Yahoo Answers is shutting down on May 4th, 2021 (Eastern Time) and beginning April 20th, 2021 (Eastern Time) the Yahoo Answers website will be in read-only mode. There will be no changes to other Yahoo properties or services, or your Yahoo account. You can find more information about the Yahoo Answers shutdown and how to download your data on this help page.

ดีใจจังได้ถามจริงๆจังๆเสียที เรื่องความดัน?

เรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วตั้งใจไปบริจาคโลหิตครั้งที่ 60 แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่เขาไม่รับเพราะเมื่อเขาวัดความดันมันดันขึ้นไปที่ 110-160 เขาบอกว่าถ้าเกิน 150 สภากาชาดไม่ให้บริจาคเพราะมันจะส่งผลกระทบต่อผู้บริจาค เพราะเมื่อก่อนเคยมีมาแล้วถึงต้องหามไปตึกผู้ป่วยเลย ทั้งที่เมื่อ 3 เดือนก่อนก็มาแล้วยังปกติดีเลย ใครพอมีคำแนะนำไหมครับว่าจะทำไงให้มันลงมาต่ำกว่า 150 ได้บ้าง ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะทำดียังมีอุปสรรคอีก..เฮ้อ

Update:

ขอขอบใจทุกท่านที่ให้รายละเอียดมาเป็นพื้นฐานของการต้องดูแลตัวเองบ้าง ที่จริงประวัติค่อนข้างเอาชนะและดันทุรังกับชีวิตพอควรไม่มีอะไรมากหรอกแค่เบียร์เล็กน้อยกินเรื่อย 3 วัน 2 ลังติดต่อกันมานับปี เพราะบอกกับตัวเองว่าจะไม่กินเหล้าหยุดสักพักรู้สึกไม่ค่อยสบายเพราะสมองบวมไปข้างนึงจากรถชนมันเอียงตลอดเลย เลยออกทางเบียร์ เว้น1 วันก่อนบริจาคโลหิต ระบบร่างกายปกติดีทุกอย่างเดือนก่อนเบื่อๆเลยเอาดีทางยาดอง อีกแล้ว เติม 35 ดีกรี 2ขวด 3 วันอีกแล้ว แต่มารู้ตัวเอาตอนไปบริจาคโลหิตนี่แหละว่าเปลี่ยนไปเลยไม่มีข้ออ้างแล้วว่ายังไงก็ต้องเลิกเพราะยังอยากบริจาคโลหิตอีกที่ตั้งใจเพราะ1 ในทุนที่รับมาตลอดก็กาชาดนี่แหละเลยอยากทำอะไรดีๆคืนให้นี่ก็ระบบหายใจไม่ค่อยดีเดี๋ยวคงได้เลิกบุหรี่อีกแน่เพราะไม่ดื่มสูบแล้วขม..ขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง

12 Answers

Rating
  • Favorite Answer

    เป็นความดันสูงอยู่เหมือนกันค่ะ ก็มีวิธีดูแลตัวเอง(ตามที่หมอแนะนำ แล้วเราเถียงไม่ชนะ)ตามนี้นะคะ

    ๑. กินยาลดความดันที่หมอจ่ายให้ วันละ ๑ เม็ด

    ๒. งดอาหารเค็ม ไปเถียงหมอว่าไม่เค็มก็ไม่อร่อย หมอก็ทำปากจิ๊กจั๊ก แล้วอธิบายยืดยาวว่าถ้ากินเค็มร่างกายต้องขับเกลือออกไปทำให้เสียน้ำ ทำให้ความดันขึ้น ก็ถามว่าแค่ไหนถึงเรียกว่าอาหารเค็ม คุณหมอบอกว่า เอาเป็นว่าถ้ากินอาหารตามร้าน เค้าปรุงเค็มมาแค่ไหนก็กินไปแค่นั้น ห้ามเติม

    ๓. งดชา - กาแฟ แถมหมอสำทับว่า งดนะครับ ไม่ใช่ลด(ปรกติดิฉันเคยดื่มวันละ ๖ แก้ว) ก็ไปเถียงหมออีก เดี๋ยวนี้กินแค่ ๒ แก้วยังจะให้ลดอีกเหรอ หมอก็อธิบายยืดยาวเรื่องกาแฟทำให้ความดันขึ้นอย่างไร แล้วบอกว่าถ้างดไม่ได้ก็ให้กินกาแฟที่ไม่มีคาเฟอิน เราก็บอกว่า หมอคะ กาแฟไม่มีคาเฟอินแล้วจะกินไปทำไม แพงก็แพง อร่อยก็ไม่อร่อย หมอก็ดื้อ เถียงเราอีก เฮ้อ

    ๔. เบียร์ ห้ามกิน กินแล้วความดันขึ้น คนเป็นความดันสูงกินเบียร์แล้วร้องโอย ๆ ๆ ปวดหัว ก็เพราะความดันขึ้น หมอบอกว่าสมควรแล้ว ไม่น่าสงสาร

    ๕.ให้ออกกำลังกายบ้าง เราบอกว่างชอบนอนไม่ชอบออกกำลังกาย หมอก็บอกว่า เอาแค่เดินออกกำลังกายสักวันละ ครึ่งชม.ก็ยังดี หรือ ทำอะไรให้ได้เหงื่อบ้างก็พอ

    ๖. พักผ่อนให้เพียงพอ

    ๗. ควบคุมอาหารที่ทำให้ความดันสูง(บ้าง) จำพวกอาหารมัน ๆ ที่มีคอเรสเตอรอลสูง พวก ขาหมู สามชั้น ทุเรียน กุ้ง ปลาหมึก ฯลฯ นาน ๆ กินทีพอได้ ให้กินพวกอาหารปลา เฮ้ ๆไม่ใช่ซากุระนะคะ อันนั้นอาหารของปลา อาหารปลา หมายถึงอาหารที่ทำจากปลา

    ๘. อย่าเครียด รื่นเริงเข้าไว้ บางคนคิดว่าตัวเองไม่เครียด แต่ที่จริงมีความเครียดสะสมในจิตใจ ต้องรู้จักปล่อยวางบ้าง แต่อ���่างดิฉัน หมอบอกว่าข้อนี้คงไม่ต้องบอกท่าทางคงเครียดไม่เป็น(แต่ทำไมหมอดูเครียด ๆ เวลาคุยกะเรา เหอ ๆ ๆ )

    ๙. ถ้ามีอาการปวดศีรษะมากถึงขั้นอาเจียนให้รีบไปพบแพทย์

    อันนี้แถมให้ ถ้ายังไงลองกินอาหารที่ใส่คึ่นช่ายด้วยนะคะ เพราะคึ่นช่ายมีสรรพคุณลดความดัน เอามาใส่ซุป ใส่ข้าวต้ม ผัดกับปลาใส่เต้าเจี้ยว หรือเอามาใส่ยำสารพัดก็อร่อยดีนะคะ

    ที่จริงเวลาจะไปวัดความดัน ถ้าเราไปเหนื่อย ๆ ความดันมันก็ขึ้นได้เหมือนกัน เค้าจะให้เราไปนั่งพักแล้ววัดใหม่อีกที ไม่ทราบวันนั้นคุณได้วัดซ้ำหรือเปล่า

    ไปแล้ว เดี๋ยวถ้านึกอะไรได้อีกจะมาใหม่

  • 1 decade ago

    อย่าประมาทเชียวคุณธัมจัย

    ผมเป็นstoke ขยับตัวไม่ได้อยู่เกือบปี กว่าจะเดินได้กะเผลกๆก็ย่างเข้าปีที่3คือปีนี้ ความทรงจำ ทักษะบางส่วนสูญหายไป เมื่อแรกเป็น ความรู้สึกคือสูญเสียคุณค่าของความเป็นคน เมื่อเป็นแล้วการต่อสู้เพื่อเป็นคนปกติยิ่งยากกว่าหลายเท่า

    ไปหาหมอและทำตามคูณชราฯเถิดครับ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่จะเอาชีวิตไปเดินเล่นตรงขอบนรกทั้งๆที่มีลมหายใจ

    ผมคงไม่มีคำแนะนำ นอกจากคำเตือนด้วยความปรารถนาดี และจากประสบการณ์ตรง

    ถือว่าเป็นคำขอร้องที่เป็นของขวัญปี��¹ƒà¸«à¸¡à¹ˆà¸à¹‡à¹à¸¥à¹‰à¸§à¸à¸±à¸™à¸„รับ

  • 1 decade ago

    ค่ะ! ก็ถ้าได้รับการวัดซ้ำ หลังจากนั่งพักสักครู่ ตามหลักการแล้ว

    สรุปว่าความดันสูงนะคะ ยิ่งเห็นค่าที่วัดได้ เป็น 160/110 mmHg (ตามหลักต้องเขียนแบบนี้นะคะ ไม่ทราบว่าเป็นอย่างนี้หรือเปล่า คือจะประกอบด้วย ค่า Systolic ซึ่งเป็นค่าที่สูงกว่า และค่า Diastolic คือค่าที่ต่ำกว่า ในการวัดแต่ละครั้ง) แล้วพบว่า ค่า Diastilic ขึ้นสูงถึง 110 mmHg อย่างนี้ ตามหลักการแล้ว

    ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงจะต้องได้รับยาตามแผนการรักษาของแพทย์ และต้องได้รับการดูแล หรืออย่างน้อยก็ต้องได้พักผ่อนค่ะ ไม่ควรมาเดินตามท้องถนน เพราะมีโอกาสสูงที่จะเกิดภาวะหลอดเลือดในสมองแตกได้

    สำหรับคุณ เมื่อมาถึงในระดับนี้แล้ว สิ่งที่สมควรกระทำมากที่สุด คือ การไปพบอายุรแพทย์ ทั้งนี้ เพื่อรับการตรวจยืนยันอีกครั้ง ร่วมกับการตรวจเลือด เพื่อดูระดับไขมันในเลือด และแพทย์จะซักประวัติ และถามคุณว่า ญาติในครอบครัวของคุณมีประวัติของการเกิดโรคความดันโลหิตสูงบ้างหรือเปล่า เพื่อหาสาเหตุแท้จริงที่ทำให้ความดันโลหิตสูง แล้วแพทย์อาจจะแนะนำการปฏิบัติตนของคุณ โดยเฉพาะหากพบว่าคุณมีไขมันในเลือดสูง ร่วมกับการให้ยาตามความเหมาะสม

    ห้ามไปซื้อยาจากร้านขายยาทั่วไปเป็นอันขาดนะคะ เพราะผู้ขายอย่างมาก ก็อาจเป็นเภสัชกรเท่านั้น และยาลดความดันแต่ละตัวก็มีผลต่อการรักษา และทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อร่างกายของเราไม่เหมือนกันค่ะ

    Source(s): ตอบจากประสบการณ์ที่เคยใช้ในการให้คำแนะนำแก่ผู้รับบริการของโรงพยาบาลค่ะ
  • Anonymous
    1 decade ago

    การบริจาคโลหิต ก่อนบริจาคเจ้าหน้าที่เขาจะถามเลยค่ะว่า ทานยาอะไรมาบ้าง แม้ว่าเราจะทานยาลดความดันเพื่อรักษาความดันโลหิตสูงมา เค้าก็ไม่รับค่ะ เพราะเพื่อความปลอดภัยของเราเอง แต่ก็เพื่อความปลอดภัยของผู้รับโลหิตด้วยค่ะ

    มีเพื่อนไปอยู่ ออสเตรเลีย เขาก็ไปบริจาคโลหิตที่นั่นตอนนี้ก็เป็นครั้งที่ 100 กว่าแล้ว กฏของประเทศออสเตรเลียเค้ามากกว่าเรามากเลยนะคะ ผู้บริจาคต้องแจ้งความจริงทุกอย่าง เช่นมีโรคประจำตัวอะไรบ้าง หากไม่ให้ความจริงเค้าแล้วโลหิตที่เราบริจาคไปผู้รัà��šà¹€à¸à¸´à¸”ได้รับโรคจากเลือดที่เราบริจาคเราจะมีความผิดด้วยค่ะ

    เอ..............คนแก่ข้างบนสาเหตุทุกข้อที่ให้มาของท่านทั้งนั้นนี่นา

  • How do you think about the answers? You can sign in to vote the answer.
  • ?
    Lv 6
    1 decade ago

    โยคะไงคุณ

    หายใจให้ช้าที่สุด ไปกับการยืดเหยียดส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

    จะฝึกอาณาปาณสติก็ได้คุณ

    เหล่านี้ มีผลให้ชีพจรเต้นช้าลง ความดันก็จะไม่สูงไป

    ไม่ต้องเอาตัวอย่างที่ไหนหรอก คนตอบนี่แหละ จำได้ ครั้งสุดท้ายที่ไปตรวจร่างกาย คนวัดความดันแปลกใจว่า ทำไมชีพจรเราไม่เร็วเท่าที่ควร แต่สุขภาพปรกติทุกอย่าง สมัยนั้นโยคะเป็นนิสัยถึงเสพย์ติด

    แล้วก็ อย่ารีบวัดความดันตอนพึ่งจะเดินทางมาเหนื่อย ๆ นะ หัวใจมันจะเต้นเร็วไป

    นั่งพัก ให้หายเหนื่อย ให้ผ่อนคลายเสียก่อนนะ แล้วค่อยยื่นแขนให้เค้าวัด

  • 1 decade ago

    ถ้าเลือดไม่สมบูรณ์คือ ปลอดโรค รับไปก็ต้องไปคัดแยกอีกครั้งค่ะ ถ้าเราไม่สบายไปบริจาคก็ต้องมีผลต่อเราค่ะ นี้คือการดูแลของสภากาชาด ที่ต้องการให้เราแข็งแรงแล้วจึงบริจาคได้ค่ะ

  • อันดับแรก..ไปดูว่าก่อนความดันขึ้นเพราะไปทำอะไรมา

    ดันดับต่อมาปรึกษาแพทย์ว่าเป็นความดันโลหิตสูงหรือเปล่า

    อันดับสาม ทานอาหารเค็มน้อยค่ะ

    และอันดับต่อมาห้ามดื่มสุราเด็ดขาด

    ขอภาวนาไม่ให้คุณเป็นความดันโลหิตสูงนะคะ

  • 1 decade ago

    ดีใจด้วยที่มีตั้งใจบริจาคโลหิตเช่นคุณนะ ขอเป็นกำลังใจอีกหนึ่งเสียง

    แต่คุณควรรักษาสุขภาพด้วยนะ เพราะทุกหยดเลือดที่คุณบริจาค มันมีคุณค่าต่อผู้รับไป ดังนั้นถ้าเลือดคุณดีผู้รับก็ได้รับเลือดดีๆ มันก็เป็นบุญ เป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่ทีเดียว

    ขอให้แข็งแรง แล้วไปบริจาคใหม่นะค่ะ

  • ?
    Lv 5
    1 decade ago

    หาหมอเช็คเกี่ยวกับความดัน....งดอาหารรสเค็ม ของดอง

    ทานขึ้นฉ่ายนำมาประกอบอาหาร...หอมใหญ่วันละครึ่งหัว....ช่วยในการลดความดันได้

  • เป็นกำลังใจให้นะครับ...พยายามเข้านะ เพื่อสุขภาพที่ดี จ้า...

Still have questions? Get your answers by asking now.