Yahoo Answers is shutting down on May 4th, 2021 (Eastern Time) and beginning April 20th, 2021 (Eastern Time) the Yahoo Answers website will be in read-only mode. There will be no changes to other Yahoo properties or services, or your Yahoo account. You can find more information about the Yahoo Answers shutdown and how to download your data on this help page.

อยากรู้วิธีรักษาโรคพุ่มพวง(SLE หรือลูปัส)?

อยากรู้วิธีรักษาโรคพุ่มพวง(SLE หรือลูปัส) ด้วยแพทย์ทางเลือกค่ะ มีที่ไหนรักษาได้บ้าง? และมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง?

หาข้อมูลในเน็ตมีแต่ไปร.พ.กับกินยาฝรั่ง...ซึ่งเป็นสารเคมี และไม่ดีต่ออวัยวะภายในหลายๆอย่างในระยะยาว

ใครพอจะทราบสมุนไพร, หมอแผนโบราณ รวมทั้งวิธีดูแลตัวเองแนวธรรมชาติบำบัดบ้างมั๊ยคะ?

ยังไม่เป็นร้ายแรงค่ะ แค่ระยะเริ่มต้นเท่านั้นค่ะ

Update:

คำตอบดีๆทั้งสามท่านเลย เลือกเบสยากจัง เดี๋ยวให้พี่สาวซึ่งเป็นผู้ป่วยที่แท้จริงเลือกเองดีกว่าค่ะ

**พี่สาวทำงานอยู่ และงานที่ทำ ทำให้ไม่มีเวลาที่จะดูแลตัวเองมากเท่าที่ควร แม้แต่อาหารก็ยังต้องรีบกินให้จบมื้อโดยเร็ว เวลาพักผ่อนแทบไม่มี จึงไม่ต้องถามถึงเรื่องการไปเข้าคอร์สหรือออกกำลังกายใดๆทั้งสิ้่น เธอบอกว่าทุกวันนี้ทำงานมีวันหยุดแค่ วันเดียวต่ออาทิตย์ ซึ่งวันหยุดนั้นก็จะหมดไปกับการทำความสะอาดบ้าน ซักรีดเสื้อผ้าซะแล้ว... ตอนนี้แพทย์สั่งแต่วิตามินให้กินค่ะ

4 Answers

Rating
  • sosaku
    Lv 5
    9 years ago
    Favorite Answer

    สแตมเซลล์ครับ หรือเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก หายขาด

  • Anonymous
    9 years ago

    ลองปรึกษาแพทย์แผนไทยก่อนไหมคะ

    https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%84%E0%B8%A5%...

    นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 232 บรรเทาเอสแอลอี ด้วยการดูแลตัวเอง บอกตัวเองไม่ให้ป่วย...ช่วยได้

    คุณวิไลลักษณ์ ฐิติพลดำรง วัย 39 ปี จะเล่าเรื่องมหัศจรรย์จิตสั่งกายให้ทราบกันค่ะ ...คุณวิไลลักษณ์

    หันหลังให้ยา กลับมาดูแลตัวเองด้วยแนวทางชีวจิตอย่างเข้มข้น

    วิธีการของคุณวิไลลักษณ์คือ

    หักดิบอาหารที่กิน (จากอาหารตามใจปาก เช่น หมู เนื้อย่างเกรียมๆ ของทอดเยิ้มๆ น้ำอัดลม

    เค้ก ช็อกโกแล็ต ก๋วยเตี๋ยวปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำส้ม พริกป่นอย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ) มาเป็นชีวจิต

    อย่างเข้มข้น

    ข้าวกล้อง ผัก ปลา น้ำซุปก็ต้องเป็นซุปที่ทำเอง เพราะงานยุ่งตลอดเวลา หากเป็นคนชอบทำ

    อาหารอยู่แล้ว

    ฉะนั้นทุกวันหยุดเธอจึงทำอาหารชีวจิตเป็นแพ็คใส่ตู้เย็นไว้จนครบทุกมื้อทุกวันทำงาน

    เมื่อถึงเวลาทาน จึงนำมาอุ่น

    เมื่อรู้สึกเหนื่อยหรือเพลีย เธอจะคั้นน้ำเอนไซม์ (ด้วยเครื่องคั้นแยกกาก) ดื่ม

    โดยดื่มวันละ 2 แก้ว เช้า-เย็น และผักผลไม้ที่ใช้นั้นจะหลากหลาย ไม่ค่อยให้ซ้ำกัน

    ต้มน้ำอาร์.ซี.ดื่มเกือบทุกวัน

    ทำดีท็อกซ์สองเดือนครั้ง

    ตื่นเช้ารำกระบองเป็นเวลา 1 ชั่วโมงก่อนมาทำงาน

    ไม่เครียด นอนพักผ่อนให้เพียงพอ

    ฝึกวิปัสสนาและทำต่อเนื่องสม่ำเสมอ

    เลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นโรค เช่น แสงแดด หรือที่ที่มีผู้คนแออัด

    ��เลิกกินยามาหลายปีแล้ว ถามว่าเกร็ดเลือดสูงไหม ก็ไม่เคยถึงแสน แค่ 7-8 หมื่น แต่เราเลือก

    ไม่กินยา เพราะบางทีไปหาหมอ คือหมอให้ไปเอง ทุก 3 เดือนหรือ 6 เดือน เกร็ดเลือดเหลือ

    5 หมื่น หมอจะสั่งยา แต่เราก็บอกไม่ต้อง เราคิดว่า รู้จักตัวเองดี เพราะบางช่วงรู้สึกเหนื่อยหลัง

    ตื่นนอนตอนเช้า ก็จะรู้แล้วว่าเกร็ดเลือดต่ำ ไปหาหมอ ผลเกร็ดเลือดก็ต่ำอย่างที่เข้าใจจริงๆ

    ช่วงนั้นก็จะรีบหันมาเข้มงวดกับการกิน การพักผ่อน ออกกำลังกาย และความเครียด”

    แค่จิตมีความตั้งมั่นที่จะไม่ยอมให้ตัวเองป่วย จึงสั่งให้กาย (ซึ่งหมายรวมถึงการกระทำ)

    ไปปรุงอาหาร

    สุขภาพ คิดเมนูใหม่ไม่ซ้ำเดิม และมีความสุขกับการปรุงและการกินเมนูเพื่อสุขภาพเหล่านั้น

    แถมจิตยัง

    สั่งกายให้ลุกขึ้นออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเหนื่อยเพลียจากงานในออฟฟิศแค่ไหนก็ตาม

    รวมถึงวันหยุดยาว จิตก็สั่งกายให้เคลียร์งานทุกอย่าง

    ขอวันพักร้อนเพิ่ม เข้าวัด วิปัสสนา ซึ่งนอกจากจิตใจตัวเองปลอดโปร่งแล้ว เพื่อนร่วมงานก็ได้

    รับบุญที่เธอแบ่งให้กันถ้วนหน้า

    “ตอนแรกที่เป็นโรคนี้ เราบอกตัวเองว่าเราป่วย เราน่าสงสาร เพื่อนดูแลฉันหน่อย แฟนต้องดูแล

    ฉันนะ แล้วก็ป่วยมากขึ้นจริงๆ ด้วย แต่ตอนหลังมานี้ บอกตัวเองว่าเราไม่ป่วย เราก็ไม่ได้เป็นอะไร

    จริงๆ”

    เพราะย่ามใจ โรคที่หายก็กลับมาอีก

    ....มีประสบการณ์น่าอ่านอีกติดตามจากลิงค์นี้ค่ะ

    http://www.cheewajit.com/articleView.aspx?cateId=1...

  • Right
    Lv 5
    9 years ago

    ลองดูในกระทู้นี้นะว่ามีทางไหม ของคุณหมอบรรจบซึ่งเป็นแพทย์ทางเลือก

    ภูมิแพ้ตัวเองSLE

    http://www.balavi.com/webboard/QAview.asp?id=13992

    โรคSLE

    http://www.balavi.com/webboard/QAview.asp?id=87

    หวังว่าคุณKimmimจะมีสุขภาพแข็งแรง และพบทางร���กษานะ

  • 7 years ago

    การรรักษาโรค SLE

    การฟื้นฟูรักษาด้วยชีวะโมเลกุล สำหรับการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

    ปัจจุบันนี้คนเราเกิดภาวะตรึงเครียดเนื่องด้วยหลายๆสาเหตุ และปัจจัย ทำให้ร่างกายและจิตใจของเกิดโรคต่างๆขึ้นมากมาย แต่พวกเรายังโชคดีที่ว่ามีการค้นพบการป้องกันสภาพที่เสื่อมโทรมนี้

    โดยปรัชญาเบื้องต้น สิ่งที่สำคัญพื้นฐานสำหรับการมีสุขภาพที่ดีคือ แสงแดด, ออกซิเจน, น้ำ, การได้รับสารอาหารที่สมดุล และ การออกกำลังกายที่เพียงพอ

    การวิจัยใหม่ค้นพบว่าห้าข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญของชีวิต แต่เนื่องด้วยชีวิตปัจจุบันทำให้สิ่งต่างๆ สารอาหาร น้ำดื่ม อากาศที่ไม่บริสุทธิ์ การได้รับแสงแดดที่ไม่เพียงพอหรือผิดช่วงเวลา ทำให้เราได้รับสิ่งไม่มีคุณภาพเพียงพอเราจึงต้องอาศัยตัวช่วยเพื่อให้ได้รับสิ่งสำคัญที่เพียงพอ

    ผลของการบำบัดด้วยเซลล์ :

    -ต่อต้านความชราและการแก่ก่อนวัยอันควรที่เกิดจากความเหนื่อยล้าทั้งทางร่ายกายและจิตใจ

    -ฮอร์โมนไม่สมดุลและไม่มีประสิทธิภาพของต่อมไร้ท่อ

    -ปัญหาเรื่องความเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ, ความเจ็บป่วยเนื่องจากความเครียด

    -อาการอ่อนล้าเรื้อรัง(Chronic Fatigue Syndrome CFS)

    -การพักฟื้นหลังจากโรคหรืออุบัติเหตุ

    -กระดูกสันหลังและไขข้อเสื่อม

    -ความบกพร่องของกล้ามเนื้อและระบบประสาทบางประเภท

    -โรคเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเนื้อเยื้อเรื้อรัง

    -ปัญหาระบบหมุนเวียน

    -โรคเกี่ยวกับระบบย่อย

    -ระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมสภาพและการติดเชื้อ

    -การสร้างเซลล์ เนื้อเยื่อและอวัยวะขึ้นมาใหม่

    -ภูมิคุ้มกัน สารต่อต้านอนุมูลอิสระและยับยั้งการอักเสบ

    -การควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ

    -โปรโมทและบำรุงรักษาการหมุนเวียนเลือด

    -เพื่อให้มั่นใจการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและการรักษาบาดแผล

    -การเพิ่มประสิทธิภาพของการฟื้นฟูระบบประสาท

    -ควบคุมความสมดุลของระบบฮอร์โมน

    -ปรับปรุงระบบทางเดินอาหารที่จะนำไปสู่การกำจัดอาการท้องผูก

    -เพิ่มความยืดหยุ่นที่ข้อต่อและหมอนรองกระดูก

    -ปรับปรุงการรับรู้และการตื่นตัวของสมองและเสริมสร้างความชุ่มชื้นของผิวหนังชั้นนอกซึ่งนำไปสู่ผิวที่กระชับ สดใสและเรียบเนียน

    -เพิ่มความหนาแน่นของชั้นหนังแท้โดยการเร่งคอลลาเจน

Still have questions? Get your answers by asking now.