Yahoo Answers is shutting down on May 4th, 2021 (Eastern Time) and beginning April 20th, 2021 (Eastern Time) the Yahoo Answers website will be in read-only mode. There will be no changes to other Yahoo properties or services, or your Yahoo account. You can find more information about the Yahoo Answers shutdown and how to download your data on this help page.

ลูกไม่นอนหรือนอนไม่คุณจะแก้ปัญหาอย่างไร เพื่อให้หลับ?

เด็ก อายุ 9 ปี ผู้ชาย

6 Answers

Rating
  • 8 years ago
    Favorite Answer

    ควรกำหนดเวลานอนให้ชัดเจน และเมื่อถึงเวลาก็เข้านอน อย่าตามใจเด็กอยู่หน้าจอทีวี คอมพิวเตอร์จนดึกมาก วินัยในบ้านเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรฝึกหัดจนเป็นนิสัยประจำบ้าน และนิสัยประจำชาติ

  • 6 years ago

    เวปนี้เลยค่ะ ทำให้เด็กนอนหลับตลอดทั้งคืนเพราะเสื้อผ้าที่ออกแบบเพื่อการนอนหลับของเด็กโดยเฉพาะ >>>>http://www.winniebabystore.com/

  • on-ces
    Lv 5
    8 years ago

    แบ่งเป็น 4 สาเหตุคือ(อ่านเต็มๆได้ในลิงค์ค่ะ)

    1 มีความเจ็บป่วย หรือโรค หรือความไม่สบายของร่างกาย ทำให้เด็กมีปัญหาการนอน

    เช่น โรคที่ป่วยเรื้อรัง..ควรหาหมอ

    2 มีปัญหาด้านจิตใจ(สมาธิสั้น) ปัญหาทางด้านโรคทางระบบประสาท(โรคชัก)

    หรือจิตเวชในเด็ก..ควรหาหมอ

    3 นอนหลับยากจากยาที่เด็กบริโภคอยู่ เช่น เช่น คลอรอลไฮเดรต (Chloral hydrate) ฟีโนบาร์บิทาล (Phenobarbital) ยากลุ่มขยายหลอดลมชนิดรับประทาน เช่น ธีโอฟิลลีน (Theophylline) ซึ่งทำให้นอนไม่หลับเพราะไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง การพ่นยาขยายหลอดลมไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการนอนเพราะการออกฤทธิ์อยู่ในระยะเวลาสั้นกว่าชนิดรับ ประทาน ...ควรให้ยาก่อนเวลานอนนานขึ้น หรืองดยาไปเลย

    4 เป็นนิสัยพื้นฐานของเด็กเองที่นอนหลับยาก (Behavior insomnia) ...ฝึกนอนให้เป็นเวลา,ถอยห่างให้เด็กมีเวลาเป็นตัวของตัวเอง, ให้กำลังใจหรือคำชมหรือให้ดาวเมื่อเด็กนอนตามเวลาที่วางไว้,เตรียมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสำหรับที่นอน และสุดท้ายอาจต้องพึ่งยาเพื่อให้ร่างกายปรับตัวนอนตามเวลาเดิมทุกวันๆค่ะ

    เมื่อไรคืออาการนอนหลับยากที่ต้องไปพบแพทย์?

    เมื่อเด็กนอนหลับยาก ควรนำเด็กพบแพทย์เมื่อ อาการนอนไม่หลับที่ไม่ยอมหายเป็นเวลานาน แม้ความเจ็บป่วยต่างๆจะดีขึ้นแล้ว และ/หรือ การนอนไม่หลับหรือหลับยากมีปัญหาต่อกิจวัตรประจำวันของเด็ก เช่น ต่อการเรียน ต่อการทำกิจกรรมต่างๆ

  • pop
    Lv 7
    8 years ago

    มีวิธีแก้ได้เหมือนกับการแก้นิสัยที่ไม่ต้องการ คือ

    นอนให้เป็นเวลา ก่อนนอนอาบน้ำให้สบายตัว ใส่เสื้อผ้าที่สบาย อ่านหนังสือให้ฟังก่อนนอน

    เลิกทำสิ่งต่างๆที่เด็กติด เช่น ไม่อุ้ม ไม่เขย่า หรือให้กินนม ซึ่งอาจจะยากอยู่บ้าง บางครั้งเด็กจะร้องตะโกน ก็ต้องทำใจแข็ง การเพิกเฉยนี้เพื่อให้เด็กเรียนรู้ว่าจะต้องมีการปรับนิสัย การให้อยู่ตามลำพังสักพัก (ส่วนใหญ่ใช้เวลาเป็น 2-3 นาทีถึง 5 นาทีตามอายุเช่น 2 ปีใช้ 2 นาที 3 ปี 3 นาทีประมาณนั้น) เด็กก็จะค่อยๆ ปรับตัวได้ดีขึ้น วิธีนี้ได้ผลดีในการปรับนิสัยที่ไม่พึงต้องการในเด็ก แต่พ่อแม่ส่วนใหญ่ใจไม่แข็งพอ

    พยายามถอยห่าง ให้เด็กได้มีโอกาสเป็นตัวของตัวเองบ้าง ไม่ติดกับพ่อแม่มากเกินไปจนแกะจากกันไม่ออก โดยค่อยๆถอยห่างทีละน้อย เช่น แม่อาจนั่งอยู่ด้วยกันในห้อง ต่อ ไปแม่อาจนั่งที่หน้าห้องยังได้ยินเสียงกันอยู่ ต่อไปก็ห่างออกไป เด็กก็จะหัดอยู่คนเดียวได้ แต่อย่าทิ้งไปเลย พึงระวังสิ่งที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อเด็กหรืออุบัติเหตุจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่นปลั๊กไฟ สิ่งแปลกปลอมที่เด็กอาจเก็บใส่ปากหรือจมูกแล้วสำลัก

    ให้กำลังใจ ให้คำชม หรือให้รางวัล เมื่อเด็กสามารถทำได้ตามที่ตั้งความสำเร็จไว้ และสามารถปฏิบัติได้ต่อไป การให้รางวัลก็ให้สมควรแก่อายุและสมควรแก่เหตุ เช่น ให้ดาว การให้รางวัลเล็กๆ แต่บ่อยๆ จะได้ผลดีกว่าการให้รางวัลใหญ่แต่น้อยครั้ง

    บิดามารดาควรมีความรู้พื้นฐานในเรื่องการนอนของเด็ก เพื่อให้เข้าใจว่าการนอนปกติเป็นอย่างไร เช่น ให้เด็กเข้านอนและตื่นเป็นเวลารวมทั้งในวันหยุดต่างๆ การจัด��ภาพแวด ล้อมในห้องนอน/การเตรียมบริเวณที่นอนให้ถูกสุขลักษณะ การไม่ให้เด็กมีกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดหรือยุ่งยากเมื่อใกล้เวลานอน และการสร้างนิสัยที่ควรแก่เด็ก

    ทั้งนี้การแก้ปัญหาด้วยยามักจะทำเมื่อการปรับนิสัยการนอนแล้วไม่ได้ผล และต้องคำ นึงถึงผลข้างเคียงจากยาดังได้กล่าวไว้แล้วในหัวข้อ 3 ด้วย

    พบบ่อยที่สุดในเด็กอายุตั้งแต่ขวบปีแรกจนถึง 10 ปี แต่อาจจะติดเป็นนิสัยไปจนโต เด็กกลุ่มนี้บางครั้งหลับยากจนกว่าจะมีสิ่งที่ตนเองชอบ ทำให้ก่อนหลับ เช่น ต้องให้พ่อแม่อุ้มแล้วเขย่าตัวจนหลับ หรือต้องดูดนมก่อนจึงจะหลับได้ เมื่อหลับไปแล้วตื่นใหม่ก็ต้องให้พ่อแม่ทำอย่างเดิมอีกจึงจะหลับได้ และเด็กก็จะต้องมีสิ่งที่ต้องการเหล่านี้ก่อนหลับ หากไม่มีใครทำให้ จะนอนไม่หลับ เด็กโตหน่อยอาจจะมีการกรีดร้อง หรือต่อต้านการนอนโดยเฉพาะหากพ่อแม่ไม่สามารถจัดการปัญหานี้ได้

    ปัจจัยสิ่งแวดล้อมภายนอกที่อาจมีผลให้เด็กหลับยาก

    สภาพแวดล้อมจากห้องนอนซึ่งมีคนหลายคนนอนรวมกัน และ/หรือมีเรื่องที่ทำให้ห้องมีเสียงดังอึกทึกหรือไม่สงบสุขสำหรับการนอน หรือพ่อแม่เองก็นอนดึก ทำให้เด็กมีปัญหานอนหลับยาก

    วิธีแก้ไขไม่ยาก คือจัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่เหมาะสมทำให้เด็กนอนหลับได้ และให้มีเวลาการนอนที่แน่นอนเป็นนิสัย

    การจัดเวลานอนให้เป็นเวลา ต่อไปเมื่อถึงเวลา เด็กก็จะง่วงนอนได้เองตามปกติ

    Source(s): p
  • How do you think about the answers? You can sign in to vote the answer.
  • komet
    Lv 7
    8 years ago

    เก้าขวบนี่ ยังไม่สายเกินไปสำหรับคุณลูกที่ต้องปรับเปลี่ยนนิสัย และสำหรับคุณแม่ที่ต้องปรับเปลี่ยนนิสัยเช่นกัน,

    คือ ต้องวางระเบียบกฏเกณฑ์แบบบังคับเลย ทั้งคุณแม่คุณลูกและคุณๆๆในบ้าน เช่นให้นอนสองทุ่ม ทุกคนก็ต้องทำได้ตามนั้น ไม่ใช่ไล่ลูกไปนอน คุณแม่คุณพ่อยัง...เปิดคอมพ์เล่นเน๊ตฯอีก...อะนะ

  • Akiko
    Lv 7
    8 years ago

    ช่วงประถมและก่อนวัยรุ่น เด็กอายุ 6 ถึง 9 ปี ควรนอนคืนละ 10 ชั่วโมง วัยนี้เริ่มมีปัญหาเวลาให้ เข้านอนเพราะลูกมีความรู้สึกต้องการมีเวลาอยู่ใกล้ชิด เป็นส่วนตัวกับพ่อแม่ จึงควรมีเวลาอย่างน้อยก็เป็น ช่วงสั้นๆ ที่จะได้พูดคุยตามประสาพ่อแม่ลูก นอกจาก จะเกิดความสัมพันธ์ที่ดีแล้ว ยังเป็นสัญญาณเตือนถึง เวลาเข้านอนด้วย

    เมื่อคุณพ่อคุณแม่เห็นความสำคัญในการดูแลให้ลูกหลับพักผ่อนได้อย่างพอเพียงแล้ว ประเด็น สำคัญคือการเริ่มฝึกตั้งแต่เล็ก และเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัยการนอนที่ดีของลูกที่จะติดตัว ตลอดไป

    Source(s): .........ขอขอบพระคุณ............. http://www.vichaiyut.co.th/html/journal/14-2550/ch...
Still have questions? Get your answers by asking now.