เครื่องวัด"ความ-สว-"สูงวัยของคุณคืออะไรค่ะ?

ตาม พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ 2546 จะบอกว่า ผู้สูงอายุ (สว.) จะมีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป แม้ว่าโดยรวมจะหนุ่มจะสาวกว่าคนอื่นๆ ก็ตาม จึงรวมเอาข้าราชการที่เกษียณแล้วมาเป็น สว.ด้วย (ข้าราชการเกษียณอายุ 60 ปี) ปัจจุบันการดำเนินชีวิตและมีสุขภาพดี สาธารณสุขดี สิ่งแวดล้อมที่ดี จึงทำให้ สว.ดูไม่แก่และสติปัญญาดี มีศักยภาพและความสามารถช่วยเหลือสังคมต่อไปได้ จึงเป็นจิตอาสา ที่ปรึกษา จัดตั้งชมรมผู้สูงอายุกันทั่วประเทศและต่อไปข้างหน้า ประเทศไทยก็จะเริ่มเป็นสังคมผู้สูงอายุมากขึ้นเช่นต่างประเทศ ไม่ใช่ส่วนเกินของสังคมอีกต่อไป

เมื่อสูงวัยขึ้น มีเวลามากขึ้น สะสมเงินมีรายได้เดิม พวก สว.ทั้งหลายจะเริ่มให้รางวัลตัวเอง สังเกตไหมครับปัจจุบันจะพบเห็นผู้สูงอายุท่องเที่ยวทัศนาจรทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น เป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวไปในตัว ลูกหลานก็ไม่เคยคิดว่าเอาคนแก่ไปด้วย กลับมีความสุขมีชีวิตที่ดีขึ้นและอายุยืนขึ้น

เคยฟังการประชุมและสัมมนาครั้งหนึ่ง มี สว.ท่านหนึ่งกล่าวในที่ประชุมว่า ไม่อยากให้เรียกว่า คนแก่คนชรา เพราะแสลงใจ สว.ผู้หญิงขอให้เรียกว่า สวยตามวัย(สว) แต่ผู้ชายกลับชอบให้เรียกว่า คุณลุง มากกว่า คุณปู่คุณย่า

คุณตาคุณยาย บางแห่งขอให้เรียกว่า กล้วยไม้ (ใกล้ม้วย) เพราะน่าฟังและความรู้สึกที่ดีๆของกล้วยไม้ เลยกลายเป็นชมรมกล้วยไม้ขึ้นมาหลายแห่งและมีรอยยิ้มของ สว. อยู่ตลอดเวลา

เราคิดกันไปเอง ว่าเราแก่ เราหลงลืม เราไม่มีเรี่ยวแรง.......หาอะไรทำ ที่สนุกๆตามวัย รวมกลุ่มกับคนในวัยเดียวกัน ร่วมกันกับสังคมที่เปิดให้กับ สว. ทั้งหลาย แล้วจะรู้ว่าเราไม่แก่เลยครับ

เดินผ่านหมา เห่ากันใหญ่ แต่เดินผ่านจิ๊กโก๋ เงียบปัสสาวะ ไร้เสียงแซว

เดินไปไหนไม่ต้องกลัวจะลืมไหว้ใคร รอรับไหว้ให้ทันก็พอ

นั่งก็โอย ลุกก็โอย

พอเหล่เสื้อผ้าที่อยากใส่ (ก็ใจมันบอกว่ายังไหวอยู่) คนขายดันถามซื้อให้ลูกเหรอคะ

ขึ้นรถไฟฟ้ามีคนลุกให้นั่ง (ชะ ไม่ดีใจนะยะ เศร้าย่ะ) แต่โหนรถเมล็จิ๊กโก่แกล้งหลับใส่ (เออ ทำให้เนียนนะ)

สตรีที่โลกลืม สามีจำไม่ได้ว่าเมื่อเช้าเราใส่ชุดอะไรออกมา พอ ๆ กับที่เราจำไม่ได้ว่าเขาใส่เสื้อตัวไหนไปทำงานวันนี้(หว่า)

เรื่องเก่า ๆ ดันจำได้หมดทุกเรื่อง เรื่องแค่นี้ ๆ นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก

วันสงกรานต์แห้งผาก หมดหวังกับการโดนสาดน้ำ รอคนมารดน้ำอย่างเดียว

เพื่อนกินหายาก เพื่อนตายหาง่าย เดี๋ยวตาย เดี๋ยวตาย

พอรึยัง เรื่องเศร้านะเนี่ย ไม่เห็นขำเลย

แบบเราๆจะวัดที่"เขี้ยว"จ้ะ จะเขี้ยวงา,เขี้ยวโง้ง,เขี้ยวตัน,เขี้ยวหลอ,เขี้ยวกลวง,เขี้ยวหัก หรือเขี้ยวเสน่ห์ มากกว่าจ้ะ..

แต่ไม่เกี่ยวกะเสริมเขี้ยว(เล็บ)นะจ้ะ..

ก็แค่เพื่อนลูกสาวเรียก"ลุง"เด็กๆพวกนี้มันน่าตีปากนัก..

จะรีบแก่กันไปไหนครับพี่น้อง....

ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าวัดกันตรงไหนว่าแก่

พี่โยรู้อย่างเดียวง่า หัวใจยังละอ่อน อยู่เลย...

ฟังเพลงวัยสะรุ่นดีฟ่า.....

http://www.youtube.com/watch?v=Dhj51Ypz8X4

เครื่องวัดความสูงวัยเหรอคะ? เอ่อ..ไม่เคย(กล้า)มีไว้ใช้หรอกค่ะ กลัวมันทำงานผิดพลาด ให้ตัวเลขไม่ถูกใจ เหอ เหอ เหอ..

ชอบคำถามนี้จังเลย เดี๋ยวมาต่อนะคะ ขอตัวไปทานอาหารเช้า - ทำธุระจิปาถะก่อนค่ะ (เพิ่งตื่นนอนอ่ะ ในขณะที่คนอื่นเค้ากำลังจะเข้านอน...เฮ้อ.. สนุกน้อยจังเลย เพื่อนเล่นนอนกันหมด)

สองที่เลยค่ะที่จะเห็นชัดว่าคนๆนั้นได้ย่างก้าวสู่งวัย 30 นั่นก็คือ เหนียงใต้คอและท้องของต้นแขนที่ใหญ่ขึ้น ยิ่งถ้าเป็นคนอวบหรือเจ้าเนื้ออยู่แล้วหละก็ อาจจะมีคนมาถามว่า "ปัจจุบันมีน้องแล้วกี่คนคะ" อาจเป็นเช่นนี้ก็ได้

อย่างเช่น..บางคนนอนไม่หลับ ต้องมานั่งตั้งคำถามเอากลางดึก...คริ คริ...อาการ สว.ขั้นประถมอ่ะ..

..เราไม่รู้ดิ ว่าเป็นไง ไอ้อาการ สว. ..สูงวัยไรน่ะ ทุกวันนี้ยังไม่มีอาการไรแทรกซ้อนหรือบ่งบอกให้ตัวเองรู้สึกเลย... ...เพราะเราเป็นแต่... สว. ..ยัง สาวว่ะ...อิอิ..