ทำไมคุณพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ คิดคำๆนั้นประโยคนั้นไม่ออก ทั้งๆที่คุณเรียนมาเป็นสิบปี?

เพราะว่าบางทีเราอาจจะเป็นคนขึ้ลืมก็อาจจะเป็นไปได้

วิธีแก้ก็คือ หากระดาษเอาไว้จดประโยคที่เรา

ต้องใช้ ดิฉันว่าวิธีนี้จะช่วยเราได้มากเหมือนกันนะคะ

หรือจะจดใส่สมุดเล่มเล็กๆ

เอาไว้เลยก็ได้พกพาสะดวก

สามารถเอาออกมาท่องได้ทุกเวลาที่เราว่างๆ

ถ้าหากว่าคุณต้องการที่จะศึกษาภาษาอังกฤษเพิ่มเติมล่ะก็ ดิฉันอยากแนะนำ

บล็อกๆ นึง เขามีความรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษให้เราได้ศึกษามากมาย เลยล่ะค่ะ

http://english-for-thais.blogspot.com/

ด้านล่างนี้เอามาฝากค่ะเผื่อสนใจจะได้โหลดมาเก็บไว้

"เว็บสอนภาษาอังกฤษที่คนนิยมมากที่สุดในโลก"

เว็บนี้ค่ะ http://www.eslcafe.com/ เขาอ้างว่าเว็บของเขาเป็น "เว็บสอนภาษาอังกฤษที่คนนิยมมากที่สุดในโลก" หรือ the most popular ESL website in the world! เจ้าของเว็บ ชื่อ Dave เป็นฝรั่งที่ไปทำมาหากินเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่ประเทศญี่ปุ่น

และประเทศไทยอยู่นานกว่า 10 ปี

ดาวน์โหลดนวนิยายระดับโลก ของ James Clavell

http://en.wikipedia.org/wiki/James_Clavell

เว็บเรียนภาษาอังกฤษคุณภาพดี ที่สนุกมาก

http://www.esclub.gr/default_main.asp?rr=38188389

โชคดีนะคะ (^_^)

เอาสิบปีที่ว่านั้นโยนทิ้งไป จะร้องห้ายให้กับมันสักนิดหน่อยพอเป็นพิธีก็ยังได้ แล้วเริ่มกันใหม่ วันนี้เลย ต้องเรียนพูดก่อน เลือกสำเนียงว่าจะเป็นอังกฤษหรืออเมริกัน อย่ามั่ว สำเนียงนั้นต่อไปในภายภาคหน้าจะเป็นแม่เรา เขาเรียกว่าลิ้นแม่ไง ถ้าชอบพุดคำอยาบเป็นชีวิตจิตใจให้ไปเช่าหนังฮอลลี่วูดมาดู จดคำที่ชอบไว้ เช่นบิช บัสเทิด แจคแอส ทำนองนั้น แล้วออกเสียงให้เหมือนที่สุดแบบไม่เห็นตัวนึกว่าฝรั่งมาเองเลย จากนั้นเครื่องก็จะติดเอง หลังจากเครื่องติดแล้วขอร้องอย่างหนึ่งอย่าเที่ยวไปเดินเฮลโล่กับฝรั่งตามถนนที่เขากำลังมีภาระกิจของเขาอยู่ เราอาจจะคิดแค่ฝึกภาษา แต่ในสายตาฝรั่งอย่างผมมันลำคาญและเสียมารยาทแบบสุดๆ น่ะครับ

เราคิดว่าเป็นเพราะคุณไม่ประทับใจการสอน และไม่ได้ใช้มันค่ะ เราเบื่อวิชานี้มาก จนมาเจออาจารย์ท่านนึง ไม่เคยเปิดตำราสอน เริ่มจากเอาเพลงอิมแมจินของจอห์น เลนนอนมาให้แปล แล้วก็à��•à¸²à¸¡à¸”้วยเพลงที่เราชอบๆทั้งนั้น มีความสุขที่รู้ความหมายเพลงโปรด นร.สนใจเรียนมากขึ้น หลังๆท่านเอาข่าวก็อสสิบของดาราประเภทใครแฟนใคร ใครแย่งแฟนใคร ใครเกาเหลากับใครมาให้แปล ห้องเรียนมีสีสันขึ้นทันตา คะแนนโดยรวมของนักเรียนดีขึ้น

ส่วนเรื่องใช้นี่ก็สำคัญ ถ้าเรียนแล้วไม่ใช้มันก็ไปหมด แล้วต้องใช้กับเจ้าของภาษา เรียนกับครูคนไทยได้คะแนนดีแต่พูดกับฝรั่งไม่รู้เรื่องประจำ ยกตัวอย่างเช่น เราเคยไปเหมาทำรั้วที่เกาะลันตา ครูสอนคำว่ารั้วคือ เฟ้นซ์ คุยกันตั้งนานก็ไม่เข้าใจกว่าจะรู้เรื่องได้ เขาว่า เฟ่นซ์ ครูคนไทยที่สอนสำเนียงให้เราไม่ถูก ทำให้ฝรั่งรู้สึกกับเราไม่ต่างจากพม่าพูดไทย เขินก็เขิน ขำก็ขำ ทุกวันนี้อาจารย์สอนภาษาอังกฤษรร.นึงในจ.ภูเก็ต ยังเรียกตัวแอล ว่าตัวแอน แล้วเด็กจะเป็นยังไงคิดเอา สำเนียงเราไปดีขึ้นตอนอยู่พัทยา แล้วต่อด้วยป่าตอง ค่อยเหมือนพม่าพูดไทยชัดขึ้นมาหน่อย ยืนยันได้ว่าภาษาอังกฤษจะ ดีเมื่อได้ใช้ และครูต้องสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กอยากเรียน

ตอบ

การเรียนภาษาอังกฤษ ในเมืองไทย ส่วนมาก เรียนอ่าน, เขียน, Grammar ไม่มีการเรียนพูด ตรงๆ

คุณก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เรียนที่เรียนผิดวิธี คุณไม่ได้เรียนวิธีการพูดสดๆ และข้อมูลในการพูดก็ไม่มี

ในเมื่อไม่มี Input ฉะนั้นเลยไม่มี Output ฉะนั้นผลออกมาก็พูดไม่ได้ เรียนเป็นสิบปีก็พูดไม่ได้

ฉันเองก็มีปัญหาแบบเดียวกับคุณคือจบปริญญามาก็พูดไม่ได้ ฉันหาที่เรียนอยู่นาน เรียนและก็ผิดหวังมาหลายครั้ง

โชคดีเพื่อนแนะนำมาว่าเขาเรียนแล้วได้ผล ฉันเลยไปทดลองฟรี 1 ชม แรกก็กลัวว่าจะไม่ได้ผล แต่พอเรียนจริง ๆ แล้วได้ผลค่ะในกลุ่ม ห้าคน ถาม-ตอบ ตลอด 2 ชม วนไปรอบๆ สนุกดี เขาใช้วิธี Psycho Feedback ช่วยในการพูด ลองเปิด www.aceinenglish.com :ซีค่ะ

แอนน์

เพราะว่า เราขาดความเชื่อมั่นค่ะ เมื่อเราขาดความเชื่อมัน เราก็จะคิดแต่ว่า เอ๋ จะพูดถึงมั๊ยน๊อ...ใช้ gramma ถูกเปล่า แต่จิง ๆ แร้วพูดไปเถอะค่ะ เพราะพูดผิดพูดถูกเด๋วเค้าก็แก้กลับมาเอง เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ตอนนี้พอพูดได้บ้างแร้วล่ะค่ะ ^^

ต้องนึกอย่างนี้นะ ทำไมผู้หญิงที่พัทยาหรือตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆสื่อสารกับฝรั่งรู้เรื่อง ภาษาพูดไม่เหมือนภาษาเขียนถ้าคุยกันรู้เรื่องก็ OK มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง ฝรั่งถามว่า how is your home คนตอบเข้าใจคำถามแต่ไม่รู้จะตอบอย่างไรเพราะที่บ้านฝนกำลังตก คำตอบที่ฝรั่งได้รับคือ my home is water แมะ! แมะ!

เออ !ฝรั่งเข้าใจนะ อีกเรื่องมีเพื่อนไปอยู่อเมริกาหลายปีมาทำงานอยู่ด้วยกันเข้าใจว่าการไปอยู่ที่อเมริกาภาษาพูดคงดีแน่นอนแต่เปล่าเลย เค้าบอกว่าไปอยู่ในย่านคนไทยเà��¥à¸¢à¹„ม่ค่อยใช้ภาษาอังกฤษ เออ! ฟังแล้วก็เข้าใจ มันอยู่ที่ความตั้งใจมันมีหลายรูปแบบที่จะศึกษาลองหาวิธีที่เราถนัด

ก็เพราะว่าขาดการฝึกฝน พูดง่ายๆก็คือคนไทยได้แต่เรียน เรียน เรียน ภาคทฤษฎีเท่านั้น เรียนตั้งแต่เกิดจนตายก็ยังฟังไม่รู้เรื่อง พูดไม่ออก เจอฝรั่งทีก็กลัวหัวหดกันหมด อะไรก็แล้วแต่หากเรียนแล้วขาดการทำแบบฝึกหัดหรือขาดการฝึกฝนแล้วละก็ ไม่มีทางสำเร็จ คนหลายคนไม่เคยมีใครต้องสอนแต่เขาก็ประสบความสำเร็จเพราะเขาได้ฝึกฝนและปฏิบัติจริงๆ (ศึกษาด้วยตัวเอง)

เรียนมาเป็นสิบปี ไม่ค่อยได้ใช้ ส่งคืนอาจารย์หมดแล้ว แต่ถ้าใช้บ่อย ๆ เดี๋ยวก็คล่องเหมือนเดิม นึกคำไหนไม่ออกก็อาศัย Dictionary ช่วย

เพราะระบบการศึกษาไทยโดยเฉพาะถ้าเป็นเด็กนักเรียนระดับประถมหรือมัธยมไม่ได้เน้นการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ คือการสื่อสารสองทาง การศึกษาไทยเน้นอาจารย์เป็นผู้สอน นักเรียนเป็นผู้ฟังแล้วท่องจำ เพราะนักเรียนจำนวนมากทำให้ไม่สามารถจี้à¹��ห้พูดได้เป็นรายคน จึงไม่แปลกอะไรที่เราจะคิดไม่ออกหรือพูดไม่ได้เพราะเราไม่เคยพูดประโยคนั้นออกมาจริง ๆ ทำให้ไม่ชินลิ้นและไม่สามารถเปล่งมาเป็นคำพูดได้ อย่าว่าแต่ภาษาอังกฤษเลย ภาษาไทยเองถ้าคุณอ่านในใจ แล้วเงยหน้าท่องประโยคที่คุณพึ่งอ่านในใจเมื่อกี้ไปก็ยังพูดไม่ได้เลย

เพราะคุณขาดความกล้าและเชื่อมั่น คุณต้องไม่กลัวกับการพูดเพราะกลัวผิดต้องคิดว่าไม่ใช่ภาษาของเราถ้าพูดผิดก็ไม่ได้เป็นสิ่งน่าอาย เพราะเราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของเขา และการพูดผิดดีกว่าไม่พูดค่ะ คนที่ไม่ได้ทำผิด คือ คนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย คุณมีความกล้าและพยายามศึกษาเรียนรู้ ดู อ่าน ฟัง ให้มากยิ่งขึ้นเอาสิ่งที่ผิดมาเป็นครู รับรองคุณเก่ง ไม่มีใครเก่งมาแต่เกิดหรอกค่ะ การเรียนรู้ทั้งทฤษฏี และปฏิบัติ คือ สิ่งที่เราต้องทำค่ะ ลองดูนะคะ