ว่ายังไง ถ้ามีเผด็จการถุงก๊อบแก๊บ?

ออกตัวก่อนเลยนะครับว่าผมไม่ได้เข้าไปอ่านในลิ้งค์ที่ลุงลอร์ดแนบมา เพราะเน็ตผมกากมาก (ในลิ้งค์อาจจะพูดถึงเรื่องที่ผมกำลังจะบ่นด้วยก็ได้ครับ)

ผมเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ 50 : 50 ครับ เพราะรู้สึกว่ามันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับประชาชนที่ยังไม่มีทางเลือกที่จะใช้วัสดุบรรจุอื่นนอกจากถุงพลาสติก ซึ่งบางอย่างผมก็ยังคิดไม่ออกครับว่าข้าวหรือแกงเวลาที่สั่งห่อกลับบ้าน นอกจากว่ามีการรณรงค์ให้ประชาชนมีพวก tupperwear ส่วนตัวหรือให้ใช้ถุงผ้าแทนเวลาไปซื้อของตามร้านสะดวกซื้อ ถ้าทำแบบนี้ได้มันก็ดีครับ แต่ในความเป็นจริงผมว่าคงไม่มีใครพกของพวกนี้ติดตัวตลอดเวลาหรอกครับ บางคนไปทำงานไม่ได้พกอะไรติดตัวแต่อยากซื้อกับข้าวก่อนเข้าบ้านจะทำยังไงครับ มันก็ไม่พ้นต้องใช้ถุงพลาสติกอยู่ดี หรือจะบอกว่าให้ซื้อ tupperwear ใหม่เลยก็คงแปลกๆ แค่จะซื้อข้าวกล่องละ 20-30 บาทไหงต้องซื้อ tupperwear ใหม่ที่ราคาอย่างต่ำสุดน่าจะอยู่ที่ 40-50 บาท

ในทางกลับกัน การมีกฏหมายบังคับใช้อย่างจริงจังก็น่าจะเป็นผลดีต่อโลกเรานี่แหละครับ มันคงทำให้ประชาชนค่อยๆปรับเปลี่ยนหรือหาวัสดุอื่นที่ใช้แทนพลาสติกได้และมีราคาไม่ต่างกันมากนัก (ผมเคยเห็นกล่องอาหารที่ทำจากข้าวโพดก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีได้เหมือนกันครับ แต่ราคาประมาณ 100 บาทได้)

ในประ���ทศจีน ร้านสะดวกซื้อหรือตามห้างถ้าต้องการถุงเราจะต้องจ่ายเงินเพิ่มครับ ถึงแม้ราคามันจะไม่แพงเลย (ประมาณ 50 สตางค์ถึง 2 บาทครับ) แต่คนจีนก็นิยมพกถุงผ้าส่วนตัวกันมากกว่า ส่วนร้านขายอาหารข้างทางบางร้านก็เลือกที่จะใช้ถ้วยกระดาษแทนพลาสติกแต่เวลาใส่พวกน้ำซุปแล้วถือเดินกลับบ้านหรือขึ้นรถนี่จะเลอะเทอะมากครับเพราะมันกระฉอก นอกนั้นถ้าใช้ใส่บะหมี่หรือข้าวผัดก็ไม่มีปัญหาครับ กลับดีซะด้วยซ้ำไปเพราะว่าผมไม่ต้องล้างจาน (ในกรณีที่ผมซื้อกินของผมคนเดียวนะครับ) แต่ถ้าซื้อเยอะมันก็ไม่พ้นต้องขอถุงพลาสติกอยู่ดี

สำหรับประเทศไทย ถ้าเราลดปริมาณการใช้พลาสติกได้ก็จะดีมากๆครับ เพราะผมรู้สึกว่าบ้านเราแจกถุงพลาสติกพร่ำพรื่อจนเกินไป บางทีผมไปซื้อของไม่กี่ชิ้นก็ให้ถุงพลาสติกถุงเล็กๆมา จนผมต้องปฏิเสธบ่อยๆเพราะผมไม่รู้ว่าจะให้มาทำไม สุดท้ายก็ต้องทิ้งเป็นขยะเพราะถุงมันเล็กเกินกว่าที่จะเอามาใส่เป็นถุงขยะซะด้วยซ้ำไป

ผมเสนอการรณรงค์และปลูกจิตสำนึกอย่างจริงจังมากกว่าออกเป็นกฏหมายครับ เพราะผมมั่นใจว่าถ้าออกเป็นกฏหมายมา จะต้องมีพวกตำรวจที่ฉวยโอกาสนี้รีดไถพ่อค้าแม่ค้าเป็นแน่แท้

ONLY in THAILAND ครับ

ดีค่ะ ชอบ อยากกลับไปใช้ชีวิตเหมือนในสมัยก่อน

อยาก กินโอวัลติลในกระป๋องนมที่หิ้วด้วยเชือกกล้วย

ราดหน้าห่อด้วยใบตอง ไปตลาดต้องหิ้วตะกร้า

กลางวันก็เปิดปิ่นโตมารวมกัน ใครห่อข้าวกับอะไรมา

โอ๊ยสนุก เดี๋ยวนี้เวลาไปตลาดจะเลือกซื้อแม่ค้าที่ห่อข้าวให้ด้วยใบตอง

ข้าวจะอุ่นนานกว่าใส่ถุงพลาสติคอีก

ที่จริงถุงพลาสติก เราต้องยอมรับว่ามันใช้ได้สะดวกมากมาย เเต่บ้านเราใช้จนเกินความจำเป็น ถ้าจะสั่งปิดโรงงานรายได้มหาศาลจะหดหายไป ขึ้นราคาถุงพลาสติกให้มันเเพงๆมากๆ ดีไหมคะ คนจะได้ใช้อย่างประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย หรืออีกวิธี ให้นักวิจัย คิดส่วนผสมถุงพลาสติก ให้สามารถย่อยสลายได้ไม่เป็นมลภาวะต่อโลก คงไม่ยากเกินสมองของมนุษย์นักวิทยาศาสตร์ โลตัสที่เซี่ยงไฮ้ ใครจะใส่ถุงพลาสติกต้องจ่ายตังค์เพิ่ม เราซื้อซาลาเปา 3 ลูก ต้องอุ้มมันออกมาค่ะ เราก็ทำหน้างงๆ ชี้ไปที่ถุง เค้าก็ชี้ไปที่ตังค์ เราก็ อ๋ออออ หนีบจั๊กกะเเร้ออกมาดีกว่า ประหยัดดี

โลตัสบ้านเรา เห็นรณรงค์อยู่พัก ไม่ประสบความสำเร็จ ใส่ถุงพลาสติกให้เยอะเเยะ ถ้าทำกันอย่างจริงจังมีระเบียบวินัยไม่เห็นเเค่ประโยชน์ระยะสั้น คนก็คงให้ความร่วมมือนะคะ

ตอบจากประสบการณ์นะคะ ไม่เอาแบบมาเหน็บเอามัน เอ๊ะ หรือจะเอาสักหน่อยดีคะ

อันว่าถุงก๊อบแก๊บนั้น สำหรับบ้านเราคือถุงใส่สินค้า ข้าวของทั่ว ๆไป ที่เป็นของแห้ง ๆ แต่สำหรับที่พม่าแล้ว เขามีไว้ใช้ใส่สารพัดทุกกะสิ่งทุกกะอย่างค่ะ ย้ำว่าทุกอย่างจริง ๆ คือถ้าคุณลุงท่อดูดไปพม่า แล้วซื้อก๋วยเตี๋ยวแห้ง ก๋วยเตี๋ยวน้ำ ข้าวผัด แกง น้ำหวาน ขนมหวานฯ ถ้าเป็นเมืองเราอาหารเหล่านั้นจะใส่ในถุงพลาสติกใสพวกถุงร้อน ถุงเย็นก่อน แล้วคอยเอาใส่ในถุงหูหิ้วหรือถุงก๊อบแก๊��อีกทีหนึ่ง แต่ถ้าเป็นที่พม่า ต่อให้เป็นเมืองใหญ่ อย่าง ร่างกุ้ง มัณฑเลย์ หงสาวดี ปะกัน อมรปุระ ฯลฯ อาหารเหล่านั้นจะถูกเทใส่ลงในถุงก๊อบแก๊บสีสันสวยงามทันที ไม่ว่าจะเป็นอาหารร้อน - เย็น ซึ่งมันเป็นอันตรายมาก เพราะพลาสติกที่เอามทำถุงก๊อบแก๊บ ไม่ได้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการบรรจุอาหาร ดังนันการที่รัฐบาลพม่าออกกฏหมายเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นการถูกต้องสมควร เป็นการห่วงใยผุ้บริโภค คือ ประชาชนของเขาเอง ไม่ถือว่าเป็นกฏหมายเผด็จการนะคะ และคิดว่าคงห้ามเฉพาะใส่อาหาร แต่ให้ใช้ใส่สินค้าแห้ง ๆ ได้

ที่มา เคยเจอมากับตัวหลายหนแล้วค่ะ สยองมาแล้วทุกหน ขอบคุณรัฐบาลพม่าที่ออกฏหมายห้ามนะคะ

ดีค่ะ หนูก็คิดว่าเผด็จการบางอย่างมีผลดีระยะยาวแน่นอน ถ้าไทยเราเอาอย่าง และสำเร็จ ประเทศไทยเราต้องดีมากกว่านี้

แต่................?

กฏหมายแบบนี้จะมีแต่ระบบเผด็จการเท่านั้นที่จะทำได้ และต้องเป็นเผด็จการที่รักชาติบ้านเมืองด้วย

เพราะหากเป็นระบบแบบเมืองไทย นายทุนที่หนุนหลังพรรคการเมืองคงจะไม่ยอมแน่นอน

ว่าเล็กน้อยตรงที่มีจะแนวทางใหม่ๆเพิ่มให้อีกหรือ......กับบ้านเราน่ะ

ดีครับและขอเสนอพวกกล่องโฟมใส่อาหารเข้าไปด้วย

จะให้บ้านเราเลิกใช้ถุง อ้อล้อ คงยากมังคะ ยิ่งให้เป็นกฏหมายยิ่งยากแสน แต่ถ้ามีอะไรมาทดแทนที่ดีกว่า และหาง่ายกว่าถุงอ้อล้อ ก็คิดว่าคนคงหันไปใช้แทนคะ เพราะตอนนี้หลายๆคนก็เริ่มเข้าใจสภาวะโลกร้อนมากขึ้น..แต่.อะไรล่ะที่จะมาใช้แทนถุงอ้อล้อ ซื้อกล้วยสักหวี แขวนไว้กับเข็บเหน็บเพลา....ฮาพิลึก...หหุ

เราก็ว่าดีนะในเมื่อรณรงค์กันแทบตาย เสียเงินงบไปปล่าวๆก็ไม่เห็นจะตื่นตัวกัน ช่วยลดมลพิษ ลดขยะ ลดค่าใช้จ่ายลงอีกเยอะ