ขอคำแนะนำเรื่องน้ำมันเครื่องเมื่อครบ5000กม.ควรใช้แบบกึ่งสังเคราะห์ หรือ แบบสังเคราะห์แท้?

ผู้ถามเป็นสตรี จึงขอตอบแบบที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายๆ ดังนี้ครับ . . .

ด้วยเทคโนโลยีของน้ำมันเครื่องในปัจจุบันนี้ ( ทั้งที่ผลิตจากน้ำมันปิโตรเลี่ยม(น้ำมันเครื่องธรรมดา) และกึ่งสังเคราะห์ ) . . . เปลี่ยนกันที่ 1 หมื่น กม.ครับ . . . ไม่ใช่ 5 พัน กม.นะครับ . . . จึงไม่ควรรีบเพิ่มขยะให้กับโลกครับ

. . . แต่ถ้าเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์(แท้ๆ) . . . ปตท. เคยพิมพ์ไว้ที่ด้านข้างแกลลอน ว่า เปลี่ยนที่ 1.5 หมื่น กม.ครับ . . แต��ปัจจุบันนี้ ไม่พิมพ์ข้อความนี้แล้ว . . . คงจะไม่อยากผูกมัดตัวเอง( ไม่อยากรับประกัน )

. . . น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ . . .

1 ) . มีความใสมากกว่า . . . จึงสามารถปั๊มขึ้นไปหล่อลื่นเครื่องยนต์ ได้เร็วกว่า

2 ) . มีความลื่นมากกว่า . . .

2.1 ) . เครื่องยนต์ จึงสึกหรอน้อยกว่า

2.2 ) . เครื่องยนต์ ก็จะร้อนน้อยกว่าด้วย ( น้ำมันเครื่อง ก็เป็นตัวระบายความร้อนด้วย ซึ่งจะรับความร้อนมาจากภายในกระบอกสูบ(ห้องเผาไหม้) ได้โดยตรงเลย )

2.3 ) . ด้วยความลื่น ที่ลื่นมากกว่านี้เอง ก็จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ อีกด้วยครับ

3 ) . ปัจจุบันนี้ ปตท. มีน้ำมันเครื่อง ซุปเปอร์ ซินเตียติก ( ซุปเปอร์ สังเคราะห์ ) เพิ่มขึ้นมาอีกด้วยครับ

4 ) . แต่ ราคาของน้ำมันเครื่องสังเคราะห์นี้ ก็ แพงกว่ากันนะครับ เพราะยังไม่สามารถผลิตได้ ภายในประเทศ

5 ) . สารปรุงแต่งน้ำมันเครื่อง หรือสารเพิ่มประสิทธิภาพ( ADDITIVE ) ที่อ้างว่ามีข้อดี ต่างๆนานา นั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อมาเติมครับ . . . เพราะในน้ำมันเครื่องเกรดต่างๆ ในปัจจุบันนี้ เขาได้เติมสารปรุงแต่ง มาจากโรงงานเรียบร้อยแล้วครับ ( เติมต่างกัน ตามเกรดของน้ำมันเครื่อง แต่ละเกรดนั้นๆ ) . . . ถ้ามีเวลา ก็ลองอ่านดูครับ . . .

http://www.club4g.com/index.php?topic=42358.0;wap2

. . . ส่วนจะเลือกใช้น้ำมันเครื่องประเภทใดนั้น ขอให้ใช้ดุลยพินิจ ตัดสินใจเอาเองเถอะครับ . . . สำหรับผม ผมเลือกใช้ชนิดที่ " ดีที่สุด " ที่มีขายครับ

การเลือกใช้ น้ำมันเครื่อง เป็นเรื่องที่เจ้าของรถ ควรตัดสินใจ เพราะ

กรณีรถใหม่ ยังอยู่ในระหว่างรับประกัน และใช้บริการของ ศูนย์ ทุกๆ ประมาณ 5,000 กม.

น้ำมันเครื่องที่ศูนย์บริการ เปลี่���นถ่าย สำหรับ ทุก 5,000 กม. จะเป็น น้ำมันเครื่อง ธรรมดา แบบมัลติเกรด

หากคุณต้องการ เป็นชนิดอื่น คุณต้องซื้อไปให้เขาเปลี่ยนให้

สำหรับ แบบทุกๆ 10,000 กม. ศูนย์อาจใช้ แบบกึ่งสังเคราะห์ หรือ สังเคราะห์ แล้วแต่กรณี แต่ควรเปลี่ยน กรองน้ำมันเครื่อง ทุกๆ 5,000 กม.

ในอดีต เคยมีข้อถกเถียง แนะนำกัน (ตอนนี้ ไม่ได้ติดตาม) คือ

น้ำมันเครื่องปกติ แบบมัลติเกรด ใช้ได้ถึง 8,000 กม. จึงแนะนำให้เปลี่ยนกันที่ 5,000 กม.

น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห็ "-------" 15,000 กม. " - - - - - - -- - - - - - " 10,000 กม.

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% " - - - -" 20,000 กม. " - - - - - - - -- - - - - " 15,000 กม.

ทั้งนี้เนื่องจาก ตัดระยะทาง ที่เกิดจากการที่รถไม่ได้เคลื่อนที่ หรือ การใช้รถ ในเมืองที่่รถจอด มากกว่า เคลื่อนที่

และหาก ใช้รถในเมืองที่การจราจร แออัดมาก และในช่วงฤดูร้อน ระยะทางการเปลี่ยนถ่าย ควรสั้นลง

แต่ทังหมด ควรทำการเปลี่ยน กรองน้ำมันเครื่อง ทุกๆ 5,000 กม. หรือ สั้นกว่า

ยกเว้น เป็นกรองแบบพิเศษ ที่สามารถยืดอายุการเปลี่ยนออกไป เช่น แบบมีแม่เหล็กที่ก้นของกรอง

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสารเติมแต่ง น้ำมันเครื่อง ที่ช่วยยืดอายุการเปลี่ยนถ่่ายน้ำมันเครื่องออกไปได้อีก ซึ่งผู้ใช้ควรเป็นผุ้พิจารณา

สำหรับ รถที่มีอายุมากขึ้น น้ำมันเครื่อง ควรเป็น เกรดที่เลขมากขึ้น เช่น

ตอนเป็น รถใหม่ คู่มือบอกให้ใช้ มัลติเกรด 5 - 40 W

พอใช้ไป มากขึ้น เช่น ใช้งานไปราว 100,00 กม. เกรดควรเปลี่ยนให้มากขึ้น เช่น เป็น 20-50 W เป็นต้น

แต่สุดท้าย ไม่ว่าจะ บอกเล่า เก้าสิบ อย่างไร เจ้าของรถ แต่ละคัน ก็มีความประสงค์ ที่เป็นของตนเอง เช่นกัน

เช่น

บางราย บอกว่า ก็ กรู มีตังค์ จะเปลี่ยน ที่ 3,000 ใครจะว่าอะไร เพราะคิดว่าเหมือนการอาบน้ำ ควรอาบน้ำที่มัน สะอาดหน่อย

บางราย ใช้หัวเชื้อ เลยลากยาวกว่าจะเปลียน ก็ประมาณ 30,00 กม. โดยเปลี่ยนกรองทุก 10,000 กม.

บางราย ทุนน้อย ไม่เปลียน แต่ใช้เติมไปเรื่อยๆ บอกว่า ก็ไม่เห็นมันจะมีปัญหาไรเนี่ย เครื่องก็ยังติดดีอยู่

สรุป

ตามใจเลยครับ อยากได้แบบไหน ไม่มีใครว่าได้

แค่น้ำมันเครื่องปกติ แบบมัลติเกรด มันก็ใช้ได้เกิน 5,000 กม. อยู่แล้ว

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้คืออะไร?

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ผลิตจากน้ำมันพื้นฐานที่ผ่านกระบวนการกลั่นจนมีความบริสุทธิ์และมีคุณภาพสูงกว่าน้ำมันเครื่องทั่วไป ซึ่งผลิตจากน้ำมันแร่แบบดั้งเดิม ให้การปกป้องเครื่องยนต์ในระดับที่สูงกว่า และให้สมรรถนะโดยรวมที่ยอดเยี่ยม น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ให้ประโยชน์ที่หลากหลาย เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานด้วยสมรรถนะสูงสุดเป็นเวลาหลายปี

ประเภทน้ำมันเครื่อง

โดยทั่วไปน้ำมันเครื่องแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่:

น้ำมันเครื่องธรรมดาทั่วไป ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมและยังคงใช้กันอย่างแพร่หลาย

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

(และยังมีน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้และน้ำมันเครื่องทั่วไป น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ยังเรียกว่าน้ำมันผสมอีกด้วย)

น้ำมันเครื่องทั้ง 2 ประเภทนี้ ต่างผลิตจากน้ำมันดิบที่ขุดเจาะขึ้นมาจากใต้ดินเหมือนกัน โดยความแตกต่างอยู่ที่น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ได้รับการผลิตขึ้นด้วยกระบวนการกลั่นที่ล้ำหน้า จึงมีความบริสุทธิ์และมีคุณภาพสูงกว่าน้ำมันเครื่องทั่วไปแบบดั้งเดิม ซึ่งนี่ไม่ใช่เพียงแค่การกำจัดสิ่งเจือปนออกจากน้ำมันเท่านั้นแต่ในทุกโมเลกุลที่ประกอบขึ้นมาเป็นน้ำมัน ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สามารถตอบสนองเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องในระดับที่สูงกว่าและให้สมรรถนะโดยรวมที่ดีขึ้น แม้กระทั่งในสภาวะการขับขี่ที่รุนแรง

จากประสพการณ์ส่วนตัว 5000 กม.ผมใช้กึ่งสังเคราะห์ ถ้า 10000 กม.ผมใช้ส้งเคราะห์แท้ครับ เพื่อความมั่นใจและสบายใจครับ