Yahoo Answers is shutting down on May 4th, 2021 (Eastern Time) and beginning April 20th, 2021 (Eastern Time) the Yahoo Answers website will be in read-only mode. There will be no changes to other Yahoo properties or services, or your Yahoo account. You can find more information about the Yahoo Answers shutdown and how to download your data on this help page.

อำนาจการต่อรองถึงสู้เขาไม่ได้?

มีข้อกังขาอยู่ในใจมานานแล้ว ทำไม่น้ำมันถึงขึ้นราคาได้ขึ้นราคาดีทั้งๆ ที่เมื่อเทียบกับข้าว ที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิตข��งมนุษย์มากกว่า (ถ้าขาดน้ำมันยังไม่ตาย แต่ถ้าขาดข้าวต้องตายแน่) ไม่ว่าชาติใดก็ตามจะเป็นฝรั่งกินขนมปังก็ทำมาจากแป้ง แขกกินโลตีก็ทำมาจากแป้ง ข้าวกลับมีราคาต่ำลงๆ เหตุที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะกลุ่มตะวันออกกลางมีการรวมตัวกันในรูปของโอเปกหรือเปล่า

6 Answers

Rating
  • 1 decade ago
    Favorite Answer

    ผมว่าใช่นะ

    การรวมตัวของประเทศเกษตรกรรม ไม่สู้จะเข้มแข็งเหมือนกับกลุ่มประเทศที่พัฒนาจากชนเผ่าเร่ร่อน

    หากเราสังเกตุจากประวัติศาสตร์ เราจะเห็นว่าชาติตะวันตกที่เราเรียกว่าฝรั่ง แต่ละประเทศมีการพััฒนามาจากชนเผ่าเร่ร่อนสมัย บาบาเรียน ไม่ว่าจะเป็น พวก เคลติค นอร์ดิก กอธฯลฯ ซึ่งชนเหล่านี้จะเข้ารบราฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงแหล่งอาการกิน

    แม้แต่พวกทะเลทราย ก็มีกลุ่มเบดูอินเผ่าต่างๆ รบรา แย่งชิงพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์กัน

    ประเทศที่เกิดจากกลุ่มชนพวกนี้จึงต้องรวมกลุ่มกัน เพื่อความเข้มแข็ง สร้างอำนาจในการต่อรอง

    และสังเกตุถึงศาสนา จะเห็นได้ชัดว่า ศาสนาของพวกเขามุ่งเน้นการร้อยรัดสังคมให้เป็นหนื่งเดียว พร้อมกันนั้นก็พยายามขยายความเชื่อไปสู่สังคมศาสนาอื่น ด้วจุดประสงค์เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ โดยใช้ความเชื่อ องค์เดียวกันเป็นตัวประสานร้อยรัด

    ในขณะที่สังคมเกษตรกรรม เป็นสังคมต่างคนต่างอยู่ บ้านใครบ้านมัน อยู่กันอย่างสบายๆ เพราะอาหารการกินเหลือเฟือ สังคมที่สมบูรณ์สุขแบบนี้ มีไม่มากนักในโลกนี้ และนับวันจะถูกรุกจากสังคมแบบแรกมากขึ้น ตามการพัฒนาเทคโนโลยี การคมนาคมขนส่ง ที่ทำให้โลกกว้างหดแคบลง การแย่งชิงอาหารและการผลิต ไม่ได้ใช้การรุกรานด้วยกำลัง แต่กลับเป็นการเบียดลึก โดยการสร้างสิ่งอำนวยสุขต่างๆเพื่อให้ผู้บริโภคเสพย์ติด เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า รถยนต์ เป็นต้น สงครามเหมือนไม่มีสงครามแบบนี้เรียกว่าสงครามเศรษฐกิจ ไม่ได้ฆ่าฟันชีวิตให้ล้มตาย

    แต่ทำให้จิตวิญญานบาดเจ็บ สูญเสีย พร้อมกับการเจ็บป่วยทางกายอันเนื่องมาจากการใช้ชีวิต กิน อยู่ ที่ผิดธรรมชาติ

    ศาสนาของสังคมเกษตรดั้งเดิมไม่มุ่งเน้นการรวมกลุ่ม แต่ จะสอนให้ทุกคนแสวงหาความเป็นปัจเจก และสอนให้หลุดพ้นโดยการไม่ยุ่งเกี่ยวกับสังคม และเสนอการป้องกันสังคมปั่นป่วน ด้วยการไม่ทำร้ายกัน และสอนให้ระงับเหตุแห่งการทำร้ายสังคมนั้นด้วยการไม่รังแกกัน กลอกลวงกัน และให้กำจัดสิ่งยั่วยุ อันทำให้สังคมมัวเมาเช่นการผิดลูกเมีย การโกหก การดื่ม และการฆ่า เสีย

    จึงสังเกตุได้ว่า สังคมชนเผ่าเป็นสังคมเชิงรุกเป็นพวกวัฒนธรรมแข็ง เหมาะกับพวกเร่ร่อน

    ในขณะที่สังคมเกษตรเป็น พวกวัฒนธรรมอ่อน ไม่มีนิสัยเชิงรุก จะสู้ต่อเมื่อมีภัยมาถึงตัว พวกเกษตรจึงดูเหมือนอ่อนแอ และไม่รู้จักในการสร้างอำนาจต่อรอง และไม่ถูกสอนให้ใจแข็งเมื่อเห็นชีวิตอื่นทุกข์ยาก

    มันมีวิธีแก้ไขอยู่ คุณเห็นมันไหม? แต่นั่นแหละ เราอาจต้องสูญเสียจิตวิญญานบางอย่างไป

    จิตวิญญานแห่งความปราณี! และอาจต้องใช้ชีวิตแบบสังคมชนเผ่า ที่สูญเสียความเป็นปัจเจก แต่คุณจะได้จิตสาธารณะมาแทน

    คุณจะกล้าแลกไหม?

  • ส่วนตัวมองเหรื่องดังกล่าวเป็นหลักการพื้นฐานทางด้านเศรษฐศาสตร์ที่หลายๆคน

    เคยเรียนผ่านกันมาบ้าง ในเรื่องของการจัดแบ่งตลาดของสินค้าแต่ละประเภท ซึ่ง

    ข้าวเองเขาเรียกว่า ตลาดแข่งขันอย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะหมายถึงการที่ใครๆบนโลก

    ใบนี้ก็สามารถจะà��›à¸¥à¸¹à¸à¸‚้าวกันได้ รวมถึงเมื่อข้าวมีปริมาณที่มากขึ้นกระจายตัวไปทั่ว

    ก็จะนำไปสู่การเจรจาต่อรองที่ลดลงเนื่องจากอำนาจของการซื้อ จะอยู่ที่ผู้ซื้อที่

    สามารถที่จะสวิชท์ชิ่งไปซื้อรายใà��”รายนึงก็ได้ เพราะข้าวที่ไหนก็มีลักษณะแบบ

    เดียวกัน

    หากหันกลับมามองน้ำมันจะเป็นตลาดอีกประเภทนึงที่เรียกว่า ตลาดแข่งขันน้อย

    ราย คือมีผู้ที่มีน้ำมันครอบครองบนโลกใบนี้ จะไม่ได้มีน้ำมันไปซะทุกประเทศ

    ดังนั้นประเทศที่เขามีน้ำมัน เขาก็รวมตัวกันจับกลุ่มเพื่อกำหนดราคา ซึ่งต่อให้เกิด

    การสวิชท์ชิ่งไปที่ผู้ค้าอีกรายนึงก็ตาม แต่ด้วยราคาที่กำหนดขึ้นเป็นการรวมตัวกัน

    ทำให้เกิดอำนาจในการขายมากกว่าอำนาจในการซื้อ ซึ่งไม่ผิดปรกติแต่อย่างใด

    ในระบบเศรษฐศาสตร์นั่นเอง

    Source(s): ป๋าไก่ สมาร์ทตี้-จี
  • 1 decade ago

    ผมมองดูว่าการรวมตัวของประเทศผู้ค้าข้าวทำได้ยากเพราะสินค้าทางการเกษตรไม่ได้ปลูกได้เฉพาะโซนเอเชียแต่ทางทวีปอื่นก็เพาะปลูกได้ แต่ทางโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เปรียบก็ตรงไม่มีฤดูหนาวจนหิมะตกเพาะปลูกได้ทุกฤดู แต่เราควรกลับมาคิดตามแนวทางพ่อสอนคือสามารถยื่นอยู่บนสองขาของเราเองให้ได้ เช่น น้ำมันจะถูกจะแพงช่างมันเพราะเราปลูกพืชที่เอามาทำ ไบโอดีเซล ได้ 100 % เครื่องจักรหรือรถยนต์ที่มีในบ้านเราถูกออกแบบมาให้ใช้เชื้อเพลิงจาก น้ำมัน แต่เรามาโมดิฟาย ติดแก๊ส,ผสมไบโอดีเซล ทำไมเราไม่ออกแบบเครื่องยนต์ที่เกิดมาเพื่อใช้ไบโอดีเซล 100 %โดยเฉพาะ เวลาเครื่องยนต์มีปัญหาจะได้เลิกโทษแก๊ส,B-5 ซะที ถ้าทำได้โอเปคมันจะขายลิตรละ 100 ก็เรื่องของมัน แต่ฉันขายข้าวขอขึ้นตามราคาน้ำมันแก่นะ เหมือนร้านข้าวแกงเวลาน้ำมันแพงมักจะขอขึ้นๆ ที 5 บาท ไม่เคยเลยที่จะขึ้นทีละ บาท 2 บาท เวลาน้ำมันขึ้นๆที่ละ 50 สตางค์แต่แม่ค้าขึ้นที 5 บาทสงสัยขี้เกียจหาเศษเหรียญทอนมั้ง แต่ผมก็หมดหวังกับผู้ที่ขึ้นมาบริหารประเทศแต่ละคนแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆห่วงแต่หาเสียงเอาใจเกษตรกร ใช่วิธีประกันราคา ลำใย,ข้าว,มันสัมปหลัง,ข้าวโพด แทนที่วิ่งหาตลาดหรือมองแนวโน้มสินค้าทางการเกษตรตัวไหนที่มีอนาคตจะราคาดี แล้วแบ่งโซนการปลูก แต่ทุกวันนี้อะไรกัน ข้าวปลูกกันทุกภาคของประเทศ บางภาคขาดแคลนน้ำใช้ก็ปลูกทั้งๆที่รู้ เพราะอะไรเพราะเขาไม่รู้ว่าจะเพาะปลูกอะไรงัยเคยทำกันตั้งแต่รุ่นพ่อ นาล้มเดี๋ยวรัฐบาลก็จ่ายไม่ต้องคิดมาก โทษเขาก็ไม่ถูกเพราะรัฐไม่เคยที่จะทำให้การเกษตรในบ้านเรายั่งยื่น ถ้าแบ่งโซนแต่ละภาคว่าเหมาะกับการเพาะปลูกอะไร ภาคใต้ฝนตกตลอดและมีแค่หน้าร้อนกับหน้าฝน ดันปลูกยางเวลาฝนตกทีตัดยางไม่ได้อีกที่กรีดไปแล้วพอเจอฝนก็กลายป็นขี้ยางขายราคาถูก ภาคอีสานแห้งแล้งขาดน้ำแทนที่จะส่งเสริมการปลูกยางเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว กับปลูกข้าวแล้วจะเอาน้ำที่ไหนละเจ้านาย ไม่อยากเสียคะแนนก็ต้องรีบอุ้มรีบรับซื้อให้แพงกว่าความเป็นจริงเดียวสมัยหนà¹��าเขาไม่เลือก กู้เงินจากต่างประเทศเอามาอุ้มสินค้าเกษตรของตัวเอง แล้วจะไปขายได้กำไรตรงไหน เอาแค่ตังเองผลิตปาล์มน้ำมันแต่คนในชาติตบตีกันแย่งซื้อน้ำมันพืชผมก็หมดศรัทราแล้วแต่ยังดันทุรังอยู่หน้าด้านๆสำรอกทุกวันว่าประชาชนรักตัวเองต้องการให้ตัวเองแก้ปัญหา เปิดโอกาสให้คนต่อไปโชว์ฝรีมือเถอะลงได้แล้ว

  • Anonymous
    1 decade ago

    ...ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่า " อำนาจ "

    อำนาจ..การต่อรองไอ้อำนาจตรงนี้แหละครับที่เกษตรกรไม่มีอยู่ในมือ

    เพราะอำนาจที่แท้จริงมันคือ.." เงิน " ครับ มีบางคนบอกว่าเงินเป็นสิ่งสมมุติ

    แต่ผมถามว่า..ชาวนาไม่มีเงินทุน จะทำนาต้องไปขอยืมเงินนายทุนมาก่อนแล้วก็ถูกหักดอกเบี้ย

    ถูกหักค่าใช้จ่ายต่างๆซื้อปุ๋ยก็แพงซื้อยาก็แพงจ้างรถไถนาก็แพงจ้างรถเกี่ยวข้าวก็แพง

    เพราะทุกอย่างต้องอาศัยทุนเท่านั้น คนจนไม่มีทุนทุกอย่างซื้อแพงกว่าปกติหมด

    ...ถามว่ายังไม่ทันเก็บเกี่ยวเลยครับแต่รู้ตัวแล้วว่าเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วก็ต้องเป็นหนี้ต่อไป

    แล้วอย่างนี้จะเอาอำนาจอะไรที่ใหนไปต่อรองกับคนอื่นๆได้โดยเฉพาะนายทุนเช่นโรงสี

    ร้านขายปุ๋ยขายยาต่างๆเหล่านี้ แต่ที่ชาวนาต้องทนทำนาเพราะไม่รู้à¸��ะทำอะไรครับ

    ความรู้ก็ไม่มี ทุนก็ไม่มี อุปกรณ์ก็ไม่มีเพราะวัวควายก็ไม่เลี้ยงแล้ว

    สุดท้ายก็เป็นหนี้ตั่งแต่รุ่นปู่จนตกมาถึงหลานเหลนเลยนะครับพี่น้องครับ.....!!!

  • How do you think about the answers? You can sign in to vote the answer.
  • stan
    Lv 4
    1 decade ago

    ต้องยอมรับว่าอาชีพทำนาเป็นอาชีพที่เหนื่อยยากพอควร ถ้าคิดจะทำงานแบบสบายอย่าไปมีอาชีพทำนา ทุกวันนี้สังคมพยายามสร้างภาพให้การยกย่องคนทีมีอาชีพทำนา ว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ช่วยทำให้ชาติบ้านเมืองมีการเป็นอยู่ที่ไม่อดอยากแร้นแค้น แต่คนที่มีอาชีพทำนากลับต้องอดอยากแร้นแค้นแทน

    กลไกการช่วยเหลือของรัฐ ไม่ว่ากระทรวงเกษตร กระทรวงพาณิชย์ ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือชาวนาได้จริง หากคิดจะช่วยเหลือชาวนาจริง รัฐคงต้องปฏิวัติระบบตลาดข้าวใหม่ ให้ชาวนาได้รับผลตอบแทนมากกว่าพ่อค้าคนกลางให้ได้ ถ้าจำเป็นต้องตั้งกระทรวงโรงสีของรัฐก็ทำไปเลย(ผมว่าเท่ดี มีประเทศไหนเขาทำหรือเปล่าก็ไม่รู้) ส่งเสริมอาชีพทำนาให้เป็นอาชีพเอกลักษณ์ของประเทศไปเลย หรือให้รัฐร่วมหุ้นกับชาวนา แล้วแบ่งผลประโยชน์กัน ฝ่ายหนึ่งลงทุนฝ่ายหนึ่งลงแรง อาจจะทำให้เปลืองงบประมาณน้อยลงกว่าปัจจุบันนี้ก็ได้ ใครจะรู้ ถ้าไม่ลองทำดูก่อน

  • Anonymous
    1 decade ago

    การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งในอดีต ปัจจุบัน ทำได้ยากเพราะแก้ได้แต่กลุ่มคนอีกกลุ่มนึงเสียประโยชน์ เป็นเยี่ยงนี้ตลอด เป็นเพราะรัฐบาลไม่มีเอกภาพ ผมช่วยคุณๆช่วยผม อยากถามผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย การตรวจสอบการถือหุ้น ประกอบธุรกิจการค้า ห้างร้าน ของรัฐมนตรีก่อนเข้ารับตำแหน่งยังทำการตรวจสอบอย่างจริงจังหรือเปล่า

    การรวมกลุ่มชาวนานั้นมีอยู่แต่อำนาจนั้นมีหรือ?ไม่รู้ การประกันราคาข้าวอาจน้อยไปแต่ปัญหาไม่อยู่แค่นั้น เรามองข้ามโรงสีไปเป่า เอาข้าวไปขายก็ตัดกระจาย ข้าวชื้นบ้างล่ะ น้ำหนักบ้��¸²à¸‡à¸¥à¹ˆà¸°à¸¯ บ้างคนไม่มีทุนเชื่อปุ๋ย ยา พันธุ์ข้าวโรงสี เกี่ยวได้กลับไปขายโดนหักอีก เป็นหนี้โรงสีต้องเอาโฉนดค้ำประกัน ไม่มีคืนก็ถูกยึด จบข่าว เอวังก็มีประการะเท่านี้ สู้ๆนะค่ะชาวนาทั้งหลาย

Still have questions? Get your answers by asking now.