ทำไมคนสมัยนี้ชอบนินทากล่าวร้ายคนอื่นให้เกิดความเสียหาย แต่พอถูกนินทากลับไปบ้างกั���หาว่าเราเป็นคนไม่ดี?

คนเราก็แบบนี้แหละ...หางตัวเองคลำไม่เจอ...เจอแต่หางคนอื่น

เมื่อไหร่ที่เรามองตัวเองว่าไม่ดี เมื่อนั้นเราจะเป็นคนดี

เมื่อไหร่ที่เรามองคนอื่นไม่ดี นั่นแหละโปรดทราบ....หางตัวเองตลำไม่เจอ

ก็เพราะเราเป็นคนไม่ดีจริงๆไม่ใช่หรือ ที่ชอบไปนินทาคนอื่น

..ฮิๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อาจเป็นเพราะ เราเคยเป็นคนดี แต่เราทำให้ตัวเรากลายเป็น คนไม่ดี

ในทันทีที่เรา เริ่มทำแบบที่เขาทำ เนื่องมาจากเขาก็รู้ว่า ที่เขาทำนั้น

" มันไม่ดี" ค่ะ

ทุกสมัยมีการนินทา กล่าวร้าย บางเวลาเรากล่าวหาว่าร้ายใครเรารู้ตัว

ว่า ทำไม่ดี ไม่สบายใจไปหลายๆวัน แต่ลองดูสิ หากเรากระทำประจำ

เราจะลืมว่า ทำดี อย่างที่เคยเป็นน่ะ รวมถึงการไม่กล่าวหาว่าร้ายด้วย

หากคิดว่า จะทำอาการ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ก็ต้องรับได้ค่ะ

คนที่นั่งปากเหม็นยอมไม่ยอมรับว่าตัวเองปากเหม็น แต่ยินดีที่จะว่าคนอื่นปากเหม็น

เวลาคนเราเกือบทุกคนมักจะเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ใครทำอะไรไม่ถูกใจ หรือเวลาอิจฉาใครก็มักจะเอาเค้าไปว่าร้ายต่างๆนานา แต่เวลาถูกตักเตือนหรือโดนว่านิดหน่อย ก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟเพราะเค้าไม่เคยมองกลับไปดูตัวเองเลยว่าเวลาว่าร้ายหรือนินทาคนอื่นแล้ว คนที่โดนก็เป็นเหมือนกับเค้าที่เป็นอยู่ตอนนี้ สรุปสั้นๆ มันเป็นธรรมดาของมนุษย์ครับ ^^

คงอย่างที่เขาว่ากันว่าต่อๆๆมานานว่า "อันนินทากาเล เหมือนเทแกลบ ไม่เจ็บแสบ เหมือนเอาแหนบมาถอนขน"ไงค่ะ

ก็ทำได้อย่างเดียวคือปล่อยมันไปอย่าไปยุ่งกับมัน คิดซะว่ามันเป็นสสารชนิดหนึ่ง ซึ่งน่ารังเกียจกว่าหมาขี้เรื้อน

แล้วถ้ามันนินทาเราไม่รับซะอย่างก็จบกัน 555 เข้าตัวมันให้หมด

แล้วพอมันเบื่อที่เราไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเดี๋ยวมันจะเปลี่ยนเป้าหมายไปเองโดยปริยาย

เพราะทุกคนย่อมมีทั้งเรื่องดีและไม่ดี เพราะเราเป็นมนุษย์ธรรมดา จึงมีข้อผิดพลาด ทำให้ถูกนินทา และคนอื่นก็เช่นกันมีข้อไม่ดีเช่นกัน แล้วมาทำให้เราไม่พอใจ เราก็เอาไปนินทาเพื่อระบายความเจ็บใจ แต่ด้วยสันดานคนเรา ที่เห็นแต่ตนเองดี คนอื่นไม่ดี จึงเห็นคนอื่นนั้นนินทาตนเองแสนเลว แต่ตนเองนินทาเขา รุนแรง และมากกว่ากลับไม่เคยจะสำนึก เรียกว่า "ตดคนอื่น ว่าเหม็นฉิบอ๋าย แต่ตดตนเองเหม็นกว่า ไม่เป็นไร" อะนิ

อย่าไปสนใจอะไรกับคนเหล่านี้เลย มีเยอะ

สอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านอยากรู้ไปซะหมดกลัวถูกคนอื่นมองว่าโง่ถ้าโดนถามกลัวตอบไม่ได้ไร้สาระ