อวสานนโยบายประชานิยมของพรรคการเมืองไทยจะสิ้นสุดลงแบบไหน และสุดท้ายแล้วคนไทยจะได้อะไร ?

ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับคิดดี

เข้าเรื่อง..(ว่าจะไม่ตอบปัญหาการเมืองแล้วเชียว)

นโยบายประชานิยม

เป็นเสมึอนกับดัก

หรือยาเบึ่อ

ซึ่งผู้รับช่วงจากต่างพรรค มักจะตกม้าตาย

มีแค่เหตุผลง่ายๆ คือ กลัวโดนเยาะเย้ยว่าลอกแบบพรรครํฐฯเก่า และไม่อดทนพอที่จะรับคำเยาะหยันแล้วพิสูจน์ด้วยฝีมือ

แถมสร้างนโยบายประชานิยมใหม่ๆเข้าประชันขันแข่ง แล้วถังแตกบานออกมากกว่าเก่า

ครับเหมือนคนใส่สูทแต่นุ่งกางเกงตูดปะ อย่างไรก็อย่างนั้น

วิธีแก้คือพวกเราประชาชน ต้องเลิกอคติและเลิกเสียดสี ความคิดต่างแบบที่ผ่านมาเสียก่อน มองการเมืองด้วยเหตุผล

ผิดจึงแย้ง ถูกต้องเสริม

มาถึงตรงประชาชนในโลก"ไซเบอร์"นี่แหละต้องถามตัวเองว่า Mature หรือยัง

ถ้า mature แล้ว ก็ต้องรู้จักคิดแบบสร้างสรรค์

ครับชาติไทยไม่ต้องการนักพูดอีกต่อไป แต่เราต้องการนักทำที่มีหัวใจหนักแน่น

และไม่หวังผลตอบแทนใดๆจากการเสียสละทางการเมือง

เราต้องการคุณจริงๆ

เห็นด้วยกับความคิดของคุณ Kid D และคุณ Nick

ผมว่าเป็นเพราะประชาชนคนไทยชอบแบบนี้ ( ยุคนี้ มือใครยาวสาวได้สาวเอา อยากได้ปลา มากกว่าได้วิธีหาปลา ) พรรคการเมืองแต่ละพรรคก็เลยต้องทำแบบนี้ สถาบันการศึกษาและสถาบันต่าง ๆ ยังทำให้คนไทยมีความเป็น อารยะ ไม่พอ

แต่ก็คิดว่า เขาประชานิยมแบบมีขอบเขตบ้าง คงไม่ถึงขนาดประเทศที่มีปัญหาไปแล้ว และประชานิยมก็เหมาะสำหรับช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ถ้าไม่ใช่ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจก็ควร ลด ละ เลิก ประชานิยม

( นักเศรษฐศาสตร์เขาบอกว่า ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ แค่เอาเงินไปแจกประชาชนเฉย ๆ ก็กระตุ้นเศรษฐกิจได้ )

ไม่ใช่แค่อาร์เจนติน่า แม้แต่ประเทศต่างๆในยุโรปเองก็พบปัญหาเดียวกัน

เรื่องมันเป็นเพราะมีผู้เริ่มต้น ดังนั้นพรรคอื่นๆก็เลยต้องประชันสู้ ไม่อย่างนั้น

คะแนนเสียงก็หดหายไป

สำหรับที่ถามว่าจะสิ้นสุดลงแบบไหน - แบบคลังหมดต้องกู้จนค่าเงินบาทตกต่ำ

หรือจนไม่มีที่ไหนให้กู้

และที่ถามว่าคนไทยได้อะไร ก็ได้ใช้หนี้ครับ นอกจากภาษีต่างๆที่ต้องเสียและเสีย

เพิ่มขึ้นในที่สุด อาจต้องระดมคนไทยช่วยกันบริจาคข้าวของ ทองหยอง สมบัติต่างๆ

เพื่อใช้หนี้

กรณีต่างๆ เหล่านี้จะคลี่คลายลงได้ ก็ต่อเมื่อประเทศไทย มีชุมชนที่เข้มแข็ง มีประชาชนที่มีคุณภาพ สามารถพึ่งพาตนเองได้ ยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง เมื่อประชาชนเข้มแข็ง ชุมชนเข้มแข็ง เกิดสังคมที่เข้มแข็ง ก็จะนำมาซึ่งการเมืองที่เข้มแข็งตามไปด้วย เหมือนพืชที่มีรากแก้วหยั่งลึกลงดิน ไม่ได้มีแต่รากฝอยน้อยๆ ที่เกิดจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การตอน ต่อกิ่ง ต่างๆ ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อถึงวันนั้น เราจะมีรัฐบาลที่เป็นผู้ที่ทำหน้าที่แทนสังคม ดูแลสังคม และเป็นตัวแทนของประเทศ ไปทำหน้าที่แทนเราประชาชนได้อย่างแท้จริง ครับ

ในการที่รัฐบาลแต่ละรัฐบาลมักจะมุ่งเน้นออกนโยบายประชานิยมนั้น อยากให้ทุกคนลองพิจารณาดังนี้

1. วัตถุประสงค์ในการออกนโยบายประชานิยมนั้นเพื่ออะไร เพื่อหาเสียง หรือ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

ถ้าเราลองมองนโยบายประชาวิวัฒน์ อันแรกคือการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ประเด็นอยู่ที่ว่ารัฐบาลแก้ปัญหาด้วยวิธีใด ถ้าแก้ปัญหาด้วยการให้ธนาคารรัฐออกเงินกู้ให้เพื่อนำเงินไปใช้หนี้นอกระบบ เห็นว่าต้องระวังเป็นอย่างดีเพราะการให้สินเชื่อเพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบด้วยวิธีนี้อาจเป็นการส่งเสริมให้ชาวบ้านกู้เงินเพื่อใช้เงินแล้วก็ทำอย่างนี้เรื่อย ๆ

2. รัฐบาลพิจารณาผลในระยะยาวหรือไม่ ถ้านโยบายดังกล่าวกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็คุ้มนะประชาชนคนไทยได้ประโยชน์ ถ้านโยบายดังกล่าวมุ่งเน้นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และรัฐบาลพิจารณาแล้วว่าสามารถหารายได้มาชดเชย ก็สมควรทำ

เพ็ญว่า ประชานิยมเป็นเรื่องที่ดีมากนะฮ้าา

เหมือนเรื่องกà��²à¸£à¹„ปเลือกตั้ง ก็เป็นสิ่งที่ดี

แต่พรรคการเมืองมันเอามาแปลงรูป ให้ขนาดพอดีปากของพวกมันนี่สิแสนเลวฮ่ะ

ไม่ใช่ประชาชนเลว แต่พรรคการเมืองเลว จริงไหมฮ้าาา

ประชาชีและประชาชน ก็ต้องเบิกเนตรกว้า่งๆ

อย่าอ่านแต่เรื่องการเมืองของค่ายเหลืองอย่างเดียว และค่ายแดงอย่างเดียว

ประชาชน ต้องทำเพื่อชาติ ไม่ใช่ทำเพื่อพวกพ้อง เพื่อเงินไม่กี่ร้อยบาท

และอย่าทำเพื่อสี เพื่อพ่อบุญธรรมที่มันปั่นให้โลกอลเวง

เข้าใจที่เพ็ญพูดหรือปล่าวฮ้าาาา

คำตอบคือ อีกหน่อยเงินในคลังหมด

ประชาชนก็ต้องเดินสายขายตัวยังต่างประเทศเหมือนชาติไหนไม่อยากพูดน่ะฮ่ะ

ตอบสั้นๆว่า

อนาคตประเทศถังแตก

พร้อมกับคนไทยเป็นหนี้ถึงรุ่นเหลนครับ

จบลงตรงที่ประชาชนอย่างเราๆท่านๆต้องก้มหน้าชดใช้กรรมที่ก่อบ้าง ไม่ได้ก่อบ้าง..คะ

เมื่อยุบสภาครับ ส่วนคนไทยก็ฝันค้างงัยครับ