฟ้องไปฟ้อง ต้นสังกัด

คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาคหนึ่งได้พิพากษาตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่16 มีนาคม 2555 ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297

จำคุก 4 ปี เนื่องจากการนำสืบพยานเชื่อได้ว่านายอเนก หรือบี อุ่นวงษ์ ได้ร่วมกับพวกทำร้ายนายอมรเทพ เชื้อดี ผู้เสียหายจนได้รับอันตรายสาหัส ส่วนข้อที่มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า นายเอนก เป็นฝาแฝดผู้พี่ ไม่ใช่ฝาแฝดผู้น้องที่จับตัวมา ในชั้นศาล ซึ่งโจทย์ก็มีผู้เสียหายมายืนยันว่าทั้งคู่มีฝาแฝดจริง และรู้จักกับฝาแฝดทั้งสอง มีลักษณะแตกต่างกันเรื่องสีผิว ดำขาวต่างกัน ส่วนรอยสัก 9 ยอด

พยานโจทย์ก็เห็นรอยสัก 9 ยอดที่ต้นคอ จึงยืนยันว่าจำเลยคือนายอเนกจริง แม้จำเลยจะคัดค้านว่า มีรอยสัก 9 ยอดเหมือนกัน แต่ต่างกันเล็กน้อย โดยเฉพาะพยานหลักฐานของฝ่ายจำเลย ไม่ได้นำลายพิมพ์นิ้วมือมาเปรียบเทียบในการนำสืบ จึงทำให้การจับผิดตัวฟังไม่ขึ้น เพราะลายนิ้วมือจะเป็นหลักฐานในการต่อสู้เรื่องการจับผิดตัวในชั้นศาลได้

ขณะที่ตำรวจภาค 1 โดยชุดจับกุมของสถานีตำรวจประตูน้ำพระอินทร์ ในปี 2552 สมัยนั้น ยืนยันว่านายอเนก คนที่ถูกจับมาได้ยินยอมลงลายมือชื่อในชั้นสอบสวนว่าเป็นตัวจริง ทั้งลงลายมือชื่อในบันทึกประจำวันว่าเป็นนายอเนก กระทั้งนำตัวไปส่งฟ้องศาลก็ยืนยันว่าเป็นนายอเนกจริง ทั้งหมดจึงสรุปว่า ได้ยอมรับโดยไม่มีการคัดค้านในการจับกุม แต่ไปถึงชั้นศาลจึงได้มีการยื่นอุทธรณ์คัดค้าน ขณะนี้ตำรวจได้แจ้งข้อหากลับ 1 ข้อหาฐานหมิ่นประมาท ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่าตำวจเรียกรับสินบน 500,000 บาท ซึ่งหลายฝ่ายที่รับเรื่องร้องเรียนของครอบครัวอุ่นวงษ์ในขณะนี้ก็บอกว่า มารดาของนายอเนก ก็ระบุไม่แน่ชัดว่าตำรวจเรียก 500,000 บาทไปให้ใครหรือเพื่ออะไร ซึ่งขณะนี้สิ่งที่น่าจะเป็นหลักฐานได้ดีที่สุดก็คงจะเป็นลายนิ้วมือของฝาแฝดพี่น้องคู่นี้

ซื่งคนติดคุกไปแล้ว อาจจะรับสมอ้างก็ได้ ก็เขาพี่น้องคลานตามกันมา รับแทนไป แต่รูปพันธ์สัญฐานถึงแฝดกันมันก็ต่างกัน แผกแยกได้ ถ้าเกิดสมมุติว่า ไอ้คนติดคุก ณ วัน ว. เวลา น. มันไม่ได้ทำ มันนอนอยู่กับเมียมัน แล้วไอ้ตัวทำจริง มันมาสารภาพ ว่า ผมทำเอง หน้ามันคล้ายกัน แล้วไครเดือดร้อนละ หน้าม้า เดือดร้อน ออกไปเบรค เฮ้ย อย่าพูดไป ข้าให้ข้าว เอง ห้าถัง เองเอาขัาวไป ไปหุงกิน ส่งเสียให้ไอ้คนที่ โดนจองจำ กินมั่ง แล้วนิ่งซะ คราวนี้ มีหน้าม้า อีกตัว เหมือนม้าจริง เฮ้ยไอ้นี่มันได้เยอะวุ้ย เกิดเสียดาย อยากได้ข้าวคืน สัดสองถัง แอบไปขอบ้าง ทำไงดี ละ ทำไงละ

สำหรับผม ผมไม่เชื่อ ทั้ง เจ้าหน้าที่ ทั้งชาวบ้าน ก็ โธ่ โต๊ะ สล๊อต มันตั้งอยู่ในร้านค้า แทบทุกร้าน ตามย่านชุมชน เจ้าหน้าที่ ไม่รู้เหรอ แล้วเจ้าของร้านมันไม่รู้เหรอ ยาม้าเม็ดเท่าหัวไม้ขีด ยังรู้ แล้ว โต๊ะ สล๊อต โต๊ะเท่าโต๊ะกินข้าว

เรื่องที่ตำรวจเรียกรับสินใต้โต๊ะเชื่อ1000%โดยไม่ลังเลในความชั่วของพวกที่ยืมมือ"กฏหมาย"หากิน

ผ่านจากการส่งส่วยพวกนี้ให้มันมาเนินนานในชีวิตจริงๆ แม่เคยจ่ายสำหรับแผล30กว่าเข็มจบง่ายจะตาย

อีกสองคดีใหญ่พอสมควรเจ้าทุกข์ตายก็หลัก"ล้าน"เดินป๋อ ที่เยาฮันบางแค

อีกคดี นนทบุรี สนิทเหมือนเดิม กินลูกตะกั่วเต็มพิกัดอันนี้จบถูก ญาติคนตายรีบใช้เงินเลยไม่ครบ7หลัก

ดูแล้วผู้ดูแลรักษากฏหมายในประเทศก็แค่นี้'เงินซื้อได้หมด'ไม่ได้ดูผิดใช่ไหมครับ ไม่มีใบเสร็จหรอกครับ

ส่วนจะเชื่อใครดีระหว่าง ตำรวจ กับสามแม่ลูก ในแต่ละกรรม กรรมแรกเชื่อแม่ลูกเรื่องสินบนไม่มีใบเสร็จหรอกไม่งั้นตำรวจติดคุกหมด"กรม"ได้อ้างว้างนานแล้ว และสินบนที่แม่อ้าง=อิสระภาพของลูกทั้สอง แต่แม่ดันไม่มีเลยรับกรรม

สัญชาตญาณเมื่อจนตรอกก็ดิ้นลนครั้งนี้"โดยแสดงให้เห็นแล้วว่า"(โง่)หรือว่าไม่รู้ ไม่ก็รู้ทั้งรู้เสี่ยงไปตายดาบหน้า

เอาวะเป็นไงเป็นกัน ตายเป็นตาย...ตายสมใจ.เพราะมันไม่มีใบเสร็จ

เอาเหตุนี้ ผมก็เอียงข้างสามแม่ลูก ครับพี่เอก...แม่จ๋าไมแม่หาแค่500000ไม่ได้ หาได้ก็จบแล้วเฮ้อ เรื่องเล็กจะตาย ทำเป็นขี่ช้างจับตั๊กแตนไปเอง นะแม่นะ

อยู่ตรงกลางๆ เอนไปข้างแม่ลูกนิดๆ ด้วยเคยมีประสบการณ์ตรงกะวีระกรรมของท่านตำหนวดแบบ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลมาแล้ว เหอๆๆ

มันเป็นความไม่ละเอียด รอบคอบ ของตำรวจ ถ้าีีมีการจับกุมตามหมายจับ ต้องให้ผู้ที่ถูกจับรับรองยืนยันว่าคือบุคคลตามหมายจับไม่ใช่หรอ แต่นี่ผู้ต้องหาบอกแล้ว ก็ยังไม่ฟังเหตุผล ยังมีผู้ต้องหาอีกมากทีตกเป็นแพะจากการทำงานของตำรวจมีตัวอย่างมากมาย กว่าจะรู้ว่าจะผิดตัวก็ติดคุกไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนเหรอ ตรวจสอบล่าช้ากันจัง ความยุติธรรมที่ล่าช้าก็คือความ อยุติธรรม เราดีดีนี่เอง ส่วนแม่ของฝาแฝดจะด้วยอะไรก็ตาม ด้วยความเป็นแม่ก็ต้องต่อสู้ปกป้องลูกทุกวิถีทาง ซึ่งเราเอง ไม่อาจรู้ว่าอะไรคือความจริง อะไรคือเท็จ รู้อยู่แก่ใจทั้งสองฝ่าย สงสารอีกฝ่ายที่พิการนี่สิ ใครจะรับผิดชอบ ทุกวันนี้ สังคมมันเสื่อมจริงๆ ฮึ ฮึ

100%หรือมากกว่านี้ เชื่อแม่ลูกค่ะเพราะจากประสบการณ์ตรงที่ได้พบเจอและต้องติดต่อกับตำรวจไม่เคยเจอตำรวจดีเลยในชีวิตนี้(41ปี)เกี่ยวกับคดีเล็กๆน้อยๆไม่ถึงขั้นคอขาดบาดตายแค่เกือบหมดตัวเท่านั้นเองแค่คำพูดที่ตำรวจพูดกับเรามันก็สาหัสมากแล้วค่ะเพราะฉะนั้นเชื่อแม่ลูกค่ะ

ตอบอย่างไม่ลังเลเลยค่ะว่า เชื่อแม่ลูก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียกเงินห้าแสนบาท

เริ่มจากผิดตั้งแต่เริ่มแรกทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าตัวจริง ตัวปลอม ตัวดำเนิน

ดีชั่วรู้ดีอยู่แก่ใจ ซ่อนไว้บอกใครไม่ได้ ทั้งที่หัวใจแอบไปทำอะไรเอาไว้

ดูโจร จับโกหก ให้ดูที่ตา เพราะดวงตาคือหน้าต่างของดวงใจ

แม่ลูกเขาต้องการอะไร ใน��¹€à¸¡à¸·à¹ˆà¸­à¸ˆà¸±à¸šà¸œà¸´à¸”ตั้งแต่แรกแล้วทำไมไม่แสดงตัวตั้งแต่แรก คนทำผิดยังกลัวอะไร ในเมื่อแฝดอีกคนรับผิด ก็ต้องแสดงตัวเพื่อความถูกต้อง เป็นคดีทีแปลกๆนะคะ

ไม่เชื่อทั้งสองฝ่ายเหมือนกันครับ ที่ยืนยันเสียงแข็งได้อาจเป็นเพราะอยากใช้สื่อให้เป็นประโยชน์