Yahoo Answers is shutting down on May 4th, 2021 (Eastern Time) and beginning April 20th, 2021 (Eastern Time) the Yahoo Answers website will be in read-only mode. There will be no changes to other Yahoo properties or services, or your Yahoo account. You can find more information about the Yahoo Answers shutdown and how to download your data on this help page.
Trending News
อยากถามเรื่องผลิตภัณฑ์เสริมอาหารค่ะ?
ระหว่างยาของแอมเวย์ https://www.amwayshopping.com/amwayshopping-fronte... กับยา Centrum ทานตัวไหนดีคะกะว่าจะซื้อมาทานบำรุงร่างกาย
6 Answers
- Anonymous9 years agoFavorite Answer
Centrum สิ่งที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายให้กับคนจำนวนมาก คุณจะพบว่ามันราคาไม่สูง ใช้กัน
แพร่หลาย
ลางเนื้อชอบลางยา บางยาก่อผลข้างเคียงในคนบางคนเมื่อรับสารเกินที่ผู้ผลิตมักบอกเรา
ไม่หมด
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมักใช้ในผู้ที่ขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่ในคนที่สามารถ
รับประทานอาหารได้ตามปกติมักไม่นิยมใช้ค่ะ
คุณต้องทำความเข้าใจเรื่องผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กับ ยา เนื่องจากสองสิ่งนี้ ใช้ต่าง
กันค่ะ และ การใช้สิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ล้วนมีข้อควรระวัง ควรอ่านคำแนะนำที่เขียนใน
ฉลากยาอย่าฟังตัวแทนหรือคนประจำร้านขายยาอย่างเดียวนะคะ
หากคุณมีปัญหาในการดูดซึม ร่างกายก็จะไม่ได้รับสารที่คุณรับประทาน
หรือดึงเอาสารอาหารจากส่วนอื่นๆในร่างกายออกมาใช้ร่วม ทำให้คุณขาดสารอื่นๆอีก
บางครั้งฉันคิดว่า คุณควรลองคิดอีกที ว่า ตกลงคุณต้องการสารอะไร เพื่ออะไร ทำไม
จึงไม่สามารถรับจากอาหารในธรรมชาติได้
ศึกษาผลข้างเคียง ปรึกษาแพทย์ หรือคิดอีกนานๆหากยังไม่ได้ข้อสรุป
- เจตนาดีLv 49 years ago
เคยดูตารางเทียบอาหารเสริมที่มีประสิทธิภาพทั้งสองยี่ห้อนี้มีสารอาหารบางตัว
น้อยกว่าผลิตภัณฑ์ของ ยูซาน่า คุณลองเข้าเว็บไซด์ แล้วศึกษาข้อมูลดูก่อน
ข้อสำคัญต้องให้ตรงกับปัญหาที่ร่างกายของเรากำลังขาดอยู่ มิเช่นนั้นจะเหมือน
กรณีของน้องสาว ที่มีคนแอมเวย์แนะนำน้องสาวว่าทานโปรตีนแล้วดี หลังจากนั้น
หกเดือนเธอมีซีสส่วนเกินงอกมาทางมดลูกเจ็ดเซ็นต์ เรามาทราบภายหลังจึงบอก
ให้น้องหยุดดื่มนมถั่วเหลืองของแอมเวย์ทันที ทุกวันนี้ซีสก็ยังอยู่ พอมันเกินออก
มาแล้วจะให้หดเข้า ต้องงดอาหารประเภทเนื้อทั้งหมด หันมาทางสลัดผักบ้าง
แต่จะให้คืนเข้าสู่สภาพวะเดิมคงยาก เพราะออกสังคมก็มีอาหารโปรตีนแทรก
เข้าสู่ร่างกายยังพอมีอยู่บ้าง ซึ่งก็ทานน้อยจนถึงน้อยที่สุด ก็แค่หวังว่ามันจะหด
สั้นลง ผู้จำหน่ายไม่รู้ ผู้บริโภคก็หลงเชื่อ เลยตกบันไดลุกไม่ขึ้น ซีสก็ยังอยู่ ๆ
หาย ๆ ฝ่อบ้าง ยื่นบ้าง แล้วแต่สารอาหารปรุงแต่งก็ว่ากันไป
ส่วนตัวเคยป่วย...หมอที่บ้านเรารักษาไม่ได้ เพราะจะได้รับผลข้างเคียงตามมา
ก็ได้ผลิตภัณฑ์ ยูซาน่า นี่แหละ ที่แก้ไขร่างกายให้ฟื้นตัวจนถึงทุกวันนี้ ต้อง
ทานอยู่ 8 เดือน ถึงเข้าสู่สภาวะปรกติได้ หลายปีก่อนประเทศไทยยังไม่มีขาย
จึงต้องสั่งนำเข้าจากมาเลเซีย ฝากเพื่อนหิ้วมาให้อีกที บริษัทแม่อยู่ที่อเมริกา
ถ้าร่างกายสามารถรับประทานอาหารปรกติได้อยู่ ก็ควรใช้ธรรมชาติบำบัดจะดี
กว่า เพราะเมืองไทยโชคดีที่มีพืชผักสมุนไพรจำนวนมาก เว้นเสียแต่ว่าจะสุดวิสัย
จริง ๆ ค่อยหาทางเลือกที่มีความจำเป็นต่อร่างกายมาเสริม ส่วนมากคนป่วยที่
หายยาก ล้วนมาจากการทานอาหารประเภทแป้งในแต่ละวันมากเกินความจำเป็น
ต่อร่างกาย แค่การงดแป้งก็เท่ากับลดน้ำตาลในตัวไปส่วนหนึ่ง หันมาทานพืชผัก
หลากสีมากขึ้น เมื่อการขับถ่ายดี ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว เพราะการดูดซับ
อาหารใหม่ ๆ ก็จะดีตามไปด้วยเช่นกัน ข้อสำคัญ..งดอาหารรสจัดได้ก็ยิ่งดี
Source(s): บุญคุ้มหัว - ssuebsakLv 59 years ago
ความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดพิจารณา
ประเด็นที่ 1 ยาและอาหารเสริม ไม่เหมือนกัน ยา คือ ยา สำหรับการรักษาโรค หรือ มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ยา มีฤทธิครอบคลุม หรือมีผลข้างเคียง
อาหารเสริม เป็น วัตถุดิบทางธรรมชาติสกัด หรือ สารอาหาร ที่สกัดเข้มข้น เพื่อเสริมอาหาร กรณีที่ขาด หรือ ต้องการ เพิ่มเติม หรือวัตถุประสงค์ทางการตลาด
ประเด็นที่ 2 ยาและวิตามิน ส่วนใหญ่ที่ขายในตลาดทั่วไป มาจากการสกัด หรือการผสมด้วย กรรมวิธีทางเคมี ต่างจาก สารสกัดทางธรรมชาติ แม้ว่า โครงสร้างโมเลกุล หรือ พันธะทางเคมีจะเหมือนกัน (ซึ่งวิทยาการปัจจุบันของมนุษย์ ทำได้เพียงแค่นี้) เช่น คลอโรฟิลด์ ของพืชสีเขียว มีโครงสร้างทางโมเลกุล เหมือน ฮีโมโกรบิน ของเม็ดเลือดแดง หรือ แร่ธาตุทางวิทยาศาสตร์ เช่น เหล็ก, แคลเซี่ยม, ฟอสฟอรัส, โปรแตสเซี่ยม จะไม่เหมือนกับ เหล็ก... หรือ ธาตุเหล่านั้น ที่มีอยู่ในพืช แม้ว่า จะมีโครงสร้างโมเลกุลเหมือนกัน ( ลองถาม หมอเรื่อง วิตามิน ซี ดูซิ ยังมีสองแบบเลย ) หรืออย่างโปรตีนจากสัตว์ กับ โปรตีน จากพืช ก็มีส่วนแตกต่างกัน
ประเด็นที่ 3 การทำงานของ สารอาหาร และ ระบบการเผาพลาญของร่างกาย เพื่อให้ได้พลังงาน หรือ การเสริมสร้าง ซ่อมแซม หรือใดๆ
วิทยาการของมนุษย์ในปัจจุบัน ก็ยังไม่สามารถเข้าถึง หรือจำลอง สภาวะของร่างกายไ��้อย่างครบถ้วน หรือแม้แต่ การจำลอง ลักษณะการเกิด
ดังจะเห็นได้จาก คนบางคน สามารถอดอาหาร ได้นาน โดยร่างกายไม่ซูบผอม หรือ การทานอาหารของคน สอง คน เท่าๆกัน เหมือนกัน แบบเดียวกัน คนหนึ่ง น้ำหนักขึ้น อีกคน เหมือนเดิม หรือ คนที่ผอม เป็นปกติ ทำอย่างไรก็ไม่อ้วน ได้แค่นั้น ส่วนคนที่ อ้วน ง่าย ทำไมแค่ น้ำหวาน เล็กๆน้อย ข้าวหยิบมือ บางทีน้ำหนักขึ้น
แสดงว่า ระบบการทำงาน การเผาพลาญ หรือ ใดๆ ในร่างกายมนุษย์ แต่ละราย ไม่เหมือนกัน หรือแม้แต่ ตัวอย่างก่อนหน้านี้เรื่อง คนที่แพ้โปรตีน จากสัตว์ แล้วไปทาน โปรตีนของแอมเวย์
ประเด็นที่ 4 เป็นเรื่องของการ โฆษณา และการยัดเยียดสิ่งต่างๆให้ โดยคิดว่า นั่นเป็นความรู้ ซึ่งมาจาก ผลการวิจัยที่อาจผิด เช่น กระทิ จากมะพร้าว ซึ่งแต่ก่อน นักวิทยาศาสตร์ เมืองนอก ออกมาบอกว่า มีคอลเลสเตอรอลมาก อาจทำให้อ้วน ไขมันอุดตัน เป็นโรคหัวใจ หรืออื่นๆสารพัด แต่พอนานเข้า ดันไปพบว่า คอลเลสเตอรอล เอง ก็มี สองชนิด LDL และ HDL ตัวหนึ่งดี อีกตัวไม่ดี บังเอิญใน น้ำมันมะพร้าว มีแต่ไขมันที่ดี คือ ไขมันอิ่มตัว
ไปช่วยกำจัด ลบล้าง ไขมันไม่อิ่มตัว หรือ ถูกใช้เป็น พลังงาน ในร่างกายได้ทันที เป็นต้น
แต่ไม่เห็นใครออกมาขอโทษ หรือ ประกาศแก้ไข และยังมีเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ที่บางคน รู้กัน สับสนไปหมด ระหว่าง ไขมันอิ่มตัว กับ ไขมันไม่อิ่มตัว แล้วก็บอกเล่าต่อๆกันไป แบบคิดว่า ตนเองรู้ แต่ดันไปลอก หรือ จำผิดๆมา
ของสรุปให้ดังนี้ ยา หรือ วิตามินสังเคราะห์ (เช่น เซนทรัม ที่ถาม) หรือ อาหารเสริม ( ดับเบิลเอ็กซ์ ของแอมเวย์ หรือ อื่น) หรือ แม้แต่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อื่นๆ ต่างก็มี คุณประโยชน์ หรือ โทษ ได้พอๆกัน หรือ แม้แต่ การรับรู้ รับฟัง โดยไม่ได้พิจารณา ก็อาจเป็นโทษได้ ที่เหลือเป็น การเลือก ระหว่าง ของสังเคราะห์ กับ ของตามธรรมชาติ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ท่านคิดว่า ร่างกาย ของผู้รับ แต่ละราย ต้องการแบบใด
ดังนั้น ท่าน ในฐานะ ผู้จ่ายตังค์ และ เจ้าของ ร่างกาย ต้องพิจารณาเอง เพื่อความเหมาะควร และเหมาะสม แก่ ฐานุรูป ของท่าน
ปล. หลังไมค์ได้ครับ เพราะ การให้ความเห็น ในที่สาธารณะ แบบนี้ มีข้อจำกัด เพื่อมิให้เกิดการดูหมิ่น หรือ ละเมิด ใดๆเกิดขึ้น
และส่วนตัว หลังจาก หยุดธุรกิจ MLM หันไปเล่น สมุนไพร กับสินค้า OTOP จากบางแห่ง ก็ไม่เห็น มีปัญหาใดๆ แม้แต่ พ่อ กับ แม่ ที่ไม่ได้รับ อาหารเสริม ราคาแพงอีก เปลี่ยนเป็น สมุนไพร ราคาถูกๆ หรือ แม้แต่ ปลูกริมรั้ว เพื่อเด็ดดอก มาต้ม น้ำกิน อย่างดอกอัญชัน หรือทำ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ทานเอง เป็นต้น
( พ่อ 82 ยังปกติ ทำงาน กลางแดด จัดๆได้ ยกของหนักได้ เช่น ถุงปูน 1 ลูก 50 กก. ผมยังยกไม่ค่อยไหวเลย แม่ 77 ยังพยายาม ไปจ่ายตลาด เพื่อกลับมาเปิด ร้านขายอาหารตามสั่ง ทุกเช้า แม้ว่าจะสั่งให้เลิกร้าน เลิกทำ เลี้ยงหลานอย่างเดียว ก็เถอะ )
- How do you think about the answers? You can sign in to vote the answer.
- Anonymous9 years ago
ต้องไปถามคนรู้จริงโปรดักส์นั้น หรือเทียบกับตารางสินค้าข้างกล่อง หรือไม่ก็ถามคนที่ทำMLM
Source(s): sb - AramboyLv 59 years ago
นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่ม : 335
เดือน-ปี : 03/2550
คอลัมน์ : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
Thu, 01/03/2550 - 00:00 — somsak
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (1)
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นแค่อาหาร ไม่ใช่ยารักษาโรค
" ดูแลคนที่คุณรู้จักและไม่รู้จักให้มีสุขภาพดี โดยไม่ใช้ยา ลองคิดดู! กี่คนที่คุณรัก/กี่คนที่คุณรู้จัก มีปัญหาเกี่ยวกับโรคที่กินยาเท่าไรก็ไม่หาย เช่น มะเร็ง หัวใจ หลอดเลือดตีบ อัมพฤกษ์-อัมพาต เบาหวาน เก๊าต์ ข้อ กระดูกเสื่อม สมรรถภาพ��างเพศเสื่อม รวมทั้ง โรคอ้วน ฯลฯ ผลิตภัณฑ์ของเรามีความปลอดภัย เพราะเป็นอาหารที่คิดค้นโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการระดับ โลก ฯลฯ รับประทานแล้วสุขภาพดี อาการของโรคต่างๆ จะดีขึ้นหรือหายขาดจากโรคนั้นๆ "
ท่านคงจะเคยได้ยินข้อความโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทำนองนี้กันบ้าง บางครั้ง ก็อาจทำให้ท่านสนใจหรือหลงเชื่อ เนื่องจากโฆษณาโดนใจ บางครั้งมีการนำบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือบุคคลที่อ้างว่าป่วยเป็นโรคต่างๆ มาพูดถึงประสบการณ์เกี่ยวกับสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ โดยอ้างว่า เมื่อรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแล้วอาการของโรคจะดีขึ้นหรือหายขาด จากโรคนั้นๆ ส่วนใหญ่เป็นการขายในรูปแบบของการขายตรง ซึ่งมีการพูดโฆษณาแบบ ปากต่อปาก หรือมีการจัดประชุมสัมมนาเฉพาะกลุ่ม หรือการโฆษณาผ่านทางแผ่นพับ วีดิทัศน์ และสื่อต่างๆ ดังตัวอย่างคำโฆษณา อาทิ ช่วยเพิ่มออกซิเจนให้กับเซลล์ในร่างกาย ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทานของร่างกายปรับสมดุลย์ความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย เป็นต้น คำโฆษณาเหล่านี้มักโอ้อวด เกินจริงและไม่ได้รับการอนุญาต จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะทำให้ผู้บริโภคที่หลงเชื่อเสียทั้งเงิน เสียทั้งโอกาสในการรักษา และยังอาจ เป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อหรือรับประทานผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ขอให้ท่านพิจารณาดูสักนิดว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีการโฆษณาว่ามีสรรพคุณดีเลิศต่างๆ นานานั้น เป็นเพียงแค่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือที่เรียกกันติดปากว่า " อาหารเสริม " นั่นเอง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่ใช่ยารักษาโรค แต่เป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่ใช้รับประทานนอกเหนือจากการ รับประทานอาหารหลักตามปกติ เพื่อเสริมสารอาหารบางอย่างที่ร่างกายขาดไป สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีสุขภาพทั่วไป ไม่ใช่สำหรับผู้ป่วย และไม่ควรให้เด็กและสตรีมีครรภ์รับประทาน ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นไม่สามารถบรรเทาบำบัดหรือรักษาโรคใดๆ ตามที่โฆษณาได้ ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ได้แก่ น้ำมันปลา สาหร่ายสไปรูลิน่า ไคโตซาน เส้นใยอาหาร เป็นต้น
แต่ถ้าท่านยังสนใจและกำลังตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อย่าคิดซื้อเพราะเชื่อคำโฆษณา ขอให้พิจารณาและตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อบนพื้นฐานของความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลทางการศึกษาหรือผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ สามารถบำบัด บรรเทา หรือรักษาโรคได้ และในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรอ่านฉลากให้เข้าใจว่ามีส่วนประกอบหรือสารอาหารตรงกับความต้องการหรือไม่ และหากพบเห็นการโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอวดอ้างสรรพคุณในทางบำบัด รักษา บรรเทา หรือป้องกันโรค หรือพบบทความหรือข้อความใดที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ไปในทำนองดังกล่าว ผ่านทางสื่อใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการขายตรง วิทยุ แผ่นพับ เอกสารประกอบการขาย อินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ขอให้แจ้งเบาะแสมาที่ สายด่วน อย. 1556 อย.พร้อมที่จะดำเนินการกับผู้กระทำผิดในทันที
ดูเพิ่มที่ลิงค์นะครับ
Source(s): http://doctor.or.th/node/4076 http://doctor.or.th/node/5667 http://doctor.or.th/node/7141