คุณคิดว่าควรแก้ไขคุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิบวชพระไหมคะ?

ว่าตามจริงพุทธศาสนาจะอยู่ได้ก็ต้องอาศัยพุทธบริษัทสี่ (ในไทยมีแค่สาม ภิกษุณีก็ขาด พยามฟื้นฟูใหม่) ช่วยกันดูแล สมัยพระเจ้าอโศกมหาราชสังคยานาก็มีตรวจจับสึกอลัชชีกันมากมายที่มาบวชอาศัยเป็นพระสงฆ์ สมัยนี้เป็นเรื่องที่เห็นกันว่าพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็มี คนที่เข้ามาแอบอ้างก็มี ทางแก้ว่าให้เพิ่มคุณสมบัติอย่างที่ว่าให้มีเรียนระเบียบวินัยของสงฆ์ หรือผ่านหลักสูตรอะไรมาก่อน ก็น่าสนใจ แต่ไม่รู้ว่าทางพระจะเห็นชอบไหม ซึ่งที่จริง จะบวชได้ก็ต้องศึกษาหลักวินัย ท่องบทขานนาค บทที่จะบวชให้ได้ด้วยตนเอง ถ้าเคร่งครัดกันจริง คนที่ไม่ผ่าน คนที่ไม่มีคุณสมบัติก็ไม่มีสิทธิ์บวชเป็นพระนะ คือเราว่าถ้าพระอุปัชฌาย์เอาจริง คณะสงฆ์เข้มแข็ง รวมถึงคนในชุมชนช่วยกันคัดกรองก็น่าจะลดคนที่จะแฝงตัวมาหาผลประโยชน์จากศาสนา

ขอนอกประเด็นแต่ว่าเกี่ยวกัน

ยุคนี้ยังมีลัทธิเส้นใหญ่แฝงในพุทธศาสนา ไม่อยากพูด เห็นติดป้ายโฆษณาชักชวนมาก มีจัดเดินโชว์ว่ามาโปรดคน ให้ได้บุญ ให้ได้รวย ซึ่งต่อไป ๆ ถ้าขยายไปเรื่อย ซึมลึกในความเชื่อมาก ๆ คนจะเข้าใจธรรมผิดเพี้ยน สังคมตอนนั้นไม่อยากจะบอกเลยว่าจะเป็นอย่างไร... คนคนหนึ่งที่แฝงตัวสามารถสร้างความวิบัติแก่ศาสนาได้ อาจไม่เท่ากับขบวนการจัดตั้งลัทธิที่แฝงมาให้คนเชื่อศรัทธาไม่ลืมหูลืมตา น่ากลัวมาก ๆ

การบวชบางทีก็เป็นหนทางใหม่ของผู้ที่สำนึกได้ ว่าตนเองไม่เหมาะสม

เช่นโรงเรียนบางแห่งที่กล้ารับเด็กที่โรงเรียนอื่นไม่กล้ารับ

ถ้าต้องการกันไม่ให้คนบางพวกà��€à¸‚้ามา ใช้วิธีกฎหมายทางโลกที่มีอยู่ดีกว่าครับ

เช่นออกกฏหมาย ให้มีลักษฌะที่ทางคณะสงฆ์ ต้องไม่บวชให้ หรือต้องจับสึกอยู่แล้ว

แต่ผมค่อนข้างไม่เห็นด้วยที่เราจะเอาแนวคิดของฆราวาส

หรือวินิจฉัยแบบชาวโลก ไปตัดสินทางธรรม

เพราะบางอย่างก็มีเหตุผลลึกๆ ที่เรามองไม่เห็น คิดไม่ถึง

หรือยังไม่เข้าใจเหตุผลลึกซึ้งพอ แฝงอยู่

ทางธรรม ควรชี้นำทางโลกครับ เราเพียงแต่กัน ไม่ให้ใครไปเผาวัด

หรือ ไปส้องสุมกำลัง กินข้าววัดแล้วเผาเมืองก็พอ

ต้องตัวเราครับ ศึกษา พระธรรมวินัย ศึกษาพระไตร ปีฏก เราจะเห็นเอง แหละ จะได้ไม่ หลง งมงาย กับ พระ ที่ไม่ใช่พระ มีเยอะ นักบวชพวกนี้เขาเรียก พวกลวงโลก ศาสนา อยู่ที่ อภิธรรม ถ้าศาสนาจะเสื่อม อภิธรรมเสื่อมก่อน รีบเข้านะ ศาสนามันเสื่อม มันเบี่ยงเบน ไปทุกศาสนาเมื่อเวลานานเข้า นานเข้า อภิธรรม อะ สำคัญ พ้นจากความเป็นสà¸��ตว์ เป็นชีวิต

http://www.youtube.com/watch?v=ASykY0xOgBc

ผู้มีหน้าที่ดูแลนั่นแหละที่ต้องแก้ไข

กับความคิดที่ว่า"ชั่วช่างชีดีช่างสงฆ์"ก็ควรลบทิ้งไป

ให้การศึกษาที่รู้จักแยกแยะความศรัทธาออกจากความงมงายนี่สำคัญ

ฟังดูก็ดีครับสำหรับหลักสูตรแต่ผมว่าถ้าจะเริ่มทำกันจริงๆจังๆละก็ลองแบบนี้ท่าจะดีเริ่มด้วยข้อบังคับการบวช1.บวชเนื่องมาจากอะไรเช่นบวชแก้บนหรือบวชหน้าไฟหรือบวชเพื่ออุทิศให้บิดามารดาหรือผู้มีพระคุณต้องระบุระยะเวลาในแน่นอนไปเลยว่าไม่ควรอยู่ในผ้าเหลืองกี่วันและไม่ควรเกิน7วัน2.เมื่อได้ที่มาที่ไปในการบวชแล้วผู้ที่ต้องการบวชเพื่อศึกษาพระธรรมหรือคำว่าบวชเรียนก็ต้องมีระยะเวลาเช่นกันตามกำหนดการเล่าเรียนหากไม่สำเร็จต้องลาสิกขาทันทีและหรือถ้าหากสำเร็จแล้วต้องการอยู่ในผ้าเหลืองต่อสิ่งที่ต้องทำคือ(แบบเดียวกันกับที่เขาทำกับขันที)ถ้าไม่สามารถทำได้ก็อยู่ในผ้าเหลืองต่อไม่ได้ครับดีไหม?อันนี้คงต้องรวมไปถึงการเข้าขอบวชเพื่อพุทธศาสนาโดยแท้และไม่สามารถลาสิกขาได้ด้วยกำหนดกฎเกณฑ์ให้ลงลึกไปเลยเพื่อปกป้องและป้องกันความเสื่อมของศาสนาที่อาจเกิดขึ้นโดยผู้ที่อาศัยผ้าเหลืองหากินและเป็นคนทำลาย