Yahoo Answers is shutting down on May 4th, 2021 (Eastern Time) and beginning April 20th, 2021 (Eastern Time) the Yahoo Answers website will be in read-only mode. There will be no changes to other Yahoo properties or services, or your Yahoo account. You can find more information about the Yahoo Answers shutdown and how to download your data on this help page.

คนเราควรนับถือศาสนาหรือไม่?

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานผลการวิจัยในชื่อ “ภูมิทัศน์ในการนับถือศาสนาของคนทั่วโลก” ของ “พิว” (The Pew Forum on Religion & Public Life) รวบรวมข้อมูลจากสถิติในปี พ.ศ.2553 ( แต่เพิ่งจะสรุป/รายงาน ) พบว่า ประชากรโลกที่ระบุว่าตัวเองไม่ได้นับถือศาสนาใดเลย มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจนเป็นอันดับ 3 ของโลก

ผลการสำรวจจำนวนผู้นับถือแต่ละศาสนา

อันดับ 1 ศาสนาคริสต์ มีผู้นับถืออยู่ทั่วโลกสูงถึง 2.2 พันล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 31.5 ของประชากรโลก

อันดับ 2 ศาสนาอิสลาม มีอยู่ประมาณ 1.6 พันล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 23 ของประชากรโลก

อันดับ 3 ไม่ได้นับถือศาสนาใด ๆ เลย มีจำนวน 1.1 พันล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา

อันดับ 4 ศาสนาฮินดู

อันดับ 5 ศาสนาพุทธ

อันดับ 6 กลุ่มศาสนาเล็ก ๆ ( บาไฮ ลัทธิเต๋า เจนไน ชินโต ซิกข์ เทนริเคียว วิคคา และโซโรอัสเตอร์ ) มีผู้นับถือรวมกันประมาณเกือบร��อยละ 1 หรือ 58 ล้านคน

อันดับ 7 กลุ่มผู้ที่นับถือธรรมชาติ ภูติผีและเทพเจ้าอื่น ๆ

อันดับ 8 ศาสนายิว

ประเทศส่วนใหญ่ไม่มีกฎหมายบังคับให้นับถือศาสนาใด

แล้วสมาชิกคิดว่า คนเราควรนับถือศาสนาใดหรือไม่ เพราะอะไรครับ

Update:

...............................

โอโฮ... คำถามนี้ ได้คำตอบที่เป็นข้อคิดดีๆมากมายเลย ผมชักหนักใจแล้ว ถึงเวลาเลือกคำตอบจะเลือกคำตอบไหนหนอ เท่าที่ตอบมาแล้วนี้ก็เลือกไม่ได้แล้ว

( คุณ Violet ครับ ที่ว่า "ประเทศส่วนใหญ่ไม่มีกฎหมายบังคับให้นับถือศาสนา" นั้น เป็นข้อมูลประกอบ ไม่ใช่คำถามครับ )

Update 2:

..........................................

ข้อคิดดีๆที่ได้จากคำตอบ เช่น

- คุณ 007 บอกว่า ถ้าไม่มีการนับถือศาสนาต่าง ๆ ก็ไม่มีคนที่ "ต่างศาสนา" ไม่ต้องมีการขัดแย้งระหว่างศาสนา มองคนศาสนาอื่นเป็นพวกนอกรีตนอกศาสนา

- คุณชายชาติ บอกว่า แม้คนไม่มีศาสนา "ความไม่มีศาสนา ก็คือศาสนาของเขา"

- คุณ CC.. คุณไหมฟ้า คุณนักบุญ ปีศาจ ... ... บอกว่า ควรนับถือศาสนาเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนียวจิตใจ ( อันนี้ตรงกับที่ผมคิดไว้ก่อน ) เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว เป็นที่พึ่งทางใจ เมื่อเกิดความท้อแท้/มีป��ญหาในชีวิต/มีความทุกข์ จะได้ไม่ถึงขั้นวิปลาส

- ฯลฯ

ผมขอเลือกคำตอบของคุณชายชาติ เป็นคำตอบที่ดีที่สุดนะครับ เพราะมีทฤษฎี/หลักการมากหน่อย

ขอบคุณทุกคนที่ให้เกียรติตอบคำถามครับ

15 Answers

Rating
  • ?
    Lv 6
    8 years ago
    Favorite Answer

    ศาสนา คือคำสอนที่ยึดเหนี่ยวเกาะติด อีกครั้งหนึ่ง หรือ เสมอไป (Religion: re = อีกครั้งหนึ่ง + lig = เกาะ ยึด ผูกมัด + ion = พยางค์ท้ายคำที่ทำให้คำนั้นเป็นคำนาม เช่น คำสอน สิ่งของ ระบบ) ศาสนาเป็นระบบคำสอนทุกคนได้รับเมื่อเจริญเติบโตมาตั้งแต่เด็ก เป็นปฐมโอวาทที่ได้รับไว้ และผูกมัดจิตใจอยู่เสมอไป ที่มีทั้งดี และไม่ดี จริง และไม่จริงปะปนกันไป นี่เป็นความจริงของทุกศาสนา และทุกความเชื่อของมนุษย์

    Carl Mark บิดาของระบบ Communism เขียนว่า "ศาสนาคือยาฝิ่นของมนุษย์" (Religion is the opium of the people) [1] ก็เป็นข้อสังเกตที่มีเค้ามูลแห่งความจริง คือคน(ส่วนมาก)ก็ติดศาสนาของตนอย่างงอมแงมเหมือนติดยาฝิ่น ในสายตาของ Carl Mark ถือว่าไม่ดี เพราะเป็นเหมือนติดยาเสพติด และเขาก็สร้างระบบความเชื่อไหม่ของเขาขึ้นมาเพื่อลบล้างความเชื่อเดิมของชาวยุโรปในสมัยนั้นที่เชื่อในศาสนาคริสต์ที่ได้แตกออกเป็นนิกายต่างๆมากมาย และได้สร้างความสับสนวุ่นวายในความเชื่อในสมัยนั้น วิธีแก้ไขของ Carl Mark ก็คือกำจัดผู้ที่มีความคิดขัดแย้งให้หมดไปจากพื้นผิวโลกนี้

    ระบบ Communist มิใช่เป็นเพียงระบบการปกครอง สังคม และเศรษฐกิจเท่านั้น แต่เป็นระบบ ปรัชญา และศาสนาของผู้ไร้ศาสนาด้วย ระบบนี้ได��ริดรอนสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์ในการนับถือศาสนาอื่นๆด้วย ศาสนานี้เรียกว่า "อเทวนิยม" (Atheism) เป็นหลักความเชื่ออย่างหนึ่ง ซึ่งมีมุมมองแห่งชีวิตตรงข้ามกับ ผู้นับถือศาสนาที่เชื่อว่ามี "พระเจ้าองค์เดียว" หรือ "เอกเทวนิยม" เช่นในศาสนายิว คริสต์ และ อิสลาม

    ทุกคนต้องมีศาสนา แม้คนไม่มีศาสนา "ความไม่มีศาสนา ก็คือศาสนาของเขา" เพราะศาสนาเป็นความเชื่อและความเข้าใจ เป็นมุมมองแห่งชีวิตที่ทุกคนต้องมี มุมมองนั้นจะถูกต้อง ตั้งอยู่บนฐานแห่งความจริง เป็นประโยชน์แก่ชีวิตนั้นและแก่คนอื่นหรือไม่ ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณากันด้วยตัวเอง และโดยผู้ที่ได้สัมผัสกับชีวิตของผู้นั้น

    เกี่ยวกับคำถามที่ว่า "คนเราควรนับถือศาสนาใดหรือไม่ เพราะอะไรครับ?"

    คนเราทุกคนมีศาสนาของตนเองอยู่ ศาสนานั้นคือความเชื่อ ความเข้าใจ และมุมองชีวิต สังคม และโลกนี้ ในการที่จะเชื่อว่ามีพระเจ้า หรือไม่มีพระเจ้า พระเจ้าสร้างสรรพสิ่งทั้งปวง หรือ สิ่งมีชีวิตเกิดเอง วิวัฒนาการไปเองตาม ยะถากรรม ตามการเลือกสรรพ์ตามธรรมชาติ เกิดมาทำไม? ตายแล้วไปไหน? มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น เราควรถาม หรือให้ความสนใจหรือไม่? หรือเป็นปัญหาโลกแตก ไร้สาระ?

    ความเชื่อและความเข้าใจของเราแต่ละคน ก็คือ ศาสนาและปรัชญาของเรา แล้วแต่ว่าเราถูกสอนมาอย่างไร และรับไว้ในใจอย่างไร ในสิ่งแวดล้อมของคำสอนในครอบครัวและสังคมของเรา ถ้าเราจะบอกว่า เราไม่นับถือศาสนาอะไร ก็คงไม่ถูกต้องนัก กล่าวให้ชัดเจนมากขึ้นก็คือ "เราไม่ได้ปักใจเชื่อตามศาสนาใดที่มีคนเชื่อกันมาตั้งแต่โบราณกาล แต่เชื่อตามที่ได้ยิน ได้คิด และได้รับไว้ขณะนี้ ซึ่งอาจไม่อยู่ในกรอบของศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ หรือศาสนาอื่นๆก็ได้"

    ความไม่มีศาสนานี้ เรียกว่า "มนุษยนิยม" (Humanism) หรือ "อเทวะ มนุษยนิยม (Secular Humanism) ซึ่งคนสมัยใหม่ ที่ผ่านการศึกษาระดับอุดมศึกษา นิยมเรียกตนเองกัน เขามิได้นับถือศาสนาใดๆที่คนในสมับก่อนๆนับถือ เขานับถือศาสนาใหม่ และขณะนี้มีผู้นิยมนับถือศาสนานี้ติดอันดับระดับ 3 ของโลก เพราะระบบการศึกษาในโลกเสรีแทบทุกประเทศ สอนความเชื่อ ปรัชญา และศาสนานี้ในคราบของวิทยาศาสตร์ โดยไม่เปิดโอกาสให้มีคำชี้แจงอื่นใดที่มีเหตุผลที่จะชี้นำไปสู่ข้อคิดที่ว่า สิ่งที่มีสติปัญญาเหนือมนุษย์ อาจมีอยู่ในจักรวาลนี้ และสิ่งนั้นหรือผุ้นั้น คือพระเจ้า ซึ่งมิใช่ผลแห่งจิตนาการของมนุษย์อย่างที่ Carl Mark และสหายของเขาคิดไว้แม้แต่น้อย

    ภายในทุกๆศาสนา ทั้งในกลุ่มเทวะนิยม และอเทวะนิยม ก็มีคำสอนที่ดี ที่จริง คละไปกับคำสอนที่ไม่ดี และไม่จริง ผู้ที่มีปัญญา ก็ต้องใช้ดุลพินิจ และวิจารณญาณที่ดีว่า สิ่งใดตั้งอยู่ในฐานของความสัจจริง และรู้ได้อย่างไรว่าตั้งอยู่ในฐานนั้น? ผู้เยาว์ หรือผู้ด้อยปัญญา ก็หลับหูหลับตาปักใจเชื่อตามที่ผู้อื่นป้อนให้ แต่ผู้ใหญ่ก็วิเคราะห์และตรึกตรองสิ่งที่ได้รับไว้แล้วเสมอว่า สิ่งนี้เป็นความจริง และล้วนแล้วเป็นความจริงหรือไม่?

    ความจงรักภักดีของมนุษย์มิได้อยู่ในศาสนาหรือคำสอนของนิกายใดๆในศาสนานั้นๆ แต่อยู่ในสัจธรรม และความจริงสัมบูรณ์ ที่มีอย่ต่างหาก

    ถ้าความจริงสัมพัทธ์มีจริง ความจริงสัมบูรณ์ก็มีจริงด้วย ความเห็นส่วนตัว ครับผม

  • komet
    Lv 7
    8 years ago

    ตามความรู้สึกนึกคิดของเราๆว่า ทุกศาสนา"สอน"ให้ทุกคนทำดี คิดดี พูดดีทั้งนั้น ก็ควรมี"ศาสนา"หรือความเลื่อมใสในลัทธิต่างๆประจำตัว ประจำครอบครัว สืบทอดตามเจตนารมณ์ของตระกูล,

    ซึ่งการนับถือ ก็คงตามๆๆพ่อแม่ปู่ย่าตาทวดทั้งนั้นค่ะ แต่จะเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่นเมื่อเติบโตมีหน้าที่การงานมั่นคงและตามครอบครัวที่สร้างใหม่นั้นๆๆไปโดยปริยาย ก็คงไม่ห้ามหวงกัน เพราะสามัญสำนึกของแต่ละคนๆๆไป,

    แต่ก็มีบางศาสนาที่ห้ามโดยเด็ดขาด ถ้าเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่นๆคงต้องตัดญาติขาดกันไปโดยเป็นตราบาปของต้นตระกูลเชียวหล่ะ,

    ประเทศไทยเรามีอิสระ ไม่มีการบังคับประชาชนทุกระดับว่าต้องนับถือศาสนาอะไร แต่ไม่มี"กฏหมาย"ข้อใดๆๆบ่งชัดว่ามี"ศาสนาพุทธ"เป็นศาสนาประจำชาติไทยเลยค่ะ....คุณๆๆเชื่อไหม?

  • 8 years ago

    โดยทั่วไปควรครับ แต่มีหลายคน นับถือตามประเพณีโดยไม่ค่อยเข้าใจศาสนาเท่าไร

    แต่ก็ทำให้เขาเป็นคนดีได้ ทำให้สังคมร่มเย็นได้ไม่ว่ากัน

    ส่วนพวกมือถือสากปากถือศีล หรือปีศาจปากคาบคัมภีร์ พุงปลิ้น เลือดยังติดยิ้มมุมปากก็มี

    ดังนั้น คนที่บอกว่านับถือศาสนา อาจไม่ได้นับถือจริงก็ได้

    แต่คนที่บอกว่าไม่ได้นับถืออาจเข้าใจถึงแก่นของแต่ละศาสนา จนพ้นจุดที่จะต้องยึดเหนี่ยวไปแล้ว

    เขาจึงพูดได้ว่าไม่ได้นับถือศาสนา แต่ปฎิบัติตนตามหลักธรรมก็ได้

    ส่วนคนที่ไม่ได้นับถือเลยจริงๆเพราะเริ่มสงสัยในการนับถือตามประเพณีก็มี

    แต่หมายความว่าเขาเริ่มต้นแสวงหาความจริง หรือสัจธรรม จะพบไม่พบก็แล้วแต่

    ตราบที่เขาเป็นคนดีของสังคมไม่ละเมิดกฎหมาย ไม่ใช้วินโดวส์เถื่อนสอนธรรม ก็ไม่เป็นไร

    โดยทั่วๆไปของมนุษย์ผู้อ่อนแอ ขลาดเขลา และทำสิ่งต่างๆตามแรงผลักดันพื้นฐานของมนุษย์

    ควรนับถือศาสนานะครับ แต่ผู้ที่พ้นไปแล้วจะไม่นับถือก็ได้

    เหมือนการตั้งคำถามว่าพระพุทธเจ้านับถือศาสนาใด ไม่ควรมีคำตอบ หรือคำถามนี้ด้วยซ้ำ

    เพราะท่านพ้นจากสิ่งนี้แล้ว

  • aoa
    Lv 6
    8 years ago

    ควรครับศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ให้รู้จักแบ่งปันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่ก็มีครับที่เขาไม่นับถือศาสนาอะไรเลยทั้งสิ้นแต่เขาก็เป็นคนดีได้คงจะเบื่อรึก็ไม่อยากยึดติดกับอะไรชีวิตพวกเขาคงจะไม่กลัวบาบ ไม่มีนรก-สวรรค์ ไม่ต้องทำบุญ เข้าโบถส์ก็ดีไม่ยุ่งยากดี

  • How do you think about the answers? You can sign in to vote the answer.
  • Anonymous
    8 years ago

    ศาสนาเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะมี ควรจะมีแต่ความจริง

    และหนทางเข้าถึงความจริงนั้นๆ

    หากจะมีผู้ที่ไม่รู้ความจริงอีกมากก็ไม่น่าแปลกใจ

    เพราะทุกคนเกิดมาเพื่อจะค้นพบความจริงด้วยตนเอง

    โลกนี้จึงมีโชคชะตาให้กับทุกชีวิต

    ตราบเท่าที่เรายังถูกลิขิตด้วยความไม่รู้

    Source(s): pure white
  • Right
    Lv 5
    8 years ago

    ในเรื่องจำนวนผู้นับถือศาสนาและลัทธิต่างๆ ในวิกิพีเดียให้ข้อมูลว่า

    จำนวนผู้นับถือศาสนาและลัทธิต่างๆ [1]

    ศาสนาคริสต์: 2.1 พันล้านคน – 2.2 พันล้านคน

    ศาสนาพุทธ: 500 ล้านคน – 1.9 พันล้านคน [2]

    ศาสนาอิสลาม: 1.5 พันล้านคน – 1.6 พันล้านคน [3]

    ไม่นับถือศาสนา/เชื่อในวิทยาศาสตร์แบบตายแล้วสูญ/อศาสนา: 1.1 พันล้านคน

    ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู: 1.0 พันล้านคน – 1.1 พันล้านคน

    ศาสนาซิกข์: 23 ล้านคน

    ลัทธิจูเช (นับถือคิมอิลซุง) : 19 ล้านคน

    นับถือผี: 15 ล้านคน

    ศาสนายูดาห์: 14 ล้านคน

    ศาสนาบาไฮ: 7 ล้านคน

    ศาสนาโซโรอัสเตอร์: 2.6 ล้านคน

    ลัทธิเพแกนใหม่: 1 ล้านคน

    ขบวนการราสตาฟาเรียน: 6 แสนคน

    เป็นข้อมูลเทียบเคียงกับท่คุณเอกให้มาซึ่งในวิกิอาจจะเก่ากว่า แต่ก็มีชื่อแต่ละความเชื่อให้เห็นจำนวนผู้นับถือมีเท่าไร ขอนำมาลงให้เพื่อนสมาชิกเห็นภาพมากขึ้น(ถ้าไปดูที่มาภาษาอังกฤษก็จะมีกราฟวงกลมดูง่ายขึ้น)

    สำหรับประเด็นคำถาม คิดว่า

    ถ้าไม่นับถือศาสนาหรือลัทธิอะไรเลย คนเราที่ยังไม่หลุดพ้นก็จะมีสิ่งที่เขายึดติดเป็นความเชื่ออยู่ในใจ สุดแต่ว่าจะเรียกว่าอะไร คนส่วนใหญ่ที่ว่าไม่นับถือศาสนาใด ๆ เลยลึกๆแล้ว อาจจะเชื่อว่าการกระทำเป็นหลักก็ได้ จะเชื่อกฎหมายเป็นหลัก จะเชื่อตัวเองเป็นหลักก็ได้... สิ่งที่พวกเขานับถือก็อาจเป็นสิ่งเหล่านี้แทน ก็เป็นหลักคิดความเชื่อในการดำเนินชีวิตของพวกเขา ถ้าหลักคิดนี้นำไปสู่ดีก็ดีไป หลักคิดนี้นำไปสู่ไม่ดีก็เป็นกรรม ซึ่งบางทีคนที่ไม่มีศาสนาก็เสี่ยงกว่า มีโอกาสพลาดมากกว่าคนที่มีหลักศาสนาประจำใจ ที่นับถือคิดเชื่อทำจะนำไปสู่ความถูกต้องในชีวิตไหม เพราะอย่างน้อยความเชื่อในศาสนาได้รับการพิสูจน์คุณค่าในสังคมมานานพอสมควร แต่ก็ใช่ว่าจะยั่งยืน

    ถึงคนที่เชื่อว่ามีศาสนาก็มีประเด็นว่า เข้าถึงความจริงในหลักคิดไหม หรือเป็นเพียงกระพี้ไหม หรือเข้าถึงแก่นของศาสนา ซึ่งคนที่เข้าถึงแก่นจริงๆ จะนำไปสู่ความถูกต้องในชีวิตมากกว่า คนที่ติดเปลือกนอกมากๆ ลุ่มหลงมากๆ ความถูกต้องในชีวิตอาจน้อยกว่าคนที่ไม่มีศาสนาแต่มีหลักคิดคิดดีๆ ก็ได้

    ดังนั้นเข้าประเด็นคำถามว่าคนเราควรนับถือหรือไม่นับถือศาสนานั้น อาจไม่สำคัญเท่ากับว่าคนเรานั้น เข้าถึงแก่นแท้ของชีวิต... จะรู้จักดีจักชั่วไหม ความถูกต้องในชีวิตมีความหมายว่าอะไร คนเราต่างกับสัตว์ตรงไหน

    หรือเห็นความเป็นมนุษย์ไหม... พอเป็นตัวอย่างนะ แทนมโนสำนึกการนับถือ ความเชื่อที่จะทำไปสู่หลักคิดดีๆ ที่เป็นแก่นแท้ของชีวิตคนเรา

    ข้อนี้จึงไม่อาจบอกว่าคนเราควรไม่ควรนับถือศาสนาไปตรงๆ เพราะเหตุผลนี้

    ลืมไปสำหรับประเด็นประเทศส่วนใหญ่ไม่มีกฎหมายบังคับให้นับถือศาสนา ไม่ทราบว่าคุณเอกต้องการเป็นประเด็นคำถามไหม หรือประกอบเป็นข้อมูลเฉยๆ เล���ไม่ตอบก่อนนะเด๊้ยวจะยาว

  • 8 years ago

    ก็เคยได้ยินเหมือนกันนะ ในเรื่อง ไม่ได้นับถือศาสนา โดยเฉพาะ ที่ประเทศญี่ปุ่น ในความรู้สึกนั้นคดว่า ถ้าเป็นประชากรในประเทศนี้ ซึ่งมีวัฒนธรรมชาตินิยมที่แข็งแกร่งนั้น รวมทั้งค่านิยมทางบวกของเขาแล้วไม่จำเป็นต้องนับถือศาสนาก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่การนับถือศาสนานั้นคิดว่าเป็นการหาเครื่องยึดเหนี่ยวเมื่อเกิดความท้อแท้ ปัญหาในชีวิต คนเราบางครั้งการตั้งสติได้ ของแต่ละคนไม่เท่ากัน มันเกิดจากระดับปัญหาทางแก้ และศักยภาพสามารถที่จะแก้เช่น ฐานะ การได้รับการช่วยเหลือทั้งทางด้าน การเงิน และวิธีแก้ปัญหา หรือเหตุแห่งปัญหา รวมทั้งเวลาที่ใช้ในการแก้ด้วย เพราะฉะนั้น ศาสนาจึงจำเป็นและไม่จำเป็นไปในทางเดียวกัน คือ ในความคิดของคนๆนั้น

  • 8 years ago

    จริงควรมีนะ ให้มีเฉพาะศาสนาพุทธได้ป่ะคะ อิอิ

    แต่เป็นไปไม่ได้ก็ขอตอบว่าไม่จำเป็นค่ะ ไม่มีศาสนาเป็นเรื่องดี อิอิ

    จะได้ไม่มีความขัดแย้งกันรุนแรงอย่างปัจจุบันหรือที่ผ่านๆมา

    เพราะบางศาสนาจะมองคนที่นับถือศาสนาอื่นเป็นพวกนอกรีต

    ไม่ให้ความเป็นมิตร

    จึงค่อนข้างอันตรายในกรณีที่เขามีจุดประสงค์ต้องการกำจัดคนนอกศาสนา

    ถ้าไม่มีศาสนาก็ให้นำกฎหมายมาบังคับใช้ให้คนเคารพสิทธิผู้อื่น ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น

    เน้นปลูกฝังระเบียบวินัย การช่วยเหลือผู้อื่น ความมีน้ำใจอะไรประมาณนั้น

  • 8 years ago

    ควรนับถือศาสนาเป็นอย่างยิ่ง เหมือนที่ ท่าน ว.วชิระเมธี พูดไว้

  • pop
    Lv 7
    8 years ago

    ควรนับถือศาสนาอย่างยิ่ง

    ศาสนาช่วยสร้างศีลธรรม จริยธรรมให้เกิดขึ้นในจิตใจ

    Source(s): k
Still have questions? Get your answers by asking now.