อะไรๆที่เป็นอยู่ตอนนี้ ท่านผู้เจริญทางความคิด คิดว่าอนาคตบ้านเราจะออกไปทางไหนในความรู้สึกของแต่ละท่าน ครับผม?

คงตอบว่าคุณมาทางไหนก็ไปทางนั้น เพราะตอนนี้บ้านเราเปรียบเหมือนเส้นปะ โดยในแนวคิดครั้งแรกที่จดปากกาจะขีดเส้นให้เสมอกันเรียบโดยตลอด พอเกิดเส้นปะขึ้นก็โทษปากกาบ้าง กระดาษบ้าง ที่รองขีดบ้าง โต๊ะที่ไว้ยืนขีดบ้าง เก้าอี้นั่งไม่ดีบ้าง แต่ไม่เคยคิดที่จะหันมามองคนขีดเส้นบ้างว่าสมบูรณ์ หรือพิการ ดังนั้นบ้านเราถึงได้ไปไม่ถึงไหนคอยแต่ขีดจะเริ่มขีดเส้นใหม่ๆ ไม่เคยกลับไปที่คนก่อนหน้านี้เขาขีดไว้อย่างไรแล้วใช้ความคิดไปขีดเส้นให้มันเต็มเส้น เพื่อแก้ไขใหมันดีขึ้น ครับ

ก็เป็นยังนี้แหล่ะ

มีรัฐบาล มีคอรัปชั่น มีการเอื้อกันทางธุรกิจ น้ำมันขึ้นราคา ข้าวราคาตกประกันราคาข้าว น้ำขาดà��•à¸¥à¸²à¸” ปรับขึ้นราคาสินค้า มีการชุมนุม มีการปฏิวัติ มีการตั้งรัฐบาล.... แล้วมันก็go on

ใครมันจะอะไรก็เสียภาษี กินข้าวสามมื้อ ไม่ฉะบายก็ไปหาหมอกินยา

ไม่เห็นมีไรในชีวิตที่เปลี่ยนแปลง

ไม่เซ็ง ไม่บ่น ไม่ตื่นข่าว ไม่สู้ ไม่เลือกข้าง

ก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมอย่างมีความสุขไม่ทุกข์ไม่ร้อน ค่ะ

อะไรๆก็คงยุ่งเหยิงต่อไป เพราะแต่ละฝ่ายก็มีแต่คิดว่าตัวเองดี ตัวเองถูก ฝ่ายตรงข้ามเป็นคนไม่ดี เป็นคนผิด แต่ก็ไม่ต่อสู้ตามแบบอย่างประชาธิปไตย ในระบบรัฐสภา แล้วก็อ้างว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา ทำเหมือนกับว่าทุกคนคือคนโง่ ถูกหลอกโดยนัการเมือง ส่วนตนเองและพวกพ้องคือคนฉลาด และรักชาติบ้านเมืองมากที่สุด คนอื่นไม่ได้รักชาติบ้านเมืองจริง แล้วยังงี้สังคมบ้านเมืองมันจะสงบสุขได้ยังไรละครับ เมื่อฝ่ายหนึ่งมีอำนาจอีกฝ่ายก็ไปต่อสู้นอกสภา สลับกันไปสลับกันมา แล้ว��¸„วามวุ่นวายจะหมดไปได้อย่างไร ผมว่าใครใคร่ชุมนุมประท้วงก็ทำไป แต่คุณต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือนร้อน ถ้าผู้ชุมนุมมีจำนวนมากเป็นหมื่นเป็นแสน ชาวบ้านอาจต้องเดือนร้อนบ้าง แต่ไม่ใช่จะเท่าไรไม่รู้ ไม่สนใจว่าชาวบ้านเขาเดือนร้อนหรือไม่ ผมว่าถ้าทุกฝ่ายต่อสู้กันในระบบรัฐสภา ความวุ่นวายมันก็น่าจะลดน้อยลงไปอีกเยอะ

เมืื่อข้อมูลความจริงโผล่ออกมาเรื่อยๆ

ประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นพลังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเองเพราะแผ่นดินเกิดแห่งนี้คนไทยทุกคนล้วนเป็นเจ้าของ

หากไม่รักบ้านตัวเองและยอมรับกับการเข้ามาบุกรุกของผู้อื่่นบ้านนี้จะเป็นสุขได้ยังไง

ระหว่างนี้เพียงระวังอย่าให้มีมือที่3หลอกล่อให้เกิดม้อปชนม้อปเพื่อพราง,ปกปิดสิ่งที่ผิดพลาดของฝ่ายตนก็แล้วกัน

ก็ยังคงประเทศกำลังพัฒนาดังหลายปีที่ผ่านมา

และจะล้าหลังลงไปเรื่อยๆเพราะ.เรามัวแต่รักตัวเองกมากกว่า ผืนแผ่นดิน

คงเป็นประเทศ อันดับบ๊วยที่สุด ในกลุ่ม อาเซียนด้วยกันมั๊ง

ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คิดว่าสาเหตุสำคัญมาจากกระบวนการพัฒนาของโลก ในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ การรับมา การถ่ายทอดมีความแพร่หลายรวดเร็ว เข้าถึงมวลมนุษยชาติได้เร็ว และเป็นวงกว้าง แนวโน้มต่างๆ เหล่านี้จะสร้างระบบสังคมของมนุษยชาติใหม่ เช่นมีการรวมกลุ่มจากเดิมจะใหญ่ขึ้น วัฒนธรรมดั้งเดิม จะค่อยๆ สูญสลาย กลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ที่ผสานเข้าด้วยกัน และจนถึงที่สุดจะกลายเป็นวัฒนธรรมของโลก อันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สำหรับในส่วนของอนาคตบ้านเราจะออกไปทางไหน คงไม่มีทางออก คงต้องยอมรับการเปลียนแปลงเหล่านี้ ซึ่งมีอยู่แล้ว และมีอยู่จริง ช่วงระหว่างเปลี่ยนผ่านนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสังคมปัจจุบันนี้ จะมีความคล้ายๆ กันและแผ่ขยายไปเป็นวงกว้าง เราก็คงต้องปรับตัว ปรับสภาพไปตามกระแสเหล่านี้ เป็นการระเบิดออกมาจากข้างใน และจะกระจายเป็นวงกว้างที่เร็วมากครับ เราทำได้เพียงดู ติดตาม ปรับเปลี่ยน เท่าทัน ระแวดระวัง ทำความเข้าใจ เท่านั้นครับ ก็จะอยู่ได้ ผมคิดอย่างนี้นะครับ โดยส่วนตัวของผม ขอบคุณครับ

ขอให้กลุ่มพลังบวกร่วมกันทำเรื่องดีๆ เยอะๆ และขยายกลุ่มออกไป

ส่งพลังดี ออกไปลบล้างพลังด้านลบทีละน้อยๆ

ส่วนระดับปัจเจค ใครทำอะไรดีๆได้ก็ให้ลงมือเลย

ส่วนด้านไม่ดี ก้ค่อยๆลดเลิกทีละน้อยๆ

เริ่มจากส่วนตัว ครอบครัว และขยายไปสังคม

สังคมจะรอดครับ

(ใช้เครื่องหมาย "ๆ" เยอะไปหน่อย ขออภัยครับ)

มืดมิดครับ เพราะยังแข่งแย้งชิงดีกันทุกย่อมหญ้า

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึน ต้องส่งผ่านบ้านเมืองสู่คนรุ่นต่อไปให้ได้

เท่านั้นเอง ก็หมดหน้าที่ของคนรุ่นเราแล้วล่ะนะ