Yahoo Answers is shutting down on May 4th, 2021 (Eastern Time) and beginning April 20th, 2021 (Eastern Time) the Yahoo Answers website will be in read-only mode. There will be no changes to other Yahoo properties or services, or your Yahoo account. You can find more information about the Yahoo Answers shutdown and how to download your data on this help page.

Lv 57,741 points

Kid D

Favorite Answers29%
Answers1,060

รักอิสระ นักอ่านตัวยง สนใจธรรมะ ชอบวิจารณ์การเมือง

  • น้ำท่วมใหญ่ในครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณบอกอะไรให้กับประชาชนทราบ?

    น้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทยครั้งน��้

    สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศไทย

    ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน มาตรการดำเนินการต่างๆ

    ที่กำลังจัดการกันอยู่ในขณะนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ทันต่อสถานะการณ์ที่เกิดขึ้น

    มาตรการการเตือนภัย ก็เห็นพูดกันมาแล้วหลายสมัย ไม่ว่าใครเป็นนายก

    แต่เอาเข้าจริงๆ ก็แก้ไขไม่ได้ แล้วคุณคิดว่าอะไรคือปัญหา ???

    และการเกิดน้ำท่วมใหญ่ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงอะไร ???

    ปล.คำถามนี้ไม่ได้มีเจตนาโจมตีฝ่ายใด

    เพียงแต่ต้องการจะสะท้อนความรู้สึก

    จากมุมมองของคนนอกประเทศ ว่าเอาเข้าจริงๆ แล้ว

    ประเทศไทยก็ยังไม่พร้อมสำหรับการเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติใช่หรือไม่

    ถ้าใช่ อะไรคือ สิ่งที่ต้องปรับปรุง อะไรคือ สิ่งที่ต้องแก้ไข ?????

  • ถามคนไทย ไม่อยากให้คลั่งชาติแต่อยากให้ชนะด้วยเหตุผล ทำได้หรือไม่ ?

    กรณีทหารกัมพูชาได้จับกุมคุมขังคนไทย 7 คน ด้วยข้อกล่าวหาว่าบุกรุกดินแดน

    ทั้งที่ จุดเกิดเหตุนั้น ยังเป็นพื้นที่รอยต่อ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการด้านเขตแดน

    ร่วมกันระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกโกรธกัมพูชาเกลียดฮุนเซน

    หรือจะด้วยความรักและห่วงใยพี่น้องคนไทยด้วยกันเพียงใดก็ตาม

    อยากให้คนไทย ระมัดระวัง ไม่ก้าวล้ำไปสู่ความคลั่งชาติที่ใช้อารมณ์เป็นใหญ่

    แต่อยากให้ใช้เหตุผลและหลักฐานความเป็นจริงสู้กัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว

    ไม่ว่าไทยหรือกัมพูชาจะชนะ ก็ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยและประเทศกัมพูชา

    นั้นมีอาณาเขตติดต่อกัน และคนในพื้นที่รอยต่อนั้นก็เปรียบเสมือนญาติพี่น้องกัน

    ถึงแม้ว่าประเทศใดจะชนะ ก็ไม่สามารถตัดแผ่นดินหรือยกแผ่นดินย้ายหนีไปอยู่ที่อื่นๆได้

  • ถามคนไทย อนาคตของประเทศไทยควรฝากไว้ที่คนกลุ่มใด?

    ถ้าอยู่ในคนกลุ่มเด็กวัยรุ่นปัจจุบัน

    ที่เด็กหลงใหลวัฒนธรรมต่างชาติอย่างไม่ลืมตา

    ถึงกับมีคนกล่าวไว้ว่า " เด็กปัจจุบันท่อง ก ถึง ฮ ไม่ได้ แต่พูดภาษาเกาหลีได้ชัดกว่าเจ้าของภาษา "

    แสดงว่ากำลังสร้างชาติในอนาคต กลุ่มนี้น่าจะมีปัญหาหรือไม่ ??

    ถ้าอยู่ในคนกลุ่มผู้ใหญ่

    ที่กำลังเล่นกีฬาสี ทั้งสีเหลือง สีแดง สีน้ำเงิน และหลากสี

    ปัจจุบันก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วจะลงเอยที่สีไหน

    หรือบางทีผู้ใหญ่อาจจะกลายเป็นอัลไซเมอร์ไปแล้ว

    ถึงลืมไม่ว่าชาติไทยนั้น มีเพียงแดง ขาว น้ำเงิน

    อันหมายถึง ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เท่านั้น ถึงจะเป็นชาติไทยได้

    แล้วเราจะฝากอนาคตของชาติไทยไว้ในกลุ่มใด

    ถึงจะมั่นใจได้ว่านอนตายตาหลับ โดยที่ไม่ต้องระแวงว่า

    " ไทยฆ่าไทยให้ชาติอื่นครอง

    วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจัญไร "

  • ตำรวจโลกอย่างสหรัฐอเมริกา หรือตำรวจโลกอย่างจีน แบบไหนจะส่งผลกระทบต่อประชากรโลกมากกว่ากัน?

    เมื่อหลายปีก่อนที่เงินสกุลดอลล่าร์ครองตำแหน่งสกุลเงินหลักของโลกมาอย่างยาวนาน

    ส่งผลให้อเมริกามีอิทธิพลคุกคามไปทั่วโลกในฐานะตำรวจโลก

    ไม่ว่าจะเป็นสงครามในอิรักด้วยข้อหาผลิตอาวุธชีวภาพ (แต่เจตนาที่แท้จริงเพื่อปล้นน้ำมัน)

    หรืออยู่หลังองค์การสากลหลายๆแห่ง เช่น กองทุน IMF องค์กร NATO

    แต่ปัจจุบันเงินสกุลหยวนกำลังมาแรงจนหลายๆคนพยากรณ์ว่าอีกไม่นาน

    เงินหยวนจะขึ้นมาเป็นเงินสกุลหลักของโลกแทนดอลล่าร์และหลายๆคน

    ยังมองทะลุไปถึงว่าจีนอาจจะกลายเป็นสหภาพโซเวียด 2

    ซึ่งขึ้นมายืนแถวหน้าของโลกแบบเดียวกันกับอเมริกา

    ถ้าจีนกลายมาเป็นตำรวจโลกแทนอเมริกาจะส่งผลกระทบต่อประชากรโลก

    แบบเดียวกันกับที่อเมริกาเคยเป็นมาก่อนหน้านี้ หรือว่าจะส่งผลร้ายแรงกว่าอเมริกา ?????

  • คำเตือนจากอดีตที่คนไทยควรใส่ใจก่อนที่จะเสียทีชาติอื่น อ่านแล้วคิดกันอย่างไรบ้างครับ ?

    ว่ากันว่าประเทศไทยที่รอดพ้นจากวิกฤติมาได้ตลอดถึงยุคถึงสมัย ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใคร

    เพราะเรามีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ที่อยู่ในสภาพปรับตัวและตั้งรับได้ทันต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเสมอ

    ครั้งหนึ่ง เมื่อใกล้เสด็จสวรรคต ในหลวงรัชกาลที่ ๓ ท่านทรงตรัสเตือนขุนนางข้าราชการต่างๆ ว่า

    "การศึกสงครามทั้งญวนและพม่าเห็นจะไม่มีแล้ว จะมีความยุ่งยากอยู่ก็แต่ข้างพวกฝรั่ง

    ให้ระวังให้ดี อย่าเสียทีแก่เขาได้ การงานสิ่งใดของเขาที่คิดประดิษฐ์ขึ้น ควรเรียนรู้เอาไว้

    ก็ให้เอาอย่างเขา แต่อย่าให้เลื่อมใสนับถือไปทีเดียว"

    แต่สังคมไทยในปัจจุบัน เป็นสังคมที่รับเอาแบบอย่างความเจริญของสังคมตะวันตก

    เข้ามาแบบเต็มที่โดยไม่ได้มีการกลั่นกรองแต่อย่างใด ดังหนังสือ

    "มองอเมริกามาแก้ปัญหาไทย" ที่พระธรรมปิฎกได้แต่งขึ้นเมื่อปี 2525

    ท่านได้พูดถึงการตามฝรั่งของคนไทย ว่า

    - "บางอย่าง เราตามแต่เปลือก ไม่ได้เอาเนื้อมาด้วย

    - บางอย่าง เราตามฝรั่ง แต่ล้ำหน้าเลยฝรั่งไป

    - บางอย่าง เราตามฝรั่ง แต่ตามไม่ครบกระบวน

    - บางอย่าง ไปตามเรื่องที่ฝรั่งเองก็ผิดอยู่แล้ว ก็เลยผิดไปด้วย"

    นอกจากนี้พระธรรมปิฎกท่านกล่าวไว้ว่า สังคมอเมริกันนั้นมีภูมิหลังทางสังคมที่มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมอุตสาหกรรม

    จนกลายเป็นสังคมนักบริโภคนิยมอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ถึงแม้จะมีความพรั่งพร้อมทางด้านวัตถุ

    แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ชาวอเมริกันมีความสุขที่แท้จริง กลับกลายเป็นสภาพที่บีบคั้นชีวิต

    ก่อให้เกิดความกดดันกลายเป็นความทุกข์ในชีวิตและสังคม ที่ทำให้เกิดความสับสนในทางจิตใจ

    และก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "Young America Turns Eastward หรือ

    อเมริกันคนหนุ่มสาวหันไปทางตะวันออก"คือ กระบวนการที่คนรุ่นใหม่ได้หันมาสนใจศาสนาในทางตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นศาสนาฮินดู พุทธศาสนา อื่นๆ

    ยกตัวอย่างปัจจุบัน ก็คือ ปัญหาเด็กวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ในสภาวะไม่พร้อม ความไม่เข้าใจในเรื่องเพศศึกษา การใช้ถุงกร็อบแกร็บแทนถุงยางอนามัย

    รวมถึ��ปัญหาเด็กวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์โดยยังไม่มีประจำเดือน !!!!ซึ่งจากตัวเลขของสถาบันรามจิตติที่เก็บข้อมูลไว้ พบว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี

    ในฐานะพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง อดเป็นห่วงใยประเทศชาติและอนาคตของประเทศไม่ได้ จึงอยากใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อกระจายจิตสำนึกในการแก้ปัญหาของประเทศชาติร่วมกัน

  • ถ้ามีคนต่างชาติมาบอกคุณว่า "ประเทศไทยใช้นายกรัฐมนตรีเปลืองเกิดไป" ก็เลยมีปัญหา คุณจะอธิบายกับเขาว่าอย่างไร?

    นับตั้งแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง

    เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 จนถึงปัจจุบัน พ.ศ. 2554

    ระยะเวลาห่างกันเพียง 79 ปี แต่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีถึง 27 คน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ

    ประมาณ 3 ปีต่อคน ซึ่งถ้ายึดตามรัฐธรรมนูญที่ให้อยู่ในตำแหน่งได้คนละ 4 ปี ประเทศไทย

    ควรจะมีนายกรัฐมนตรีอย่างมากสุดเพียง 20 คนเท่านั้น !!!!!!

  • นักวิชาการต่างชาติมองว่า "การศึกษาของไทยมีปัญหาเพราะคนไทยสังเคราะห์ข้อมูลไม่เป็น " คุณคิดอย่างไรกับคำถามนี้?

    เมื่อวังวนของการเมืองและการศึกษาเป็นเรื่องเดียวกัน ผมได้มีโอกาสสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนหลายเชื้อชาติ เกี่ยวกับสถานะการณ์การเมืองในบ้านเรา เพื่อนๆต่างชาติผมแสดงความคิดเห็นกันว่า

    " คนไทยนั้นไม่ได้ถูกสอนให้ตั้งคำถาม ว่าสิ่งที่เรารับรู้มานั้นจริงหรือไม่ และไม่ได้ถูกสอนวิธีรับมือ ประเมินและจัดการข้อมูล /ความร้ ที่ได้มา โดยส่วนใหญ่แล้ว คนไทยจะเชื่อถือข้อมูลชุดแรกๆ ที่ได้รับฟังมาเป็นเกณฑ์ และใช้ความรู้ชุดแรกๆนั้น มาเป็นตัวประเมินข้อมูลชุดอื่นที่เข้ามาภายหลัง โดยไม่ ค่อยได้ตั้งคำถามกับข้อมูลชุดแรกที่ได้มาว่าถูกหรือผิด จริงหรือเท็จ เชื่อถือได้มากหรือน้อยแค่ไหน คำพูดใครควรน่าเชื่อถือ

    ใครไม่ควรน่าเชื่อถือ "

    โดยกลุ่มเพื่อนผมได้ตั้งข้อสังเกตกันไว้ดังนี้

    1.คนจำนวนหนึ่ง (โดยเฉพาะที่เป็น Hard Core ของสีต่างๆ) เมื่อฟังข้อมูลต่างๆมาจากแกนนำสีนั้นบนเวทีปราศรัย

    ถ้าฟังดูมีเหตุมีผลก็จะเชื่อทันที และหากแกนนำให้แนวทางในการตอบโต้ข้อถกเถียงของฝ่ายตรงข้ามแล้ว ก็จะเชื่อแกนนำอย่างมาก (เช่น การใช้วาทกรรม …เทียม , อีกฝ่ายสร้างสถานการณ์ , เรายกคนจำนวนมาก (นับพัน) ไปชุมนุมที่สถานที่ นั้นไม่ผิด เพราะเค้าปิดทำการของเขาเอง เราไปเฉยๆ เป็นต้น) และจะใช้เหตุผลชุดนี้ในการตอบโต้ฝั่งตรงข้าม

    2.หลายๆคน กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการเมืองสังคมไปในทันที (โดยไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาในด้านนั้นๆ หรือเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ มาก่อน ) เมื่อเริ่มด่าฝ่ายตรงข้า�� หรือเชิดชูฝ่ายตนเอง เช่น รัฐบาลกู้เศรษฐกิจชาติให้พ้นจาก IMF, เพราะพวกอำมาตย์มันทำให้ประเทศเราไม่เจริญ เป็นต้น

    3.เมื่อรับข้อมูลมาแล้วมักมีอารมณ์ร่วมอย่างรุนแรง โดยเฉพาะถ้าเป็นประเด็นที่ Sensitive เกี่ยวกับสถาบันฯ หรือข้อมูลเหล่านั้นเจือปนด้วยอารมณ์รุนแรง หยาบคาย เช่น ข้อมูลที่รับมาจากเวทีปราศรัย จนอารมณ์พวกนั้นบดบังความจริงอื่นๆไปหมด จนนำไปสู่การการชุมนุมประท้วงที่เน้นความรุนแรง ขาดการใช้ซึ่งเหตุและผลในการพูดคุย

    ซึ่งกลุ่มเพื่อนๆ ผมเชื่อว่า 3 ประการหลักขั้นต้นน่าจะเป็นมูลเหตุที่ทำให้การทำความเข้าใจเรื่องราวต่างๆในสังคมเป็นไปได้ยาก และขยายขอบเขตปัญหาไปสู่วงกว้าง และนำไปสู่ความรุนแรงได้ง่ายๆ

    ดังข่าวที่ปรากฎให้เห็นทั้งในโลกแห่งความเป็นจริงและโลกออนไลน์

    ซึ่งทำให้น่าคิดต่อไปว่า " ระบบการศึกษาของบ้านเรามีปัญหาจริงๆ อย่างที่เขาว่า " เพราะจากที่สังเกตข้อมูลในอดีตที่ผ่านๆ มานั้น พอสรุปได้ดังนี้คือ

    1.การศึกษาของไทยนั้นสอนให้คนเรียนความรู้ที่มีอยู่แล้วให้มากที่สุด โดยไม่ตั้งคำถามกับมันเท่าไหร่ ยิ่งจำมากก็ยิ่งดี ทำข้อสอบได้คะแนนดี เกรดดี การตั้งคำถามกับอาจารย์ผู้สอนมักไม่ได้คำตอบและถูกเบรค ด้วยเหตุผลที่ง่ายๆ คือ " คำถามนั้นไม่เกี่ยวกับบทเรียน " ( หรืออาจารย์เองก็ตอบไม่ได้เลยตัดบท )

    2. การศึกษาของไทยนั้นสอนให้ความรู้คนเพื่อออกไปทำงานหาเงินเท่านั้น แต่ไม่ได้ให้ความรู้คน เพื่อออกไปเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ ดังนั้น "จิตสำนึกต่อสาธารณะจึงไม่เกิด "การกระทำที่แสดงออกของคนส่วนใหญ่จึงเป็นการกระหน่ำซ้ำเติมหรือผลักภาระให้กับสังคม เช่น นายทุนเอาเปรียบชาวนาทรัพยากรของประเทศในด้านต่างๆ ถูกสูบเข้าสู่เมืองหลวง ทำให้ความเจริญและความแออัดรวมทั้งปัญหาด้านต่างๆ ไปกระจุกอยู่ที่ส่วนกลาง โดยส่วนภูมิภาคเป็นผู้เสียประโยชน์

    3.การศึกษาของไทยนั้นไม่ได้สอนให้คนรู้จักผิดชอบชั่วดี แต่ไปฝากเรื่องนี้ไว้กับศาสนา ซึ่งศาสนาเองก็เข้าถึงคนได้ลำบาก ทำให้คนยิ่งเรียนสูงแต่ยิ่งโง่ เช่น เรียนจบปริญญาเอกแต่แก้ปัญหาไม่ได้ก็ใช้วิธีฆ่าตัวตาย เพื่อหนีปัญหา

    โดยสรุปแล้วผมไม่อยากยอมรับข้อกล่าวหาของเพื่อนๆ ผมที่ว่า "การศึกษาของไทยมีปัญหาเพราะคนไทยสังเคราะห์ข้อมูลไม่เป็น " เพียง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถหาเหตุผล ข้อใดมาหักล้างข้อสังเกตดงกล่าวได้

    จึงอยากแชร์ความรู้กับเพื่อนๆในนี้ครับว่า ช่วยหาเหตุผลและคำอธิบายหักล้างข้อสังเกตดังกล่าวให้ผมด้วย

  • โรงเรียนกวดวิชา คือ สถานศึกษาหรือว่าธุรกิจการศึกษา?

    เร็วๆมานี้ได้ข่าวว่ารัฐบาลจะเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชา

    (จากเดิมเก็บเพียงภาษีส่วนบุคคลที่ประมาณ 30% กลายเป็นบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% )

    หลายๆ คนตั้งประเด็นกันว่า ข้อเสีย คือ

    ถ้าเก็บภาษีเพิ่มจะเป็นการปิดกั้นโอกาสในการหาวิชาความรู้ของเด็ก ๆๆ

    ทำให้ค่าเล่าเรียนแพงขึ้น และเด็กอีกหลายคน จะไม่มีโอกาสได้เข้าเรียนในโรงเรียนกวดวิชา

    ส่วนข้อดี อาจจะมีบ้าง คือ

    ถ้าเก็บภาษีจริง โรงเรียนจะมีคุณภาพในการบริการที่สูงขึ้น เพื่อแข่งขันกัน

    ทำให้เด็กๆ ได้ร���บการบริการที่ดีขึ้น

    และอีกหลายๆ คนมองว่า " โรงเรียนกวดวิชา" เป็นสิ่งจำเป็นมากต่อวงการการศึกษา (ขาดไม่ได้)

    เพราะเด็กๆ หลายคนเรียนไม่เข้าใจในห้องเรียน ก็สามารถมาเพิ่มความรู้ตนเองในโรงเรียนกวดวิชาได้

    เพราะครูสอนเข้าใจง่ายกว่าในห้องเรียน และสามารถทำคะแนนสอบได้ดีในระยะเวลาอันสั้น

    และดูเหมือนว่ารัฐบาลและคนส่วนใหญ่ ก็กำลังมองและคิดว่า " โรงเรียนกวดวิชา"

    จำเป็นต้องมี เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กๆๆๆ

    (สงสัยจะสับสนว่าการศึกษาของไทย คืออะไร ระหว่างโรงเรียนในระบบ กับโรงเรียนกวดวิชา )

    แต่ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ " เหตุใดเด็กๆ จึงต้องพึ่งโรงเรียนกวดวิชา " โรงเรียน

    ที่สอนในระบบการศึกษาของไทยในปัจจุบันนั้นพึ่งพาไม่ได้หรืออย่างไร ????????

    (ยังไม่คิดถึงครูผู้สอนบางคนที่ให้เด็กไปเรียนกวดวิชากับตัวเองเพื่อเพิ่มเกรดเฉลี่ย )

  • คุณคิดว่าภาษีมรดกลดความเหลื่อมล้ำทางฐานะได้จริงหรือยิ่งสร้างปัญหาใหม่ให้เกิดขึ้น?

    กระแสความคิดปัจจุบันมาแรงว่าการเสนอให้เก็บภาษีมรดกในประเทศไทย

    จะสามารถลดความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นลงได้ แนวคิดนี้มาจากทางตะวันตก

    ซึ่งความสัมพันธ์ทางครอบครัวต่างกันสุดขั้วกับสังคมไทยๆๆ ที่พ่อแม่จะผูกพันธ์

    กับลูกหลานจนสิ้นอายุขัย พ่อแม่สะสมทรัพย์สมบัติและมอบเป็นมรดกให้กับลูกๆ

    เพราะความรักความผูกพันธ์แต่เมื่อสิ่งนี้กลายมาเป็นสิ่งที่มีมูลค่าจนถูกนำไปคิดเป็นภาษี

    เพราะเหตุผลที่ว่าภาษีมรดกลดความเหลื่อมล้ำทางฐานะของชนชั้นได้ แล้วในความเป็นจริง

    เป็นไปได้หรือที่สังคมจะไม่มีชนชั้น ภาษีมรดกเป็นยาวิเศษขนาดนั้นเลยหรือ ต้นเหตุของ

    ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นจริงๆ อยู่ที่อะไร ??????

    แชร์ไอเดียกันนิดหนึ่งน่ะครับ

  • เหตุใดสังคมต้องมีชนชั้น เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร พูดกันด้วยเหตุผลน่ะครับ?

    มีนักประวัติศาสตร์ท่านหนึ่งได้เคยศึกษาว่า เหตุใดสังคมถึงต้องมีชนชั้น ?

    โดยท่านได้ยกประวัติศาสตร์ของชนชาติหนึ่ง มาอธิบายดังนี้

    "มีนักการทหารของชาติหนึ่งไม่เห็นด้วยที่สังคมต้องมีชนชั้นปกครองและชนชั้นผู้ถูกปกครอง

    เพราะคิดว่าชนชั้นปกครองมักจะเอาเปรียบชนชั้นผู้ถูกปกครองอยู่ร่ำไป และคิดว่า

    ความเสมอภาพทางชนชั้นนั้นสามารถสร้างได้ ดังนั้นเมื่อตัวเองมีอำนาจทางการทหารขึ้นมา

    จึงเข่นฆ่าชนชั้นปกครอง จับเอาบัณฑิตที่มีความรู้มาไถนา สถาปนาฐานะทางอำนาจของตัวเอง

    ขึ้นมาแทนที่ระบอบเก่า นำเอาชาวนาขึ้นมาเป็นชนชั้นปกครอง แต่สังคมของเขาก็หาได้มี

    ความเจริญรุ่งเรืองอย่างที่เขาคิดไม่ เพราะเมื่อสิ้นระบอบเก่าที่เป็นชนชั้นปกครอง ตัวเขา

    กลับขึ้นมาเป็นชนชั้นปกครองเองเสียเอง และจากการที่เขานำเอาชาวนาขึ้นมา

    เป็นชนชั้นปกครองนั้น โดยศักยภาพแล้วชาวนายังไม่แกร่งเพียงพอที่จะปฏิรูป

    สังคมในอุดมคติของนักการทหารรายนี้ได้ "

    ซึ่งในที่สุดแล้วนักประวัติศาสตร์ท่านนี้ก็ได้ข้อสรุปว่า

    1. เหตุที่สังคมต้องมีชนชั้นเพราะศักยภาพของมนุษย์เรานั้นไม่เท่ากัน

    2. ชนชั้นผู้ถูกปกครองนั้นสามารถที่จะพัฒนาเป็นชนชั้นปกครองได้แต่ไม่ใช่แค่เพียงข้ามคืน

    และการที่สังคมจะเจริญได้นั้น ต้องให้โอกาสและต้องมีการส่งเสริมการเพิ่มศักยภาพให้กับพวกเขา

    โดยสรุปแล้วนักประวัติศาสตร์ ท่านนี้ได้ให้ข้อคิดว่า

    " อย่าพยายามหาสังคมในอุดมคติที่ไม่มีการแบ่งชนชั้นเลย

    เพราะจะไม่มีทางค้นหาเจอ หาไปสังคมจะทะเลาะเบาะแว้งกันสียเปล่าๆ

    เพราะในที่สุดแล้ว ก็จะเป็นการสิ้นสุดของอำนาจเก่าและสถาปนาอำนาจใหม่ขึ้นมาแทนที่

    และสังคมก็จะประกอบไปด้วยชนชั้นปกครองกับผู้ถูกปกครองอยู่ร่ำไป

    สังคมที่ดีนั้นไม่ใช่เป็นเพราะสังคมไร้ชนชั้น แต่เป็นเพราะคนในสังคม

    ต่างรู้หน้าที่ของตัวเองว่าใครควรทำอะไร "

    12 Answersมานุษยวิทยา1 decade ago
  • ในสภาวะที่สังคมสับสนกับคดียึดทรัพย์ จนกลายเป็นอุปทานหมู่ คุณจะมีวิธีแนะนำเพื่อนๆคุณให้มีสติได้อย่างไร?

    ข่าวคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้าน ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้

    มีหมอดูหลายสำนักก็ออกมาให้ข่าวว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นอย่างแน่นอน

    จนมีหลายฝ่ายวิตกกังวลว่าจะเกิดเรื่องนั้นขึ้นจริงๆ หลายคนเริ่มคิดว่า

    จะต้องสะสมเสบียงไว้เพื่อป้องกันเหตุวิกฤติ หลายคนเริ่มหงุดหงิดเกิดความกังวล

    จนทานข้าวไม่ได้นอนก็ไม่ค่อยหลับ หูต้องคอยฟังเสียง ตาต้องหมั่นสังเกต

    และเท้าต้องเตรียมตัววิ่ง คนต่อคนพูดกัน ปากต่อปากเล่ากัน จนกลายเป็นหลายคน

    เริ่มเชื่อว่าจะต้องเกิด จะต้องเกิด กลายเป็นอุปทานหมู่เชื่อว่าต้องเกิด

    เรื่องร้ายแรงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน แล้วคุณจะมีวิธีแนะนำเพื่อนๆคุณให้มีสติได้อย่างไร

  • ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เหตุบังเอิญแต่ล้วนเป็นการทดสอบ แล้วคุณคิดว่าขณะนี้สังคมไทยกำลังถูกทดสอบอะไร ?

    ศาสนาพุทธ กล่าวว่าทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นจากเหตุปัจจัย ด้วยกันทั้งนั้น เกิดขึ้น ตั้งอยู่ เปลี่ยนแปลง

    แล้วดับไปในที่สุดชีวิตของคนเรากว่าจะเติบใหญ่ขึ้นมาได้ล้วนผ่านการถูกทดสอบ มากมายหลาย

    ต่อหลายครั้ง ล้มๆลุกๆ ก็หลายครั้งจนกว่าจะเข้มแข็ง ถ้าเปรียบประเทศไทยของเราว่ามีชีวิต การที่ประเทศจะเติบใหญ่มั่นคงต่อไปได้ใน วันข้างหน้าก็คงหนีไม่พ้นการถูกทดสอบเช่นเดียวกัน แล้ววันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ที่บางคนพูดกันว่า วันนี้จะเป็นวันเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของไทยไปอีกหน้าหนึ่งนั้น คุณคิดว่าสังคมไทยกำลังถูกทดสอบอะไร ???

  • ถ้าคุณเป็นชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยและรักประเทศมาก คุณอยากเห็นคดี 76,000 ล้านบาทจบลงแบบไหน ?

    ถ้าถามว่าคนไทยทั่วไปอยากเห็นคดี 76,000 ล้านบาทจบลงแบบไหน

    ก็คงมีคนถามต่อไปอีกว่า คนไทยทั่วไปนั้นสีอะไร ถ้าเป็นสีที่เป็นคู่กรณีกัน

    ก็คงอยากเห็นจุดจบของฝ่ายตรงกันข้าม และถ้าไม่ใช่คู่กรณีก็คงจะลำบากใจ

    ที่จะตอบอย่างตรงไปตรงมาว่าอยากให้สิ้นสุดลงแบบไหน ถ้าสมมุติว่าคุณ

    เป็นชาวต่างชาติที่ทั้งเกิดในเมืองไทย อาศัยอยู่ในเมืองไทย และรักประเทศไทย

    ไม่น้อยหน้าคนไทยคนไหน คุณอยากเห็นคดี 76,000 ล้านบาทจบลงแบบไหน ???

  • คุณคิดอย่างไรกับคำว่า "ธรรมาภิบาลไม่มีในระบบราชการไทย "?

    ระบบธรรมาภิบาลเป็นเรื่องที่ดีที่ข้าราชการควรปฏิบัติ

    แต่ถ้ามีคนกล่าวว่า "ธรรมาภิบาลไม่มีในระบบราชการไทย "

    แล้วคุณรู้สึกอย่างไร

  • คำพูดที่ว่า "ความงามของผู้หญิงเป็นภัยแก่ตัวเอง "งามในที่นี้หมายถึงอะไรครับ?

    ได้ยินผู้ใหญ่หลายๆคน มักจะชอบบอกลูกหลานตัวเองที่เป็น

    ผู้หญิงให้รักนวลสงวนตัว แต่ผู้หญิงโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่ค่อยใส่ใจ

    อาจเป็นเพราะผู้หญิงยุคใหม่มีความมั่นใจในตัวเองที่สูงขึ้น

    จึงไม่ค่อยใส่ใจกับคำพูดนี้ มีคำพูดหนึ่งที่เคยได้ยินมานานแล้ว

    ที่ว่า " ความงามของผู้หญิงเป็นภัยแก่ตัวเอง "

    น่าจะเป็นคำเตือนที่ดูเหมาะสมกับผู้หญิงยุคปัจจุบันมากกว่า

    แต่คำว่างามในที่นี้น่าจะมีความหมายที่ค่อนข้างกว้างมากทีเดียว

    จึงอยากทราบความคิดเห็นของเพื่อนๆกันหน่อยน่ะครับว่า

    คำว่างาม ในที่นี้หมายถึงอะไร และผู้หญิงจะต้องปฏิบัติตัวเช่นไร

    ครับ ถึงจะไม่เป็นภัยกับตัวเอง

    8 Answersปรัชญา1 decade ago
  • สอนให้เด็กทารกนับนิ้วมือเพื่อบอกหวย ทำให้หวยไม่เคยหมดไปจากประเทศไทยสักที คุณคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่?

    สังเกตเห็นผู้ใหญ่ๆหลายๆคน ที่มีลูกมีหลานที่อยู่ในวัยเด็ก จะชอบสอนให้เด็กนับนิ้วมือตัวเอง

    เพื่อบอกว่าหวยที่จะออกในแต่ละงวดเป็นเท่าไหร่ แล้วบางคนยังมีความเชื่อแบบผิดๆๆ

    เช่น เชื่อว่าเด็กทารกที่ยังไร้เดียงสานั้นจะให้หวยแม่น

    คนไทยหลายๆคน มักจะพูดว่าเด็กเปรียบเสมือนผ้าขาวสอนอะไรให้ เติมสีอะไรให้

    เด็กก้อจะจดจำแล้วทำสิ่งนั้นแต่กลับลืมไปว่า ตัวเองสอนให้เด็กเล่นหวยตั้งแต่ยังเล็กๆๆ

    แล้วเมื่อเด็กโตขึ้นมาจะเกิดการซึมซับพฤติกรรมนี้เข้าไปโดยไม่รู้ตัวหรือไม่ จะเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย

    ถ้าวันหนึ่งเด็กในวัยชั้นประถมศึกษารอลุ้นหวยที่จะออกในแต่ละงวด จนขาดสอบที่โรงเรียน ????

    7 Answersสังคมวิทยา1 decade ago
  • เพราะหินก้อนเดียวแท้ๆ สังคมจึงมีคนเห็นแก่ตัวเต็มบ้านเมือง มาช่วยกันคิดดีกว่าน่ะครับว่าจะทำยังไง?

    คำถามนี้มาจากคำถามต่อเนื่องที่ว่า ถ้าคุณป่วยเป็นโรคร้ายแรงมีทางเดียวที่จะรอดชีวิตคือการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ แล้วคุณได้เจอโคลนนิ่งของคุณเข้า คุณจะเลือกตัดสินใจแบบไหน ?? แล้วผมทิ้งท้ายไว้หน่อยตรงที่ว่า มีการทดลองทางจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงมากบนข้อสมมุติฐานที่ว่า " ถ้าตราบใดที่มนุษย์สามารถที่จะยัดเยียด

    ความผิดพลาดของตัวเองให้กับผู้อื่นได้อย่างไร้ขีดจำกัด เมื่อนั้นขอบเขตคำว่าศีลธรรมหรือความถูกต้องจะกลายเป็นศูนย์ "

    คำถาม���ี้จริงๆแล้วใกล้ตัวเราๆท่านๆกันมากๆๆ แต่คนส่วนใหญ่มักมองกันไม่ออก

    สมัยเมื่อเรายังเด็กเวลาเราเดินสะดุดก้อนหินล้มลง แล้วร้องไห้พ่อและแม่ของคนส่วนใหญ่

    ก็จะบอกกับลูกตนเองว่าเป็นความผิดของก้อนหิน ต่างพากันด่าก้อนหินมั่ง ทุบก้อนหินมั่ง

    ว่าเป็นสาเหตุแห่งความผิด ทำให้เด็กๆสบายใจขึ้นแล้วหยุดร้องไห้ ( ซึ่งตรงกับทฤษฎีทางจิตวิทยา

    ว่าเป็นการปรับตัวแบบโทษผู้อื่นหรือการโยนบาป (Projection) ซึ่งเป็นการอ้างความผิดของคนอื่นขึ้นมา

    ลบความผิดของตน เพื่อทำให้ตนเองสบายใจ )

    แล้วเชื่อมั๊ยว่าเพราะ พฤติกรรมเล็กๆแค่นี้ทำให้เราเกิดการฝังใจ เกิดการโยนความผิดให้กับคนอื่นมาตั้งแต่เด็ก

    จนโตก็ยังชอบหรือนิยมที่จะโยนความผิดให้กับคนอื่นๆอยู่เสมอ นั้นคือ สภาวะการรับรู้ผิดชอบ

    ชั่วดีหรือของเรานั้น ค่อนข้างอ่อนไหวได้ง่ายมากๆ ยิ่งถ้าสามารถยัดเยียดความผิดออกไป

    ได้ไกลตัวมากเท่าไหร่เราจะยิ่งสบายใจ จนสังคมเราทุกวันนี้ส่วนใหญ่กลายเป็นสังคมเห็นแก่ตัวไป เพราะก้อนหินก้อนนั้นหรือเปล่า ??????

  • ถ้าคุณป่วยเป็นโรคร้ายแรงมีทางเดียวที่จะรอดชีวิตคือการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ แล้วคุณได้เจอโคลนนิ่งของคุณเข้า?

    ถ้าคุณป่วยเป็นโรคร้ายแรงมีทางเดียวที่จะรอดชีวิตคือการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ

    แล้วคุณได้เจอโคลนนิ่งของคุณเข้าโดยบังเอิญ คุณจะเลือกตัดสินใจแบบไหน ??

    ระหว่างเปลี่ยนถ่ายอวัยวะซึ่งอาจจะทำให้มนุษย์โคลนนิ่งต้องตาย

    หรือยอมตายแต่โดยดีโดยไม่ยอมเปลี่ยนถ่ายอวัยวะกับมนุษย์โคลน

    ปล. คำถามนี้ได้มาจากการทดลองทางจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงมาก

    บนข้อสมมุติฐานที่ว่า " ถ้าตราบใดที่มนุษย์สามารถที่จะยัดเยียด

    ความผิดพลาดของตัวเองให้กับผู้อื่นได้อย่างไร้ขีดจำกัด เมื่อนั้น

    ขอบเขตคำว่าศีลธรรมหรือความถูกต้องจะกลายเป็นศูนย์ "