มีใครเบื่องานประจำแล้วออกมาทำธุรกิจส่วนตัวบ้าง?

ผมลาออกจากงานประจำ (ผมอยู่บริษัทนี้ 19 ปี 11 เดือน) มาทำธุรกิจส่วนตัว

แต่งานสอนพิเศษทีวิทยาลัยยังทำอยู่ โดยทำ 3 อย่างไปพร้อม ๆ กัน คือ

1. เป็นอาจารยฺ์พิเ��ษที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ สอน 3 วิชา

- หลักสูตร หลักการพูดและการเป็นผู้นำ (30, 60, 75 ชั่วโมง)

- หลักสูตร ศิลปการขายและการครองใจลูกค้า (30, 60, 75 ชั่วโมง)

- หลักสูตร วิทยากรและเทคนิคการสอน (30, 75, 150 ชั่วโมง)

2. เป็นผู้อำนวยการฝึกอบรม "โรงฟักเถ้าแก่" ซึ่งเป็นศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่แตกต่างและหลากหลาย รับจัดสัมมนา เน้นสร้างผู้ประกอบการขนาดเล็ก ฯลฯ

3.. เป็นผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการแพทย์แผนไทย เชียงใหม่

- หลักสูตร วิทยากรสอนนวดไทย 150 ชั่วโมง (นวดไทยเชลยศักดิ์)

- หลักสูตร วิทยากรสอนบำบัดโรค 372 ชั่วโมง (นวดไทยราชสำนัก)

- หลักสูตร แพทย์แผนไทย นวดไทย 800 ชั่วโมง (ใบประกอบโรคศิลป์)

ข้อ 3 ทำรายได้ให้ผมมากที่สุด

ไม่เน้นการเป็นพนักงานนวดไทย

แต่เน้นเป็นนักบำบัดและเป็นครูสอนนวดไทย

ดูผลงานที่ผ่านมาทั้ง 3 ประการ ได้ที่

www.facebook.com/โรงฟักเถ้าแก่

www.เรียนนวดเชียงใหม่.com

ผมเบื่องานประจำมากครับ แต่ไม่คิดจะทำธุรกิจส่วนตัวแล้ว ว่าจะรอเกษียณแล้วพักผ่อน และถึงแม้จะเกษียณก่อนกำหนดก็จะพักผ่อนเลยเช่นกัน

ผมครับ ไม่ชอบเป็นลูกจ้างใคร ทุกวันนี้เป็นเจ้านายตัวเองและลูกน้องตัวเอง

อาชีพก็เกี่ยวกับเกษตรเนี่ยแหละครับ..

ผมเป็นคนนึงครับ แต่ไม่ได้เกิดจากไม่ถูกกับใครนะครับ แค่เบื่องาน และเบื่อความเร่งรีบที่เร่งขึ้นๆ ทุกเดือน เดิมผมเคยทำงานบัญชีครับ ซึ่งโดยลักษณะงานก็เป็นงานที่ต้องเครียด เร่งรีบ และ ก่อศัตรูทั้งในบริษัทและนอกบริษัทไว้เยอะ โดยตัวงานนั้นก็น่าสนุก ถ้าไม่เจอdeadline อันเร่งรีบ จนช่วงปิดบัญชีไม่ต้องเป็นอันได้ใช้ชีวิตส่วนตัวเลย ลืมจ่ายบัตรเครดิตบ้าง โดนทวงงานบ้าง ทำไปแล้วไม่ถูกใจนายก็โดนด่าบ้าง เฮ้อ!!!

แต่พอออกมาแล้วช่วงแรก มีความสุขมากๆ พักผ่อนจนพอใจ แล้วค่อยมาหางานที่เราเป็นเจ้านายของตนเองครับ ตอนนี้ก็เป็นฟรีแลนซ์ทางบัญชี โดยเป็นที่ปรึกษาด้านการวางระบบบ้าง การเข้าไปช่วยงานบัญชีช่วงสั้นๆบ้าง ก็สนุกดี ไม่จำเจ ได้เรียนรู้กิจการอื่นๆที่ต่างจากที่เคยทำมา มากมายด้วยครับ แต่ต้องทำใจกับรายได้ที่หายไป ต้องบริหารรายได้รายจ่ายให้ดีๆ ต้องลดมาตรฐานการครองชีพลงบ้าง และอย่าเที่ยวไปเป็นหนี้โดยไม่จำเป็นด้วย ดีครับอิสระดี นี่คงเป็นความสุขเล็กๆ กับรายได้ที่พอประมาณ และเวลาที่เป็นส่วนตัว ครับ

งานสนุก เพื่อนร่วมงานดี(บางคนครับ) แต่ก็เบื่อเรื่องการเติบโตครับ งานประจำโอกาสสำเร็จ แค่ 5% ผมก็เป็นหนึ่งใน 95% ที่เหลือ ทุกวันนี้แก่แล้วเริ่มมองไม่เห็นอนาคตตัวเอง เป็นลูกจ้างชั้นดี ได้รับรายได้ที่เคยรู้สึกว่าเยอะ แต่จริงๆมันน้อยที่สุดที่นายจ้างพยายามจะให้เรายอมรับ เงินเดือนเริ่มตันพอขึ้นหลักแสนก็ไม่ค่อยขยับแล้วครับ ขึ้นน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ พอเศรษฐกิจไม่ค่อยดีสวัสดิการก็เริ่มโดนตัด อยากหาธุรกิจส่วนตัวทำครับแต่เคยลงทุนทำไปบ้างก็มีกำไรบ้าง เจ๊งบ้างครับ(เจ๊งหนักกว่ากำไรเยอะ) ฝากเงินดอกเบี้ยก็พึ่งพาไม่ได้ ตอนนี้เริ่มหางานเสริมก่อนจะทำอะไร Full time ก็ต้องระวังตัว ใช้จ่ายระมัดระวัง ตัดสินใจดีๆครับ โอกาสมีขอให้รีบคว้าไว้ครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ

งานที่ทำอยู่ดีแล้วอ่ะ

ทุกงาน ทุกที่มีปัญหาหมดแหละ มากน้อยต่างกัน อยู่ที่ใจต้องสู้ค่ะ

มาทำธุรกิจตู้น้ำมันและตู้เติมเงินหยอดเหรียญ

กำลังหาอาชีพเสริมอยู่ใช่ไหม....เพราะอาชีพหลักยังไม่ทำรายได้ให้มากหรือว่ารายได้มากแต่มีปัญหาเรื่องคน เรื่องต้นทุน เรื่องเวลา จิปาถะ....หรือท่านที่มีอาชีพเกษตรกรก็มีความไม่แน่นอนเรื่องดินฟ้าอากาศ....

- ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ธุรกิจที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน ยังไงคนเราก็ต้องใช้น้ำมันในทุกวันในการใช้ชีวิตเดินทาง มีตู้ไว้สำหรับทำธุรกิจยังไงก็ขายน้ำมันได้...

- ตู้เติมเงินมือถือ อีกธุรกิจที่ทุกคนต้องใช้มือถือและต้องเติมเงิน และเป็นธุรกิจที่สร้างยอดขายให้กับเจ้าของตู้มากที่สุดในธุรกิจหยอดเหรียญ ทั้งหมด

แต่ทุกคนก็ทำธุรกิจแบบนี่ได้ทั้งนั้น แต่ความแตกต่างในตัวสินค้าจะต้องดีกว่าคู่แข่งถึงจะมีลูกค้ามาใช้บริการ ซึ่งสินค้าของเราทำได้...

สำหรับรายละเอียดที่มากกว่านี้ติดต่อมาที่เบอร์....

T. 084 3508437(AIS) 084 5106240(DTAC) Email: tsthai@gmail.com

Click ดูรูปภาพสินค้าตามข้างล่าง....

http://i285.photobucket.com/albums/ll50/water_tors...

ผมครับออกมาทำธุรกิจส่วนตัวได้ประมาณ8ปีแล้ว ซึ่งไม่ได้เบื่องาน

อะไรมากหรอกครับ แต่ที่คิดไว้ตั้งแต่เรียนจบว่า จะมีธุรกิจเป็นของ

ตัวเอง

เพราะในหลายครั้งได้เคยสอบถามเพื่อนร่วมงานหรือเด็กจบใหม่

ว่าทำไมไม่ออกมาทำงานเป็นของตัวเองตั้งแต่แรกจบ เขาจะมีคำตอบ

ว่าไม่มีทุน และไม่มีประสบการณ์ แต่พอทำงานไปได้ในระยะนึง เริ่มมีทุน

เริ่มมีประสบการณ์ ก็ไม่ค่อยเห็นใครอยากจะออกจากการทำงานนั้น และยัง

คงอ้างว่า ทุนยังไม่มี ประสบการณ์ยังไม่พอ เหมือนเดิมกับตอนที่จบมา

วันนึงด้วยความกล้าและบ้าบิ่น ที่จะตัดสินใจออกจากงานมาเพื่อทำ

ธุรกิจ โดยละทิ้งเงินเดือนร่วมแสน แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด และมีความ

แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีวงที่มีขีดความ

รับผิดชอบที่จำกัด ตามตำแหน่งที่ได้รับ จากวันนั้นถึงวันนี้ใช้คำว่าล้มลุกคลุก

คลานมาโดยตลอด บางวันมีเงินติดกระเป๋า เรือนหมื่นแต่บางเดือนเหลือเงิน

ติดกระเป๋าหลักร้อย และบางเดือนต้องของยืมญาติพี่น้องกันให้วุ่นวาย

ไงการเบื่อหัวหน้างาน การเหม็นขี้หน้าเพื่อน ผมเองกลับมองว่าไม่ได้เป็น

แรงบันดาลใจ ที่ตะทำให้คุณตัดสินใจออกจากงานมา ส่วนตัวมองว่าคุณ

พร้อมหรือไม่กับสิ่งที่คุณอยากจะทำมากกว่า เพราะงานในโลกของความ

เป็นจริง ที่ดูแล้วโหดร้ายกว่าสิ่งที่คุณคิดเยอะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ

ลูกค้าที่มีหลากหลาย เรื่องของเงินทองและสภาพคล่องต่างๆที่คอยบีบรัด

คุณ และรวมถึงภาระที่คุณเองมีอยู่เป็นทุนเดิม

การออกจากงาน ผมแนะนำว่าคุณควรเตรียมความพร้อมให้ดีก่อนที่จะเดิน

ทางออกมาจากจุดนั้น เพราะอย่างน้อยคุณเองสามารถสร้างความมั่นใจในงาน

และสามารถที่เป็นแรงบันดาลใจใมห้คุณประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้นนั่นเอง